Puma Speedcat รองเท้าจากสนามแข่ง F1 สู่สนีกเกอร์แฟชั่น ของมันต้องมี

Puma Speedcat รองเท้าจากสนามแข่ง F1 สู่สนีกเกอร์แฟชั่น ของมันต้องมี

กลายเป็นของมันต้องมีไปแล้วเรียบร้อยในหมู่ผู้ชื่นชอบแฟชั่นแนวสตรีทสำหรับรองเท้า “Puma Speedcat” จนหน้าร้านในไทยถึงกับ Sold Out อย่างรวดเร็ว แต่รู้หรือไม่ว่าก่อนหน้านี้เป็นรองเท้าที่อยู่ในแวดวงการแข่งรถมาก่อน

เรียกได้ว่าเป็นรองเท้าที่กำลังมาแรงสุดๆ สำหรับ PUMA SPEEDCAT ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเปิดทางการพร้อมกับ “โรเซ่” ที่เป็น Global Brand Ambassador คนล่าสุด และหลังจากนั้นเมื่อวางขายก็กลายเป็นสินค้าที่ Sold Out ไปอย่างรวดเร็วในหลายประเทศแม้แต่ในประเทศไทยเองที่มีคนไปต่อคิวรอซื้อกันตั้งแต่ห้างยังไม่เปิด เพราะก่อนที่จะเปิดตัวในประเทศไทยก็มีการโปรโมตผ่านเซเลบริตีชาวไทยสายแฟหลายคน เช่น แพต ชญานิษฐ์, พลอย หอวัง, ขุนพล ปัญญามิตร และ พลอย ชวพร เป็นต้น

แต่แท้จริงแล้ว “Puma Speedcat” เป็นหนึ่งในรองเท้ารุ่นคลาสสิกของพูมาที่มีจุดเริ่มต้นอย่างไม่เป็นทางการตั้งแต่ปี 1983 โดย สเตฟาน เบลลอฟ (Stefan Bellof) นักแข่งรถระยะไกล หรือ FIA World Endurance Championship (WEC) ใส่ขับรถ Porsche 956 และทำเวลาได้ 6 นาที 11.13 วินาที ในระยะทาง 20.81 กิโลเมตร ที่สนาม Nürburgring ด้วยความเร็วอันน่าทึ่งทำให้ต่อมาในปี 1984 เขาได้เข้าร่วมกันแข่งขันรถสูตรหนึ่ง หรือ Formula 1 (F1) ซึ่งสถิติโลกของเขายังคงอยู่เป็นเวลา 35 ปี และเขาเป็นนักแข่งรถคนแรกที่สวมรองเท้าของ “Puma

Puma Speedcat รองเท้าจากสนามแข่ง F1 สู่สนีกเกอร์แฟชั่น ของมันต้องมี

สเตฟาน เบลลอฟ เครดิตภาพ : PUMA CATCH UP

นอกจากนี้พูมายังร่วมมือกับทีมที่มีชื่อเสียง เช่น Scuderia Ferrari, Mercedes-AMG Petronas Formula One Team และอดีตทีม Formula One อย่าง Alfa Romeo อีกด้วย ความสามารถของ “พูมา” ส่วนหนึ่งก็สามารถพิสูจน์ได้จากความสำเร็จของบรรดานักแข่ง F1 ที่มีชื่อเสียงหลายคน รวมถึงอดีตนักแข่งระดับโลกที่เป็นตำนานอย่าง ไมเคิล ชูเมอร์ (Michael Schumer) ที่เขาสวมรองเท้า PUMA VINTICORE และ FUTURE CAT ซึ่งเขาได้รับชัยชนะในการแข่งขันชิงแชมป์โลกด้วย

หลังจากนั้นนักแข่งรถรุ่นต่อมา เช่น ลูอิส แฮมิลตัน (Lewis Hamilton) แชมป์ F1 7 สมัย และ แม็กซ์ เวอร์สแตพเพน (Max Verstappen) แชมป์โลก 3 สมัย ต่างก็ไว้ใจพูมาเช่นกัน และสวมรองเท้า “PUMA SPEEDCAT” ลงสนามแข่ง

Puma Speedcat รองเท้าจากสนามแข่ง F1 สู่สนีกเกอร์แฟชั่น ของมันต้องมี

ลูอิส แฮมิลตัน เครดิตภาพ : COLLATERAL STUDIO

Puma Speedcat รองเท้าจากสนามแข่ง F1 สู่สนีกเกอร์แฟชั่น ของมันต้องมี

แม็กซ์ เวอร์สแตพเพน เครดิตภาพ : PUMA CATCH UP

ต่อมารองเท้า PUMA SPEEDCAT OG ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นและกลายเป็นหนึ่งในรองเท้าแข่งรถที่ดีที่สุด โดยรองเท้ารุ่นนี้เกิดขึ้นในปี 1999 ซึ่งผลิตขึ้นเป็นรุ่นกันไฟสำหรับนักแข่ง F1 มีคุณสมบัติเด่นด้านความปลอดภัยที่จำเป็นสำหรับสภาพแวดล้อมที่ต้องใช้ความเร็วสูงและมีความเสี่ยงสูงขณะแข่งรถ

แม้ว่ารองเท้าตระกูล SPEEDCAT จะเริ่มต้นมาจากมอเตอร์สปอร์ตแต่ก็พัฒนามาเป็นแฟชั่นไอคอนได้ เนื่องจากมีรูปลักษณ์เพรียวบาง สีสันสดใส และใช้ผ้าคุณภาพสูงที่ผสมผสานระหว่างแฟชั่นและคุณภาพเข้าด้วยกัน หลังจากนั้นก็มีรองเท้าที่ได้แรงบันดาลใจจากรุ่นดังกล่าวผลิตตามมาอีก เช่น PUMA Drift Cat และ Race Cat เป็นต้น

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาพูมาได้รับความนิยมในแวดวงแฟชั่นและได้รับความสนใจอีกครั้งด้วยรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาพูมาได้เปิดตัว SPEEDCAT OG ในเกาหลีใต้ ซึ่งขายหมดภายใน 17 นาทีบนเว็บไซต์ทางการ และขายหมดในร้านค้าภายในครึ่งชั่วโมง

ต่อมาในเดือน มี.ค. “พูมา” ร่วมมือกับแบรนด์เกาหลีใต้ “OPEN YY” เพื่อเปิดตัว SPEEDCAT รุ่นพิเศษ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากสีสันที่สวยงาม น่าดึงดูด ทันสมัย และที่สำคัญใช้งานได้จริง และรองเท้ารุ่นดังกล่าวก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในเกาหลีใต้เมื่อ Minzy (2NE1), Seulgi (Red Velvet), Woo Wonjae แร็ปเปอร์ และ Irene Kim นางแบบ เลือกหยิบ SPEEDCAT มาสวมใส่

Puma Speedcat รองเท้าจากสนามแข่ง F1 สู่สนีกเกอร์แฟชั่น ของมันต้องมี

เครดิตภาพ : PUMA Sportstyle

ทั้งนี้ความนิยมของ “PUMA SPEEDCAT” เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากได้นางแบบและนักแสดงสาว Emily Ratajkowski มาร่วมแคมเปญ ประกอบกับการที่โรเซ่เข้ามารับตำแหน่ง Global Brand Ambassador ทางพูมาจึงได้นำรองเท้า PUMA SPEEDCAT OG กลับมาวางจำหน่ายอีกครั้งอย่างเป็นทางการและแน่นอนว่าขายหมดไปอย่างรวดเร็วรวมถึงหน้าร้านในประเทศไทยด้วย

Puma Speedcat รองเท้าจากสนามแข่ง F1 สู่สนีกเกอร์แฟชั่น ของมันต้องมี โรเซ่ Global Brand Ambassador เครดิตภาพ : PUMA Sportstyle

สำหรับ PUMA SPEEDCAT OG มีด้วยกัน 2 สี ได้แก่ สีดำและสีแดงสุดคลาสสิกประดับด้วยโลโก้ Jumping Leopard ที่เป็นเอกลักษณ์บริเวณปลายเท้าและลิ้นรองเท้า ที่ได้รับความนิยมเหนือกาลเวลาและมาพร้อมประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ โดยยังคงความสวยงามแบบย้อนยุคเอาไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของชุดแข่งทีม F1 ในช่วงต้นทศวรรษ 2000

อ้างอิง HBX