Adidas แบรนด์เยอรมัน แจ้งเกิดโดยนักวิ่งอเมริกันผิวดำ ในโอลิมปิกพรรคนาซี

Adidas หรือ อาดิดาส เป็นแบรนด์กีฬาสัญชาติเยอรมัน ที่มีความยิ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากไนกี้ของอเมริกัน และยังเป็นสปอนเซอร์ให้กับนักกีฬา และทีมกีฬาในการแข่งขันกีฬาระดับโลกมาแล้วมากมายหลายรายการ โดยเฉพาะฟุตบอลทีมชาติเยอรมัน ที่อาดิดาสให้การสนับสนุนมานานกว่า 70 ปี แม้ล่าสุดสัญญาจะเปลี่ยนมือไปยังคู่แข่งอย่างไนกี้

แต่รู้หรือไม่ว่ากว่ารองเท้า “อาดิดาส” จะกลายเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเยอรมัน จุดเริ่มต้นความโด่งดังนั้นเกิดจากนักกรีฑาผิวดำสัญชาติอเมริกันที่ชื่อ เจสซี โอเวนส์ (Jesse Owens) เพราะเขาสามารถคว้าเหรียญทองมาได้ถึง 4 เหรียญจากการวิ่งระยะสั้น จนกลายเป็นดาวเด่นของการแข่งขันในครั้งนั้น

เจสซี โอเวนส์ เครดิต wsj

เหตุการณ์นี้อาจเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะธรรมดาสำหรับการแข่ง “โอลิมปิก” แต่สิ่งที่สำคัญให้เรื่องนี้ยังถูกพูดถึงอยู่เรื่อยๆ ก็เพราะโอลิมปิกในครั้งนั้นคือ “เบอร์ลินเกมส์” จัดขึ้นในปี 1936 ถือเป็นยุครุ่งเรืองของ “พรรคนาซี” ภายในการนำของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ หรือ Adolf Hitler

เนื่องจากในช่วงนั้นสถานการณ์ทางการเมืองของหลายประเทศทั่วโลกกำลังอยู่ในความวุ่นวาย และการช่วงชิงอำนาจ ฮิตเลอร์ จึงถือโอกาสใช้มหกรรมกีฬาระดับโลกครั้งนี้เป็นการแสดงแสนยานุภาพของพรรคนาซี และประเทศเยอรมนี เพราะแม้แต่สนามกีฬายังต้องสร้างขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะเพื่อให้เขานำรถขึ้นไปบนนั้น และเปิดตัวได้อย่างอลังการ ดังนั้นเขาจึงตั้งความหวังกับนักกีฬาทีมชาติตัวเอง และประเทศพันธมิตรเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกีฬาประเภท “ลู่และลาน” ประกอบด้วยการแข่งขันกรีฑาหลายอย่าง เน้นการวิ่ง การกระโดด และการขว้าง

แต่ความฝันของฮิตเลอร์ก็ถูกดับลงโดยนักวิ่งจากสหรัฐ “เจสซี โอเวนส์” ที่กลายเป็นเจ้าเหรียญทอง ทำให้ฮิตเลอร์ไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก (มีข่าวลือว่าเขาไม่ยอมลงมาในพิธีมอบเหรียญด้วยซ้ำ) เพราะเจสซีไม่ใช่ชนชาติอารยันแถมยังเป็นคนผิวดำอีกด้วย แต่สิ่งหนึ่งที่มาพร้อมกับความสำเร็จของเจสซีที่อาจจะมองว่าเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้ก็คือ ช่วงก่อนลงแข่งมีสองพี่น้องช่างทำรองเท้านำรองเท้าที่มีปุ่มหนามใต้พื้นรองเท้ามาให้เขาใช้ใส่แข่งแม้ว่าจะไม่ได้เป็นสปอนเซอร์ให้กับเจสซีก็ตาม

เจสซี โอเวนส์ ในเบอร์ลินเกมส์ 1936 เครดิต German Federal Archives 

 

ผู้ที่เอารองเท้ามาให้เจสซีก็คือ สองพี่น้องชาวเยอรมัน ที่กำลังเริ่มต้นทำธุรกิจผลิตและซ่อมรองเท้ากีฬาในโรงงานเล็กๆ ที่บ้านเกิดของพวกเขาในชื่อ “Sportfarbrik Gebrüder Dassler” หรือ “Geda” ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง โดยพวกเขาฝันอยากจะสร้างรองเท้ากีฬาที่มีชื่อเสียงในระดับโลกให้ได้ ซึ่งชื่อของพวกเขาก็คือ อาดอล์ฟ (อาดิ) ดาสเลอร์ และ รูดอล์ฟ ดาสเลอร์

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเจสซีเองก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้ชมในขณะนั้นให้ความสนใจรองเท้าที่เขาใช้ลงแข่ง และไม่ใช่แค่เจสซีเท่านั้นแต่ยังมีนักกีฬาคนอื่นใส่รองเท้าที่เหมือนกับเจสซี และคว้าเหรียญทองมาได้อีกเช่นกัน

รวมแล้วนักกีฬาที่ใส่รองเท้าของพี่น้องดาสเลอร์คว้าเหรียญมาได้รวมได้ 17 เหรียญ ดังนี้ 7 เหรียญทอง, 5 เหรียญเงิน และ 5 เหรียญทองแดง ส่งผลให้โค้ช และนักกีฬาคนอื่นๆ ให้ความสนใจรองเท้าของพี่น้องดาสเลอร์มากขึ้น และหลังจากนั้นพวกเขาก็ขายรองเท้าได้ประมาณ 2 แสนคู่ในช่วงเวลาหลายปีก่อนโลกจะเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 และโรงงานของพี่น้องดาสเลอร์ ถูกนำไปผลิตสินค้าสำหรับกองทัพเยอรมันแต่หลังจากนั้นอาดิดาสก็ได้ฟื้นฟูกิจการกลับมาได้ และเริ่มขยายตลาดไปทั่วโลก

อาดอล์ฟ (อาดิ) ดาสเลอร์ เครดิต Adidas

แม้ว่ากิจการของพี่น้องดาสเลอร์จะไปได้ดีแต่พวกเขาเองก็มีความขัดแย้งกันอยู่เรื่อยๆ จนในที่สุดพวกเขาตัดสินใจแยกทางกัน โดย อาดิ ดาสเลอร์ ก่อตั้งบริษัท “อาดิดาส” ขึ้นมาในปี 1949 จากชื่อเล่นของตัวเอง “อาดิดาส” ส่วน รูดอล์ฟ ดาสเลอร์ ก็ได้ก่อตั้งบริษัท “พูมา” ขึ้นมาในปีเดียวกัน และเริ่มกลายเป็นคู่แข่งกันตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา

อาดอล์ฟ (อาดิ) ดาสเลอร์ และ รูดอล์ฟ ดาสเลอร์ เครดิต medium

เครื่องหมายการค้าของ อาดิดาส และพูมา ตอนก่อตั้งธุรกิจ เครดิต medium

ต่อมาอาดิดาสได้จดทะเบียนสัญลักษณ์สามแถบหรือว่า Three stripes เป็นเครื่องหมายการค้าอย่างเป็นทางการในปี 1952 และกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก หลังจากแบรนด์ก็เป็นสปอนเซอร์ให้นักกีฬาชื่อดังมากมาย เช่น มูฮัมหมัด อาลี และเซเรน่า วิลเลียมส์ รวมถึงแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ออกมามากมายทั้งเสื้อผ้า และอุปกรณ์กีฬา จนกลายเป็นแบรนด์กีฬาที่มีชื่อเสียงมาจนถึงปัจจุบัน

อ้างอิงข้อมูล : business of business, wsj และ habilitateblog

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์