เลียม+โนล กัลลาเกอร์ สองศรีพี่น้องโอเอซิส ทั้งรักทั้งชัง หวานอม และขมขื่น
ย้อนรอยอดีตแสนขมขื่นของสองพี่น้อง เลียม กัลลาเกอร์ และ โนล กัลลาเกอร์ แห่งวงร็อกในตำนาน ‘โอเอซิส’ เปิดปมเหตุบาดหมางก่อนจะกลับมารียูเนียนในปี 2025 ผ่านบทวิเคราะห์โดย ‘พอล เฮง’ นักวิจารณ์เพลงชื่อดัง
“ผมรู้สึกเศร้าใจ และโล่งใจมาก...
คืนนี้ผมต้องออกจากคณะดนตรีโอเอซิส
คนอื่นๆ จะเขียนและพูดในสิ่งที่พวกเขาต้องการ
แต่ผมไม่อาจทำงานร่วมกับเลียมต่อไปอีกแล้ว”
โนล กัลลาเกอร์ (Noel Gallagher) โพสต์ข้อความต่อนี้บนเว็บไซต์ Oasisinet.com ในวันที่ 28 สิงหาคม 2009 หลังจากการแสดงของคณะดนตรีบริตพ๊อพเบอร์ 1 จากแมนเชสเตอร์ ถูกยกเลิกในเทศกาลดนตรี Paris Rock en Seine ที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส
คณะดนตรีโอเอซิส (Oasis) ได้ถอนตัวออกจากการแสดงที่กรุงปารีสก่อนถึงกำหนดขึ้นเวที โดยผู้จัดงานได้แสดงข้อความอธิบายว่า การทะเลาะวิวาทเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องยกเลิกการแสดง
ในอีกไม่กี่วันต่อมา โนลได้ออกแถลงการณ์อีกฉบับหนึ่ง ซึ่งมีชื่อว่า Tales From The Middle Of Nowhere โดยอรรถาธิบายว่า
“รายละเอียดไม่สำคัญ และมีมากมายเกินกว่าจะระบุได้ แต่ผมรู้สึกว่าคุณมีสิทธิที่จะรู้ว่า การข่มขู่ด้วยวาจาและความรุนแรงต่อผม ครอบครัว และเพื่อนของผมนั้น กลายเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ และการขาดการสนับสนุนและความเข้าใจจากผู้จัดการ และเพื่อนร่วมคณะ ทำให้ผมไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากต้องหาทางใหม่”
พี่น้องกัลลาเกอร์หมางเมินกันไป 15 ปี ก่อนจะมีข่าวรียูเนียน โดยมีเกมลูกหนังเป็นกาวใจ
การสิ้นสุดของคณะดนตรีโอเอซิสเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคมปี 2009 ตามที่โนลอ้างถึงความแตกต่างที่เข้ากันไม่ได้กับเลียมน้องชายของเขาว่า เลียมเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวพร้อมกับถือกีตาร์ของเขาชูมาเหมือนถือขวาน การโต้เถียงนั้นดุเดือดมาก จนเลียมทุบกีตาร์ของเขาพังไม่มีชิ้นดี หมดสิ้นความหวังที่จะคืนดีต่อกัน
นั่นคือเรื่องเมื่อ 15 ปีที่แล้ว อันเป็นจุดสิ้นสุด และกลับมารวมกันอีกครั้ง หรือรียูเนียน (Reunion) ในเดือนสิงหาคม 2024 นี้ จนกลายเป็นข่าวฮือฮาไปทั่วโลก และแฟนเพลงทั้งโลกก็รอชมคอนเสิร์ตของโอเอซิส
การที่จะกลับมารียูเนียนมีข่าวเกิดขึ้นอยู่เสมอ โดยเฉพาะเมื่อสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี ซึ่งอยู่บนยอดสูงสุดประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษที่อาจส่งผลให้โอเอซิสต้องฟอร์มตัวขึ้นมาใหม่ เพราะพี่น้องกัลลาเกอร์ทั้งคู่เป็นแฟนบอลซิตี
สองผู้ร่วมก่อตั้งโอเอซิส ได้ประกาศว่า ทุกคนจะได้รับการอภัย หากเมืองอันเป็นที่รักของเขาสามารถเติมเต็มด้วยสามแชมป์ (TripleChamp) ซึ่งแมนเชสเตอร์ ซิตี ทำได้ในฤดูกาล 2023/2024 คือ ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก เอฟเอคัพ และแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
เลียม โพสต์บนโซเชียลมีเดียว่า เขาจะโทรศัพท์เรียกโนล พี่ชายของเขา และกลับมารวมกันอีกครั้ง หากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
ทางด้านแฟนเพลงของโอเอซิสต่างมีความหวัง เรียกร้องให้เลียมกับโนล กัลลาเกอร์ กลับมารวมตัวกับโอเอซิสอีกครั้ง มีการทวีตจนกลายเป็นกระแสไวรัล เมื่อแฟนบอลถามเลียมว่า โอเอซิสจะกลับมารวมตัวกัน เขาตอบว่า "ผมพร้อมแล้ว"
แต่ทุกอย่างก็เงียบหายไปกับสายลม...
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เหมือนระเบิดเวลา ผสมผสานทั้งความคิดสร้างสรรค์ และความตึงเครียด
แม้ทั้งคู่จะมีความสัมพันธ์อันฉาวโฉ่ มีชื่อเสียในเรื่องความบาดหมางในที่สาธารณะ และไม่ชอบซึ่งกัน และกัน ความเกลียดชังที่พวกเขามีต่อกันคือ สาเหตุหลักที่ทำให้คณะดนตรีโอเอซิสต้องยุบ และลาเลิกแยกทาง แต่พวกเขาได้รับการปฏิบัติเสมือนเป็นวีรบุรุษในเมืองแมนเชสเตอร์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของพวกเขา
จิตวิญญาณแบบดาราร็อก (Rockstar) ด้วยวิถีชีวิตหรือพฤติกรรมที่แสดงออกมาในรูปแบบ ‘เซ็กส์ ยาเสพติด และดนตรีร็อกแอนด์โรล’ ความตึงเครียดถึงจุดสูงสุด และระเบิดพังทลายในเดือนสิงหาคม ปี 2009 ความเกลียดชังระหว่างโนล และเลียม ยังคงอยู่เป็นเวลานานหลังจากการล่มสลายของโอเอซิส
ภาพจาก: IG Oasis
ประวัติศาสตร์อันยาวนานของการทะเลาะกันภายในคณะ การยกเลิกการแสดง และการลดเวลาการทัวร์ลง ถือเป็นความบาดหมางที่โด่งดังที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ดนตรี แม้ประสบความสำเร็จในวงการอย่างมากมายมหาศาล แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็พังทลายลงอย่างสิ้นเชิง
ความสัมพันธ์ของพี่น้องคู่นี้เปรียบเสมือนระเบิดเวลา เป็นการผสมผสานระหว่างความคิดสร้างสรรค์ และความตึงเครียดที่เดือดพล่านซึ่งช่วยผลักดันให้พวกเขาก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุด แต่ก็ปูทางไปสู่การล่มสลายในที่สุดด้วย
ปัจจุบันเลียม วัย 51 ปี และโนล วัย 57 ปี ยังคงเหน็บแนมกันบนโซเชียลมีเดีย และในบทสัมภาษณ์ต่างๆ สาดน้ำกรดต่อกัน ตัวอย่างเด็ดๆ ที่ถูกบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ทางปากคำของดนตรีบริตพ๊อพของสหราชอาณาจักร โนล บอกกับสื่อเฮรัลด์ ซัน (Herald Sun) ของสหราชอาณาจักรว่า
“ผมไม่รู้ว่าผู้ชายที่ให้สัมภาษณ์เหล่านี้เป็นใคร เขาดูเท่มาก เพราะผู้ชายที่ผมร่วมคณะด้วยมา 18 ปีนั้นเป็นไอ้โง่”
โนลบอกว่า เลียมเป็นคนหยาบคาย เย่อหยิ่ง ข่มขู่ และขี้เกียจ เป็นคนที่โกรธง่ายที่สุดเท่าที่เคยพบมา เหมือนผู้ชายที่ถือส้อมอยู่ในโลกของซุป และเลียมก็กวนตีนตอบกลับด้วยภาพของเขาเองที่กำลังกินซุปด้วยส้อม
แม้การโต้เถียงจะแสนขมขื่น แต่ก็สร้างความบันเทิงให้แฟนๆ ได้
ท้ายที่สุดแล้ว แม้ว่ามันจะขมขื่น แต่การโต้เถียงของพี่น้องก็มักจะสร้างความบันเทิงได้ไม่แพ้ดนตรีของคณะโอเอซิส ความขัดแย้งแบบคลาสสิกในช่วงต้นระหว่างการสัมภาษณ์ครั้งหนึ่ง ยังถูกปล่อยออกมาเป็นซิงเกิลแบบเถื่อนด้วยซ้ำ และไม่มีคำถามว่าความขัดแย้งระหว่างทั้งสองเป็นส่วนหนึ่งของเวทมนตร์อันทรงเสน่ห์ของคณะ
ซิงเกิล ‘Whibbling Rivalry’ ที่เป็นผลงานของ Oas*s ที่มีความยาว 14.32 นาที ซึ่งนำมาจากการบันทึกเสียงสัมภาษณ์ระหว่างพี่น้องกับจอห์น แฮร์ริส นักข่าวของ NME เมื่อปี 1994 ‘Noel Side… ’ และ "Liam Side… ’ เต็มไปด้วยคำหยาบคาย และการโต้เถียงระหว่างพี่น้อง เผยให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ขัดแย้งในหัวใจของคณะดนตรีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของอังกฤษ
ที่แปลกก็คือ ‘Whibbling Rivalry’ ขึ้นชาร์ตได้ถึงอันดับ 52 ซึ่งยังคงเป็นการสัมภาษณ์ที่ขึ้นชาร์ตสูงสุด เป็นประดุจความเพลิดเพลินของแฟนเพลง และคนในธุรกิจ และอุตสาหกรรมดนตรี กับความสงบท่ามกลางพายุแห่งความเกลียดชังของพี่น้องที่ดูเหมือนจะไม่มีวันจบสิ้น
หากย้อนกลับไปดูรอยร้าวที่ปรากฏต่อสาธารณชนครั้งแรกในภาพลักษณ์ของคณะโอเอซิส เกิดขึ้นระหว่างการแสดงโชว์ที่ วิสกี อะ โก โก (Whiskey A Go Go) ในนครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา อ้างหลักฐานตาม 'Oasis: Supersonic' ของผู้กำกับแมต ไวท์ครอส (Mat Whitecross) ซึ่งเป็นภาพยนตร์สารคดีตามรอยเส้นทางสู่ชื่อเสียงของโอเอซิส
รวมทั้งพลังแห่งความสร้างสรรค์ และทำลายที่สองพี่น้องโนลและเลียม กัลลาเกอร์ ตอนที่คณะดนตรีอยู่ในการพักผ่อน เลียมเริ่มด่าทอ และขว้าง แทมโบรีนใส่พี่ชายของเขา โนลโกรธ และเดินจากไปอย่างโกรธเคืองเป็นเวลาสองสามวัน ในที่สุดเขาก็กลับมา แต่เปลี่ยนเหตุการณ์นั้นให้กลายเป็นบทเพลง ‘Talk Tonight’ ที่ยอดเยี่ยม
โนลอายุมากกว่าเลียม 6 ปี ดังนั้นจึงยากที่จะระบุว่า พวกเขาเริ่มเกิดการทะเลาะวิวาทกันครั้งแรกตอนไหน แม้ว่าพี่น้องทั้งสองจะต้องแบ่งห้องนอนกัน โดยพอล พี่ชายคนโตต้องแบ่งห้องนอนของตัวเองให้ ซึ่งอาจเริ่มต้นตั้งแต่เนิ่นๆ อย่างไรก็ตาม เลียมมีความคิดเห็นของตัวเองเกี่ยวกับผลกระทบในระยะยาวของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภายหลัง ในภาพยนตร์สารคดี เขาเล่าอย่างร่าเริงว่า
“คืนหนึ่ง ผมเดินเข้ามาด้วยอาการโมโห และหาสวิตช์ไฟไม่เจอ ผมจึงฉี่ราดเครื่องเสียงใหม่ของเขา ผมคิดว่ามันก็แค่นั้น”
เครื่องหมายการค้าของเลียมบนทวิตเตอร์หรือ X เขาใช้บัญชีรายชื่อว่า ‘LGx’ จะสังเกตเห็นได้ว่า การดูถูกเหยียดหยามก่อเรื่องมักจะมาจากทิศทางของเลียมเสมอ เนื่องจากเขาชอบใช้ช่องทางนี้ของเขาเพื่อระบายความรู้สึกที่มีต่อพี่ชายเมื่อเขาต้องการ
เหตุแห่งการวิวาทตลอดสิบกว่าปี อาจอธิบายได้ด้วยทฤษฎีจิตวิทยา Sibling Rivalry
ความเป็นคู่แข่งกันของพี่น้องตระกูลกัลลาเกอร์ไม่ใช่แค่เรื่องไร้สาระที่ถูกพูดถึงในแท็บลอยด์เท่านั้น แต่ยังเป็นเลือดเนื้อของโอเอซิสอีกด้วย โดยผลักดันให้คณะดนตรีก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดอย่างที่ไม่มีใครเทียบได้ ในขณะเดียวกันก็คุกคามที่จะทำลายคณะในทุกๆ ทาง ทุกการทะเลาะเบาะแว้ง ทุกการแย่งชิงอำนาจ และทุกคำพูดที่เฉียบขาดกลายเป็นส่วนหนึ่งของตำนานโอเอซิส ซึ่งเป็นที่รู้จักมักคุ้นไม่แพ้ดนตรีเลย
ตั้งแต่แรกเริ่ม คณะดนตรีนี้มีลักษณะเด่นที่ขัดแย้งกันของพี่น้องทั้งสอง พฤติกรรมที่คาดเดาไม่ได้ของเลียมมักจะขัดแย้งกับแนวทางที่คำนวณมาอย่างรอบคอบของโนล แม้ว่าทั้งคู่จะมีอารมณ์รุนแรงพอๆ กันก็ตาม ซึ่งเข้าสูตรทางการแพทย์ตามทฤษฎีจิตวิทยาที่เรียกว่า ‘พี่น้องอิจฉากัน’ หรือ ‘การอิจฉากันระหว่างพี่น้อง’ (Sibling Rivalry) ทั้งสองพี่น้องเติบโตมาในครอบครัวชนชั้นแรงงานปากกัดตีนถีบในเมืองแมนเชสเตอร์ ในวัยเด็กอยากจะได้ความรักของแม่ และพ่อไว้แต่เพียงผู้เดียว การมีน้องอาจทำให้มีการอิจฉากัน
พี่น้องมีความสัมพันธ์ระหว่างกันได้หลายรูปแบบ ทั้งความสัมพันธ์ที่ดี เช่น การให้ความช่วยเหลือ แบ่งปัน เป็นเพื่อนเล่นกัน เป็นที่พักพิงทางใจ เป็นที่ปรึกษา เนื่องจากพี่น้องสามารถเข้าใจปัญหาของกันและกันได้ดี มีการสื่อสารระหว่างกันที่มีประสิทธิภาพ ช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับพี่น้องของตนได้ และบางครั้งก็เป็นเพื่อนพูดคุยในบางประเด็นที่อาจจะคุยกับใครไม่ได้ เช่น เรื่องเพศ เป็นต้น
นอกจากความสัมพันธ์ที่ดีแล้ว พี่น้องอาจมีรูปแบบความสัมพันธ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้นได้ เช่น การทะเลาะเบาะแว้ง การต่อสู้กัน หรือเกิดความอิจฉาริษยากันได้ เมื่อพี่น้องอิจฉากัน หมายถึง ความอิจฉาริษยา การแข่งขัน การต่อสู้แย่งชิงระหว่างพี่น้อง มักมีความรุนแรงในพี่น้องที่มีอายุใกล้เคียงกัน และเพศเดียวกัน
ปัญหาพี่น้องอิจฉากันนี้พบได้ตั้งแต่ก่อนน้องเกิดหรือหลังจากน้องเกิดไม่นาน เมื่อเกิดขึ้นแล้วมักคงอยู่ตลอดช่วงวัยเด็ก บางครั้งอาจคงอยู่จนถึงวัยผู้ใหญ่ มีการศึกษาพบว่า 1 ใน 3 ของผู้ใหญ่มีปัญหาอิจฉากันระหว่างพี่น้อง แต่ส่วนใหญ่ความสัมพันธ์จะดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
ปัญหาพี่น้องอิจฉากันสามารถแสดงออกได้หลายรูปแบบ ในกรณีที่ไม่รุนแรงมักมีลักษณะไม่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่แบ่งปัน ไม่มองด้านดีของพี่น้อง ไม่มีมิตรภาพที่ดีต่อกัน ในรายที่มีความอิจฉากันรุนแรงจะมีลักษณะแข่งขันกันอย่างมากเพื่อแย่งความสนใจจากพ่อแม่ อาจรุนแรงถึงขั้นมีพฤติกรรมรุนแรง ต่อสู้ ทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น
ในเด็กบางคนอาจแสดงออกมาเป็นปัญหาทางอารมณ์ และพฤติกรรม เช่น มีพฤติกรรมถดถอย ทำพฤติกรรมเลียนแบบเด็กเล็ก ๆ มีพฤติกรรมต่อต้าน ร้องอาละวาด วิตกกังวล มีปัญหาการนอน เป็นต้น ปัญหาพี่น้องอิจฉากันมีสาเหตุจากการแก่งแย่งแข่งขันเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด ได้แก่ เวลา ความรัก ความสนใจ และการยอมรับจากพ่อและแม่
โนลกับเลียม กัลลาเกอร์ ก็อยู่ในขอบเขตของทฤษฎีทางจิตวิทยาครอบครัว ‘พี่น้องอิจฉากัน’ หรือ ‘การอิจฉากันระหว่างพี่น้อง’ (Sibling Rivalry)
แม้จะเคยทะเลาะกันรุนแรง แต่ฟุตบอลทีมโปรดกับอำนาจเงิน ก็สามารถทลายความบาดหมางลงได้
แค่ 14 ปี และ 364 วัน นับตั้งแต่การเลิกราอันขมขื่นของพวกเขา เร็วกว่าที่คาดคิด จิตวิญญาณแบบดาราร็อก ความตึงเครียดถึงจุดสูงสุด และระเบิดพังทลายในเดือนสิงหาคม ปี 2009 ความเกลียดชังระหว่างโนล และเลียม ยังคงอยู่เป็นเวลานานหลังจากการล่มสลายของโอเอซิส
ปฐมเหตุของการรียูเนียนหรือกลับมารวมตัวใหม่ หนึ่งปัจจัยนั้นก็คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่อาจส่งผลให้โอเอซิสต้องรีบรวมตัวขึ้นมาใหม่ เพราะถือเป็นวาระหนึ่งที่สำคัญที่ขึ้นเป็นเจ้ายุโรป การคืนดีหลังจากผีไม่เผาเงาไม่เหยียบของเลียม และโนล ก็ประกาศต่อสาธารณชน เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2024 เวลา 08.00 น. โดยมีการประกาศว่า
พี่น้องกัลลาเกอร์จะแสดงร่วมกันเป็นครั้งแรกในช่วงฤดูร้อนปี 2025 โดยมีการแสดงหลายรอบในคาร์ดิฟฟ์ แมนเชสเตอร์ ลอนดอน เอดินบะระ และดับลิน ซึ่งสองพี่น้องโนลและเลียมต่างก็แชร์วิดีโอเดียวกัน ซึ่งมีมอตโตว่า
“เสียงปืนเงียบลงแล้ว
ดวงดาวเรียงแถวกัน
การรอคอยอันยิ่งใหญ่สิ้นสุดลงแล้ว
มาดูกันเถอะ เพราะจะไม่มีถ่ายทอดสด”
การกลับมาพบกันอีกครั้งจะเกิดขึ้นจริง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพี่น้องจะรักกัน สื่ออย่างเดลิ เมล์ (Daily Mail) ของสหราชอาณาจักร อ้างตามแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อ ซึ่งรายงานระบุว่าเงินก้อนโต 530 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 23,850 ล้านบาท) ที่จะหมุนเข้ามานั้น บ่งบอกได้ชัดเจนกว่าความแค้นเคืองของพี่น้องไม่สำคัญ เลียม และโนลได้รับค่าจ้างสำหรับการกลับมารวมตัวกันครั้งนี้เท่าไร?
ภาพจาก: oasisinet
ตามคำกล่าวของประธานบริษัทเอเจนซีด้านพรสวรรค์ InterTalent ศาสตราจารย์ โจนาธาน ชาลิต (Jonathan Shalit) คาดคำนวณว่า ทั้งคู่จะได้รับค่าจ้างประมาณ 50 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,250 ล้านบาท) ต่อคนสำหรับทัวร์คอนเสิร์ตครั้งนี้ เขากล่าวกับสื่อแทบลอยด์ เดอะ ซัน (The Sun) ว่า ด้วยตั๋ว สปอนเซอร์ สินค้า และการถ่ายทำ คาดว่าโนล และเลียมจะมีรายได้มากกว่า 50 ล้านปอนด์ต่อคน นี่คือทัวร์คอนเสิร์ตที่อาจทำรายได้มากกว่า 400 ล้านปอนด์ได้อย่างง่ายดาย เพราะคนทั้งโลกรอคอย
ปี 2024 เป็นวันครบรอบ 30 ปีนับตั้งแต่ที่อัลบั้มเปิดตัวชุดแรกสุดเร้าใจอย่าง ‘Definitely Maybe’ ออกวางจำหน่าย ส่วนปี 2025 อัลบั้มที่สองซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้กันอย่าง ‘(What’s The Story) Morning Glory?’ ที่ทำให้โอเอซิสเป็นคณะดนตรีระดับโลกอย่างแท้จริงก็จะครบรอบเช่นเดียวกัน
เดอะ ซัน เปิดเผยว่าพวกเขาตัดสินใจเปิดตัวอัลบั้มใหม่ระหว่างการโทรศัพท์คุยกันหลายครั้ง บรรยากาศนั้นคึกคัก เมื่อพี่น้องทั้งสองได้มารวมตัวกันในห้องเดียวกันเพื่อวางแผนการกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง พวกเขาพบกันอย่างลับๆ เพื่อถ่ายภาพประวัติศาสตร์ร่วมกับโปสเตอร์ที่จะเผยแพร่สำหรับการทัวร์ของพวกเขาในปีหน้า แต่มันเป็นช่วงเวลาที่น่าอึดอัดใจที่โนล และเลียมอยู่ด้วยกัน
สื่อต่างประเทศได้ยกกรณีของคณะดนตรีคันทรีร็อกอันดับ 1 อย่าง ดิ อีเกิลส์ (The Eagles) ตอนกลับมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อทัวร์คอนเสิร์ต และทำอัลบั้มใหม่ ทั้งที่ตอนยุบคณะนั้นทะเลาะกันอย่างไม่มีชิ้นดี พวกเขาต่างรับรู้ถึงความไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะรวมคณะกันตลอดไป แต่ด้วยเม็ดเงินมหาศาลที่จะเข้ามา ด้วยการตั้งชื่ออัลบั้มแสดงสดของพวกเขาว่า ‘Hell Freezes Over’ และการกลับมารวมตัวกันอีกครั้งของโอเอซิส และสองพี่น้อง โนล+เลียม กัลลาเกอร์ อาจจะเป็นไปเช่นเดียวกัน
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์
