พูมา แบรนด์จากความขัดแย้ง ของพี่น้องผู้ร่วมสร้างอาดิดาส
“พี่น้องดาสเลอร์” ได้ชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดของอาดิดาสแบรนด์กีฬายักษ์ใหญ่ แต่หลังจากพวกเขาเกิดความขัดแย้งกันเองทำให้ “รูดอล์ฟ ดาสเลอร์” ตัดสินใจทำแบรนด์ของตัวเองขึ้นมาในปีเดียวกับการเปิดตัวของอาดิดาส ซึ่งแบรนด์ของรูดอล์ฟก็คือ “พูมา”
จุดเริ่มต้นของ “พูมา” หรือ PUMA เรียกว่าไม่ได้แตกต่างจาก อาดิดาส หรือ Adidas เลย เพราะเป็นแบรนด์ที่เกิดขึ้นโดยพี่น้องดาสเลอร์ นั่นก็คือ อาดอล์ฟ (อาดิ) ดาสเลอร์ และ รูดอล์ฟ ดาสเลอร์ ที่แจ้งเกิดด้วยการให้ เจสซี โอเวนส์ (Jesse Owens) นักวิ่งอเมริกันผิวดำใส่รองเท้าของพวกเขาลงแข่งที่โอลิมปิกปี 1936 หรือ “เบอร์ลินเกมส์” ซึ่งถือว่าเป็นยุครุ่งเรืองของนาซีเยอรมัน
แม้ว่าธุรกิจของพี่น้องดาสเลอร์จะไปได้สวยแต่พี่น้องดาสเลอร์ก็มีความขัดแย้งกันอยู่บ่อยครั้งและนับวันก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น จนในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจแยกทางกันโดยน้องชาย อาดอล์ฟ (อาดิ) ดาสเลอร์ ก็ได้เปิดบริษัท “อาดิดาส” ขึ้นมาในปี 1949
สำหรับ รูดอล์ฟ ดาสเลอร์ เมื่อตัดสินใจแยกตัวออกมา เขาก็ย้ายเข้าไปอยู่ในอาคารอีกหลังของครอบครัวแทน และร่วมมือกับพนักงานอีก 14 คน ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงโรงงานแห่งนี้ให้ดีขึ้นและก่อตั้งบริษัทของตัวเองชื่อ “Schuhfabrik Rudolf Dassler (RUDA)” โดยบริษัทจดทะเบียนเป็นธุรกิจในเดือน ม.ค. และเริ่มดำเนินการในวันที่ 1 มิ.ย. 1948
รูดอล์ฟ ดาสเลอร์ (PUMA)
ก่อนจะตัดสินใจเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “PUMA Schuhfabrik Rudolf Dassler” ซึ่งเป็นรายละเอียดที่เพิ่มเข้าไปในทะเบียนการค้าของเยอรมนีเมื่อวันที่ 14 ม.ค. 1949 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ “พูมา” อย่างเป็นทางการ และใช้ภาพสิงโตภูเขาเป็นสัญลักษณ์ทางการค้า เนื่องจากเป็นสัตว์ที่แสดงถึงความแข็งแกร่งแต่ก็มีความคล่องตัว
เครื่องหมายการค้าของพูมา (PUMA)
ในช่วงแรกพูมามีการเติบโตที่ค่อนข้างช้า เพราะต้องพยายามสร้างแบรนด์ให้แข่งขันกับ “อาดิดาส” ที่กลายเป็นแบรนด์ติดตลาดไปแล้วในตอนนั้น พูมาจึงเน้นไปที่การทำการตลาดและเป็นสปอนเซอร์ให้กับนักกีฬาชื่อดังอย่าง “เปเล่” ตำนานลูกหนังชื่อดังสัญชาติบราซิล (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) ทำให้แบรนด์เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้าง หลังจากนั้นพูมาก็เริ่มแตกไลน์สินค้าใหม่ๆ ออกมา เช่น เสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาอื่นๆ และในที่สุดก็เข้าไปอยู่ในตลาดแฟชั่น
เปเล่ (PUMA)
สำหรับรองเท้าที่เรียกได้ว่าเป็นตำนานของพูมาเลยก็คือ “Puma Suede” ที่หลายคนยกให้เป็นไอคอนของแบรนด์ เปิดตัวครั้งแรกในปี 1968 และได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นและนักกีฬาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในกีฬา “บาสเกตบอล” ด้วยความที่มีดีไซน์เรียบง่ายคลาสสิก จึงกลายเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าสนีเกอร์เฮดจนถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังมีรุ่น “Puma King” รองเท้าสตั๊ดฟุตบอลยอดฮิตของนักฟุตบอลอาชีพ โดดเด่นด้วยวัสดุที่ทำจากหนังแท้ ทำให้สวมใส่สบายแต่ก็ไม่ละทิ้งความทนทาน
และที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับรองเท้ายอดฮิตของพูมาก็คือ “Puma Clyde” เนื่องจากเป็นการร่วมงานกับนักบาสเกตบอลชื่อดังในยุค 70 “วอลต์ เฟรเซอร์” หรือ Walt Frazier หากมองเพียงผิวเผินรองเท้าอาจมีความคล้ายคลึงกับ Puma Suede แต่มีรายละเอียดที่ต่างเล็กน้อยเพราะเน้นไปที่ความเป็นแฟชั่นมากขึ้น
ทางด้านเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในการพัฒนารองเท้าทางพูมาเองก็ไม่น้อยหน้าใคร เช่น HYBRID Foam เทคโนโลยีโฟมที่ผสมผสานความนุ่มและความกระชับ, IGNITE Foam โฟมที่เน้นการคืนพลังงานให้ผู้ใส่ ทำให้รู้สึกกระฉับกระเฉงมากขึ้น หรือ CELL เทคโนโลยีเซลล์ที่ช่วยรองรับแรงกระแทกและระบายอากาศได้ดี เป็นต้น
สำหรับเหล่าคนดังที่เคยร่วมงานกับพูมามาแล้วก็มีหลายคนเช่นกันเนื่องจากแบรนด์เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าผ่านคนดังเป็นหลัก เช่น ริฮานน่า ศิลปินและนักธุรกิจชื่อระดับโลกก็เคยร่วมงานกับพูมาในฐานะนักออกแบบที่สร้างสรรค์คอลเลกชันออกมาและประสบความสำเร็จอย่างสูง
และล่าสุด โรเซ่ แบล็กพิงก์ ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นโกลบอลแบรนด์แอมบาสเดอร์ของพูมาอย่างเป็นทางการ โดยในช่วงแรกเธอจะร่วมงานกับพูมาในแคมเปญ “Rewrite the Classics” และเธอยังกล่าวในแถลงการณ์ด้วยว่า “ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เข้ามาเป็นครอบครัวพูมาฉันแทบจะรอให้แฟนๆ ของฉันได้ร่วมก้าวต่อไปกับพูม่าไม่ไหวแล้ว”
โรเซ่ (PUMA)
ทางด้าน มารียา วัลเดส (Maria Valdes) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของพูมากล่าวว่า “อิทธิพลที่น่าทึ่งของโรเซ่ในด้านดนตรี แฟชั่น และการเข้าถึงวัฒนธรรมทั่วโลกของเธอ ถือเป็นแรงบันดาลใจให้แบรนด์อย่างมาก เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เริ่มต้นการเดินทางครั้งนี้ร่วมกับเธอ ซึ่งเธอจะมีบทบาทที่หลากหลาย”