Gen Z ไม่สนเหล้าเบียร์ เมาแล้วไม่เท่ บางคนเคยสูญเสียพ่อแม่จาก Alcoholism
เทรนด์ Sober Curious มาแรง Gen Z ไม่สนเหล้าเบียร์ มองคนเมาว่า ‘ไม่คูล’ บางเคสเผยเคยสูญเสียพ่อแม่จากพิษสุราเรื้อรัง (Alcoholism) ทำให้ยิ่งถอยห่างจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
KEY
POINTS
- ผลสำรวจของ Gallup เมื่อปีที่แล้วเผยว่า ผู้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วงวัย 18 - 34 ปี (เทียบได้กับคนรุ่น Gen Z และ Gen Y ตอนปลาย) ดื่มลดลงจาก 72% เหลือ 62% บางคนไม่ดื่มเลยเพราะเคยเสียพ่อแม่จากการติดเหล้า
- พฤติกรรมการไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของคนรุ่นใหม่ นำมาซึ่งเทรนด์ใหม่ๆ เช่น dry January, sober conscious, sober curious มีทั้งงดดื่มไปเลย หรือหันไปดื่มเครื่องดื่ม Non-Alcohol แทน
- ค่านิยมคนรุ่นใหม่ไม่ชอบดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดันธุรกิจเครื่องดื่ม Non-Alcohol เติบโตเพิ่มขึ้น 35%
เทรนด์ Sober Curious กำลังมาแรงในหมู่ชาว Gen Z หมายถึงการใช้ชีวิตที่สนุกสนานได้โดยไม่ต้องดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือเลือกเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์มาทดแทน ชาว Gen Z มองว่าคนที่มีพฤติกรรมเมาเละเทะ ดูไม่เท่ ไม่น่าคบ เทรนด์นี้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนดันธุรกิจ “เครื่องดื่ม Non-alcohol” เติบโตพุ่งแรง 35%
Gen Z ไม่สนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มองคนเมาว่าไม่เท่ บางคนเคยสูญเสียพ่อแม่เพราะติดเหล้า
หนึ่งในเคสตัวอย่างคนรุ่น Gen Z ที่ไม่ดื่มเครื่องดื่มมึนเมาเลยก็คือ “เรเชล” นักศึกษาระดับปริญญาตรีวัย 26 ปี ในเมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา เธอให้ข้อมูลผ่านนิตยสาร Fortune ว่า ไลฟ์สไตล์ของเธอในวันว่างส่วนใหญ่จะใช้เวลาว่างอยู่ที่โรงละครชุมชน ร้านกาแฟท้องถิ่น หรือทำงานอาสาสมัคร มากกว่าการไปเที่ยวตามบาร์หรือปาร์ตี้ดื่มเหล้า แม้ว่าเมืองนี้จะมีวัฒนธรรมการดื่มเป็นเรื่องปกติ แต่เธอและกลุ่มเพื่อนวัยยี่สิบกว่าๆ ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยดื่มเหล้าเบียร์
นอกจากนี้เธอยังเผยถึงเหตุผลที่เธอไม่ชอบดื่มเหล้าว่า มาจากประสบการณ์ที่ เธอต้องสูญเสียพ่อแม่ไปเพราะภาวะติดสุราเรื้อรัง หรือ Alcoholism มันทำให้เธอระมัดระวังมากขึ้นในการบริโภค ยิ่งทุกวันนี้ก็มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับอันตรายของแอลกอฮอล์ต่อสุขภาพมากขึ้น จึงมีส่วนทำให้ Gen Z จำนวนมาก เริ่มตระหนักรู้และถอยห่างจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปเรื่อยๆ
“ฉันเคยถามตัวเองว่าทำไมถึงไม่ชอบดื่มสังสรรค์ ซึ่งก็ค้นพบว่า ตัวเองชอบใช้เวลาทำงานอดิเรกที่สร้างสรรค์ และการดูแลตัวเองมากกว่า ไม่ชอบการเมาหัวราน้ำ แล้วมันก็เหมือนเป็นแรงดึงดูดให้เจอคนไม่ชอบดื่มเหมือนๆ กัน มีคนรุ่นเดียวกันอีกมากที่ไม่ชอบดื่ม” เธอเล่า
พฤติกรรมไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของ Gen Z นำมาสู่เทรนด์ sober curious ค่านิยมไม่ชอบเมา
คำบอกเล่าของเธอไม่ผิดจากความเป็นจริง เพราะเมื่อดูข้อมูลตามตามผลสำรวจของ Gallup เมื่อปีที่แล้ว พบว่า ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา กลุ่มผู้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นครั้งคราวในช่วงอายุระหว่าง 18 - 34 ปี (เทียบได้กับคนรุ่น Gen Z และ Gen Y ตอนปลาย) รายงานว่าพวกเขาดื่มลดลงจาก 72% เหลือ 62% ขณะที่กลุ่มผู้ที่ดื่มเป็นประจำในช่วงอายุเดียวกัน ก็รายงานว่าพวกเขาดื่มลดลงเช่นกัน โดยลดลงจาก 67% เหลือ 61%
ผลสำรวจข้างต้นแสดงให้เห็นว่า พฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของคนรุ่นใหม่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และเกิดเทรนด์การดื่มใหม่ๆ เพิ่มขึ้นในสังคม เช่น dry January, sober conscious, sober curious ซึ่งทั้งหมดนี้หมายถึงค่านิยมไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีทั้งงดดื่มไปเลย หรือหันไปเลือกดื่มเครื่องดื่ม Non-Alcohol ทดแทน
บางคนบอกว่าเทรนด์เหล่านี้ทำให้ชาว Gen Z กลายเป็นรุ่นที่ไม่สนุกสนาน แต่ เรเชล ไม่เห็นด้วยและบอกว่าการงดดื่มเหล้าเบียร์ไม่เกี่ยวกับว่าชีวิตจะสนุกน้อยลง แต่ตรงกันข้าม มันทำให้เธอสนุกได้มากกว่าต่างหาก แถมยังช่วยให้เธอนอนหลับได้ดีขึ้น มีสติในการสร้างสรรค์งานต่างๆ หรือสนุกไปกับปาร์ตี้ได้มากขึ้นด้วย เธอและเพื่อนรุ่นเดียวกันมองว่า ไม่มีใครอยากมีพฤติกรรมเมาเละเทะในงานปาร์ตี้ และแน่นอนว่าไม่มีใครชอบคนแบบนั้น
นักวิจัยเผย ปัจจัยที่ทำให้ Gen Z ไม่ชอบดื่มเหล้าเบียร์
อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนคงสงสัยว่า ปัจจัยที่ส่งผลให้ชาว Gen Z จำนวนมาก เริ่มไม่สนใจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือมีการดื่มลดลงนั้น เกิดจากอะไร?
ในมุมมองของนักวิชาการอย่าง บรู๊ก อาเทอร์เบอร์รี (Brooke Arterberry) นักวิจัยจากสถาบันวิจัยสังคมแห่งมหาวิทยาลัยมิชิแกน ซึ่งศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคนหนุ่มสาวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อธิบายว่า ค่านิยมของคนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนแปลงดังกล่าวน่าสนใจมาก แม้ยังคงไม่มีคำตอบชัดเจน (ซึ่งต้องการการศึกษาวิจัยให้มากกว่านี้ก่อน) แต่หากมองในภาพรวม เธอคิดว่าอาจเกิดจากปัจจัยหลายประการรวมกัน ไม่ว่าจะเป็น
- คนรุ่น Gen Z เข้าสังคมในโลกความจริงน้อยลง แต่ใช้เวลาอยู่ในโลกออนไลน์มากกว่า
- บรรทัดฐานทางสังคมอาจเปลี่ยนแปลงไป เด็กรุ่นใหม่ได้รับการเลี้ยงดูแตกต่างจากยุคอดีต
- เข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับอันตรายของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้มากกว่าในอดีต
- มีแรงกดดันทางสังคมที่เพิ่มมากขึ้น คนหนุ่มสาว Gen Z รู้สึกอยากการประสบความสำเร็จเร็ว จึงพยายามทำสิ่งต่างๆ ที่นำพาสู่เป้าหมาย ไม่เสียเวลาไปกับการดื่มเหล้าเมายา
- ความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ คนรุ่นใหม่บางคนมีรายได้จำกัด และมองว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์คือของฟุ่มเฟือย
- การใช้กัญชาที่เพิ่มมากขึ้น ก็ส่งผลกระทบให้คนรุ่นใหม่ดื่มเหล่าเบียร์ลดลงได้เช่นกัน
นอกจากนี้บางส่วนยังมองว่าการไม่ดื่มนั้นช่วยประหยัดได้ อย่าง เรเชลเองก็บอกว่า แม้ว่าการประหยัดเงินอาจไม่ใช่เหตุผลหลักที่ทำให้เธอไม่ชอบดื่ม แต่เธอก็ยอมรับว่ามันให้ประโยชน์ในเรื่องการประหยัดได้ด้วยจริงๆ ในฐานะนักศึกษาระดับปริญญาตรี เธอไม่มีเงินเหลือใช้มากนัก ยิ่งค่าครองชีพทุกวันนี้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องก็ยิ่งต้องประหยัด
นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพในระยะยาวอีกด้วย การดื่มแอลกอฮอล์อาจทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บและภาวะแทรกซ้อนต่างๆ มากมาย ซึ่งนั่นหมายถึงค่ารักษาพยาบาลแสนแพงที่จะตามมาในอนาคต ซึ่งเธอไม่อยากเสียเงินแพงๆ เพื่อรักษาโรคที่ตัวเราก่อขึ้นมาเอง
ค่านิยม Gen Z ไม่ชอบเมา ดันธุรกิจเครื่องดื่ม Non-Alcohol เติบโตแรง
ค่านิยมคนรุ่นใหม่ที่ไม่ชอบดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นี้ ไม่เพียงดีต่อสุขภาพและดีต่อการเงินส่วนบุคคลเท่านั้น แต่ยังสร้างแรงกระเพื่อมให้ธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (Non-Alcohol) ให้เติบโตมากขึ้น จนขยายตัวกลายเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ตามข้อมูลของ NielsenIQ รายงานในปี 2023 พบว่า ยอดขายเบียร์-ไวน์-สุราที่ปราศจากแอลกอฮอล์ พุ่งสูงถึง 565 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับปี 2022
ขณะที่ข้อมูลจาก แอนดรูว์ แคตซ์ (Andrew Katz) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ Athletic Brewing ซึ่งเป็นบริษัทเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์ชื่อดังในอเมริกาเหนือ อ้างว่าเครื่องดื่มของบริษัทได้รับความนิยมอย่างมาก และได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคว่ามีรสชาติใกล้เคียงกับเบียร์จริงมากที่สุด อีกทั้งจากการสำรวจของบริษัทพบว่ากลุ่มลูกค้าที่ชอบดื่มเบียร์ในช่วงสุดสัปดาห์เป็นประจำนั้น พวกเขาเปลี่ยนจากเบียร์มีแอลกอฮอล์ หันมาดื่มเบียร์ปราศจากแอลกอฮอล์มากขึ้นจริงๆ ซึ่งมีส่วนทำให้บริษัทเติบโต
แคตซ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในคนรุ่น Gen Z บอกอีกว่า การที่คนรุ่นใหม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์น้อยลง ถือเป็นพฤติกรรมที่ขับเคลื่อนให้เกิดความเปลี่ยนแปลงด้านการดูแลสุขภาพไปพร้อมกัน ทั้งสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตใจ เนื่องจากทุกวันนี้ข้อมูลทางสุขภาพต่างชี้ตรงกันว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลเสียต่อการนอนหลับและสุขภาพด้านอื่นๆ อย่างมากมาย
ในปัจจุบัน บริษัท Athletic มีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 800 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามรายงานวอลล์สตรีทเจอร์นัล อีกทั้งยังมีส่วนแบ่งการตลาดที่ใหญ่ที่สุด (มากกว่า 19%) ในกลุ่มธุรกิจเบียร์ไม่มีแอลกอฮอล์ ตามรายงานของ NielsenIQ นอกจากเบียร์ Non-alcohol ของแบรนด์นี้แล้ว ในปัจจุบันก็พบว่ามีเบียร์ทางเลือกอีกหลากหลายแบรนดชื่อดังในท้องตลาด ไม่ว่าจะเป็น Blue Moon, Budweiser, Corona, Guinness และ Heineken 0.0 ซึ่งแข่งขันกันนำเสนอสินค้าปราศจากแอลกอฮอล์ต่อผู้บริโภคอย่างเข้มข้นดุเดือดต่อไป