‘LVMH’ เซ็นสัญญาครั้งประวัติศาสตร์กับ ‘F1’ เป็นพันธมิตรระดับโลกนาน 10 ปี

“ฟอร์มูลาวัน” หรือ Formula 1 (F1) คือ การแข่งขันรถสูตรหนึ่งที่พัฒนามาจากการแข่งขันรถกรังด์ปรีซ์ในอดีต ต่อมาในปี 1950 จึงก่อตั้งเป็นการแข่งขันชิงแชมป์โลกอย่างเป็นทางการ รถที่เข้าร่วมแข่งขันจะมีความเร็วสูงสุดถึง 360 กม./ชม. ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด และที่สำคัญนักแข่งไปจนถึงทีมงานต้องใช้ทักษะ และกลยุทธ์ในการแข่งขันขั้นสูง

ด้าน “LVMH” หรือ “Louis Vuitton Moët Hennessy” เป็นอาณาจักรของมหาเศรษฐี เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ (Bernard Arnault) ที่รวบรวมแบรนด์หรูจากทั่วโลกเอาไว้มากมาย ครอบคลุมตั้งแต่ เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ นาฬิกา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปจนถึงโรงแรมหรู

ทั้ง “F1” และ “LVMH” อาจดูเหมือนอยู่กันคนละฟากแม้จะมีความหรูหราเหมือนกัน แต่ล่าสุดทาง F1 ได้ประกาศว่าเซ็นสัญญากับ LVMH และ TAG Heuer ในฐานะพันธมิตรระดับโลกเรียบร้อยแล้ว (Global Partnership) ซึ่งสัญญาดังกล่าวจะเริ่มต้นในปี 2025 และยาวนานถึง 10 ปี โดย F1 ระบุในแถลงการณ์ว่านี่คือ การเซ็นสัญญาครั้งประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ยังเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปีของกีฬา Formula 1 อีกด้วย

ก่อนหน้านี้เราก็ได้เห็น ลิซ่า ลลิษา มโนบาล รับหน้าที่เป็นผู้โบกธงตราหมากรุกที่การแข่งรถ F1 ไมอามี กรังด์ปรีซ์ 2024 โดยครั้งนั้นเธอก็ใช้สินค้าของ Louis Vuitton หนึ่งในแบรนด์หรูของเครือ LVMH ระหว่างออกงาน

ต่อมาในโอลิมปิก 2024 ปารีสเกมส์ ทาง LVMH ก็เป็นสปอนเซอร์ใหญ่ให้ ทั้งการร่วมออกแบบถาดใส่เหรียญรางวัล สนับสนุนชุดผู้มอบรางวัลให้นักกีฬา ร่วมออกแบบหีบใส่คบเพลิง เป็นต้น รวมถึงชุดที่ศิลปินใส่ขึ้นแสดงในพิธีเปิดบางชุดก็มาจากแบรนด์ที่อยู่ในเครือ เช่น Dior อาจเรียกได้ว่า “LVMH” กำลังเริ่มเข้ามาเล่นในวงการกีฬาก็ว่าได้

ส่วนหนึ่งของแถลงการณ์จากการเซ็นสัญญาของทั้งคู่ระบุว่าเป็นข้อตกลงที่ไม่เคยมีมาก่อนระหว่างผู้นำระดับโลกในด้านสินค้าหรูหรา และผู้ที่อยู่จุดสูงสุดของกีฬามอเตอร์สปอร์ตซึ่งจะเปิดตัวในฤดูกาลหน้า ในตอนนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่ฟอร์มูลาวันได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และมีความเกี่ยวข้องทางด้านวัฒนธรรมต่างๆ อีกด้วย ความร่วมมือครั้งนี้จึงเรียกได้ว่าเป็นสะพานเชื่อมระหว่างกีฬา และความบันเทิงระดับโลก

“ตั้งแต่ต้นกำเนิดของฟอร์มูลาวันในปี 1950 จนถึงปัจจุบัน LVMH และผู้ผลิตต่างๆ ต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของกีฬา ด้วยความร่วมมือใหม่ครั้งนี้ ทั้ง F1 และ LVMH ต่างรู้สึกตื่นเต้นที่จะเขียนบทใหม่ของเรื่องราวอันเหลือเชื่อนี้ โดยผู้ผลิตแต่ละรายต่างนำความเชี่ยวชาญ มรดก และพลังที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองมาเสริมความแข็งแกร่งในความร่วมมือครั้งนี้” ส่วนหนึ่งในแถลงการณ์ความร่วมมือระบุ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ จะตามมาในช่วงต้นปี 2025

เกร็ก มาฟเฟย์ (Greg Maffei) ประธานและซีอีโอของ Liberty Media เจ้าของสิทธิ F1 ที่ประกอบกิจการสื่อด้วยกล่าวว่า LVMH และ F1 เป็นสองแบรนด์ระดับโลกที่ขยายขอบเขตของความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ Liberty Media เช่นกัน พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่าตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับหนึ่งในแบรนด์ภายใต้เครือ LVMH ในงาน Las Vegas Grand Prix เมื่อปีที่แล้ว และตอนนี้ได้ขยายความสัมพันธ์กันเมื่อพวกเขากลายมาเป็นพันธมิตรระดับโลก

“โอกาสในการขยายขอบเขตข้อตกลงเชิงพาณิชย์ของเราเป็นสัญลักษณ์แห่งวิสัยทัศน์ที่เรามีสำหรับฟอร์มูลาวัน ในขณะที่ธุรกิจยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เรารอคอยที่จะร่วมงานกับ เบอร์นาร์ด และ เฟรเดริก อาร์โนลต์ ในปีต่อๆ ไป” เกร็ก กล่าวเสริม

ทางด้านเบอร์นาร์ด กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้คน, การแสวงหาความเป็นเลิศ และความหลงใหลในนวัตกรรมเป็นหัวใจสำคัญสำหรับกิจกรรมของ เครือ LVMH และ F1 ในกีฬามอเตอร์สปอร์ต ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น การทำนาฬิกา หรือไวน์ และสุรา ทุกรายละเอียดล้วนมีความสำคัญต่อเส้นทางสู่ความสำเร็จ

“ทั้งในเวิร์กช็อปของเรา และในสนามแข่งทั่วโลก การค้นหาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อทำลายขีดจำกัดเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดวิสัยทัศน์ของเรา และนี่คือ ความหมายที่เราต้องการนำเสนอให้กับความร่วมมือที่ยอดเยี่ยม และไม่เหมือนใครระหว่างฟอร์มูลาวัน และกลุ่มของเรา” เบอร์นาร์ด ระบุ

สเตฟาโน โดเมนิคาลี (Stefano Domenicali) ประธาน และซีอีโอของฟอร์มูลาวัน กล่าวต่อว่า กีฬาของเราก่อตั้งขึ้นจากการแสวงหาความเป็นเลิศอย่างไม่ลดละ ซึ่งเป็นคุณค่าที่เป็นหัวใจสำคัญของ LVMH ดังนั้น เราจึงยินดีที่จะประกาศว่าความร่วมมือทางประวัติศาสตร์ครั้งนี้จะเริ่มต้นขึ้นในปี 2025 เนื่องจากฟอร์มูลาวันยังคงเติบโตในระดับโลก ดึงดูดผู้ชมใหม่ๆ และหลากหลายมากขึ้น ทั้งความแข็งแกร่ง และความกว้างขวางของ LVMH ทำให้กลายเป็นพันธมิตรที่สมบูรณ์แบบสำหรับเราในการร่วมงานด้วย เนื่องจากเรามุ่งมั่นที่จะปรับปรุงประสบการณ์ของแฟนๆ และมรดกของกีฬาอันน่าทึ่งของเราอย่างต่อเนื่อง

ด้านเฟรเดริก อาร์โนลต์ (Frédéric Arnault) ซีอีโอของ LVMH Watches กล่าวสรุปว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาฟอร์มูลาวันได้กลายเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกอย่างแท้จริง ถือเป็นกีฬาที่มีชีวิตชีวาซึ่งสะท้อนถึงคุณค่าหลายอย่างที่สำคัญสำหรับเรา เช่น นวัตกรรม จิตวิญญาณของทีม และประสิทธิภาพ

หลังจากนี้ต้องจับตาดูกันต่อไปว่า “F1” จะมีความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดบ้าง ไม่ว่าจะเป็นความหรูหรา หรือความแปลกใหม่ของนวัตกรรม เมื่อได้ผู้สนับสนุนเจ้าของอาณาจักรแบรนด์หรูอย่าง “LVMH” เข้ามาให้การสนับสนุนนานถึง 10 ปี

อ้างอิงข้อมูล : F1

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์