ผุด 6 อาชีพแปลกโลกอนาคตที่ไม่เคยมีมาก่อน เหตุ AI ก้าวหน้าเร็วเกินคาด
นักอนาคตวิทยาจากออสเตรเลีย ทำนายว่า AI จะก้าวหน้ารวดเร็วเกินคาด ส่งผลให้ผุดอาชีพใหม่ๆ ในโลกอนาคตขึ้นมาอย่างน้อย 6 อาชีพ ซึ่งเป็นสายงานไม่เคยมีมาก่อนในโลก
อย่างที่หลายคนคงได้ยินมาบ้างว่า โลกยุคนี้เป็นยุคที่เทคโนโลยี AI เข้ามาดิสรัปต์แทบทุกวงการ ส่งผลให้วิถีชีวิตและโลกการทำงานเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วจนตามไม่ทัน โดยเฉพาะในด้านการเรียนการศึกษาทั่วโลก
ว่ากันว่าทุกวันนี้นักศึกษาตั้งหน้าตั้งตาเรียนในชุดความรู้เดิมๆ ที่พวกเขาไม่สามารถเอาไปประกอบอาชีพในโลกอนาคตได้ เพราะต่อไปตำแหน่งงานหลายอาชีพจะล้มหายตายจาก และเกิดอาชีพใหม่ๆ ขึ้นมาแทน
ศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ ดร.แคเธอรีน บอลล์ (Catherine Ball) นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านอนาคตวิทยา แห่งสถาบัน ANU School of Cybernetics ในออสเตรเลีย เปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้ว่า ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีที่พัฒนาก้าวหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ฉากทัศน์ทางด้านการศึกษาและตลาดงานข้างต้นเป็นความจริงมาแล้วครั้งแล้วครั้งเล่า AI กำลังพัฒนาด้วยอัตราที่รวดเร็วเกินกว่ากฎหมายปัจจุบันจะตามทันได้ และการจ้างงานในสายอาชีพต่างๆ ก็เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
โลกนี้กำลังก้าวเข้าสู่ 'การปฏวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 5'
ดร.บอลล์ บอกอีกว่า ปัจจุบันโลกของเรากำลังอยู่ในยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 5 ซึ่งมันจะมาพร้อมกับการสร้างงานสายอาชีพใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น นั่นหมายความว่า วัยทำงานทั่วโลกจำเป็นจะต้องเร่งการฝึกอบรมสายงานใหม่อย่างรวดเร็ว และเร่งการเพิ่มทักษะให้แรงงานอย่างรอบด้าน
“คำถามสำคัญที่จะเกิดขึ้นตามมาคือ ผู้คนพร้อมหรือยังที่จะฝึกอบรมสายงานใหม่ ซึ่งดูเหมือนว่างานเหล่านั้นจะอยู่นอกขอบเขตงานดั้งเดิมของพวกเขา และอีกไม่นานผู้คนจะเรียกร้องหาความรู้ด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ การสื่อสารทางวิทยาศาสตร์ และการพัฒนาเส้นทางอาชีพใหม่ๆ ไปทั่วโลก” ดร. บอลล์ กล่าว
ดร.บอลล์ บอกว่าอาชีพใหม่แห่งโลกอนาคตที่เธอคาดว่าจะมีขึ้นนั้น หากลองฟังดูแล้ววัยทำงานยุคนี้อาจจะนึกภาพไม่ออกว่าจะกลายมาเป็นอาชีพได้อย่างไร แต่ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี และ AI ที่กำลังดำเนินไปอย่างรวดเร็วนั้น เธอคาดว่าอาชีพแปลกๆ ที่น่าจะเกิดขึ้นมาแน่นอนอย่างน้อยก็ 6 สายอาชีพเหล่านี้ ได้แก่
เปิด 6 อาชีพแปลกที่คาดว่ามาแน่! ในโลกอนาคต
1. Creative technologist (นักเทคโนโลยีเชิงสร้างสรรค์)
2. Data ecologist (นักนิเวศวิทยาข้อมูล)
3. Algorithm lawyer (ทนายความอัลกอริทึม)
4. Human verification nurse (นักตรวจสอบความเป็นมนุษย์แท้)
5. Journalism-truther (นักข่าวพิสูจน์ข้อเท็จจริง)
6. Doppelgänger curator (นักคัดกรองความเหมือน)
สำหรับสายอาชีพ Human verification nurse ดร.บอลล์ อธิบายว่า จะเป็นบุคคลที่ได้รับการฝึกอบรมในการระบุตัวตนมนุษย์จริงๆ เพื่อกำจัดสิ่งที่เรียกว่า Deepfake และมนุษย์ที่เกิดจากการเลียนแบบด้วย AI
ขณะที่สายอาชีพ Algorithm lawyer เธออธิบายว่า คนกลุ่มนี้คือผู้ประกอบวิชาชีพด้านกฎหมายที่ได้รับการฝึกอบรมด้านกฎหมาย AI โดยเฉพาะ และพัฒนาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้ AI ในวิชาชีพกฎหมาย
ปัญหาสภาพภูมิอากาศ จะเป็นแรงผลักดันให้มนุษย์ใช้เทคฯ AI พัฒนาที่อยู่ใหม่นอกโลก
ดร.บอลล์กล่าวว่า เธอกำลังติดตามวิวัฒนาการของเทคโนโลยีอย่างใกล้ชิด และสนใจเป็นอย่างมากเกี่ยวกับการเติบโตอย่างรวดเร็วของ AQ-AI รวมถึงแนวคิดเรื่องการประมวลผลด้วย Quantum ที่รวดเร็วเหนือกว่าระบบเดิมๆ ที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมนุษย์สามารถนำมันมาบูรณาการการใช้งาน เกิดการสร้างอาชีพ และพัฒนาต่อยอดเพื่อดูแลสังคมได้มากขึ้น
“นอกจาก AI ที่ชาญฉลาดและปรับตัวได้มากขึ้นแล้ว เรายังจะมีปาฏิหาริย์สมัยใหม่เกิดขึ้นแทบทุกวัน เพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วนบางส่วนของมนุษยชาติ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จะเป็นแรงผลักดันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ทำให้ผู้นำในอนาคตทำงานเพื่ออาณานิคมบนดาวเคราะห์ดวงอื่น” เธอสะท้อนความคิดเห็น
ดร.บอลล์ คาดการณ์ว่า ในอนาคตจะมีการมุ่งเน้นในการพัฒนาวิธีใหม่ๆ ที่จะนำพามนุษย์ไปอาศัยอยู่นอกโลก พวกเราอาจได้เห็นมนุษย์ไปตั้งรกรากบนดวงจันทร์ในอีก 20 ปีข้างหน้า รวมถึงอาจเห็นการหาวิธีใหม่ๆ ในการแก้ปัญหาความอดอยากและการอพยพจำนวนมาก ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงความท้าทายอื่นๆ ทางสังคมที่จะตามมา ซึ่งต่อไปจะเห็นภาพชัดขึ้นว่า AI จะเข้ามามีบทบาทอย่างมาก