เปิดความสำเร็จ ซีอีโอวัย 12 ปี จากเด็กโดนบูลลี่ สู่เจ้าของแบรนด์ตุ๊กตาผิวดำ
‘มุ่งมั่นแล้วลงมือทำ’ เคล็ดลับความสำเร็จของโซอี โอลิ ซีอีโอวัย 12 ปี เจ้าของแบรนด์ Beautiful Curly Me ‘ตุ๊กตาผิวดำผมหยิก’ ที่กำลังเติบโตไม่หยุด
KEY
POINTS
- จากคำถามที่ว่า “ทำไมผมของหนูถึงไม่ตรง และสวยเหมือนเพื่อนคนอื่นในห้อง” สู่การปั้นแบรนด์ตุ๊กตาผิวดำผมหยิก ของซีอีโออายุน้อยวัย 12 ปี โซอี โอลิ และได้รับการหนุนหลังโดยแม่ของเธอ
- แม่ลูกคู่นี้ใช้เวลาร่วมหนึ่งปีในการสร้างผลิตภัณฑ์ “ตุ๊กตาขนาด 18 นิ้วที่มีผิวสีน้ำตาล และผมหยักศก” เปิดตัวแบรนด์ Beautiful Curly Me ในปี 2019 ล่าสุดรายได้แตะหลักแสนดอลลาร์
- แม่ของโซอีมองว่า ทักษะการแบ่งเวลาที่ดี การจัดลำดับความสำคัญได้ และมีแนวคิดที่จะลงมือทำอย่างจริงจัง คือ เคล็ดลับความสำเร็จของลูกสาว
แม้จะเป็นน้องใหม่ป้ายแดงในแวดวงธุรกิจของเล่นเด็ก แต่เพียงไม่กี่ปี ตุ๊กตาผิวดำผมหยิกจากแบรนด์ Beautiful Curly Me ก็สามารถทำรายได้ทะลุหลักแสนดอลลาร์ จากเงินทุนตั้งต้นเพียง 5,000 ดอลลาร์ ที่น่าสนใจคือ ซีอีโอของแบรนด์ดังกล่าวมีอายุเพียง 12 ปีเท่านั้น
ย้อนกลับไปประมาณ 6 ปีที่แล้ว ตอนนั้นโซอี โอลิ (Zoe Oli) ที่มีอายุเพียง 6 ขวบได้ถามแม่ของเธอว่า “ทำไมผมของหนูถึงไม่ตรง และสวยเหมือนเพื่อนคนอื่นในห้องเรียน หนูไม่ชอบผมของตัวเองเลย” ทั้งนี้ ในโรงเรียนของโซอีไม่ค่อยมีเด็กหญิงผิวดำมากนัก เธอจึงถูกเพื่อนๆ มองว่าเธอแปลกแตกต่าง และต้องเจอกับคำถามเชิงลบบ่อยครั้ง
ด้าน เอวานา โอลิ (Evana Oli) แม่ของโซอี อายุ 42 ปี เมื่อรู้ว่าลูกสาวของเธอต้องเจอกับคำวิจารณ์เหล่านั้นที่โรงเรียนก็เศร้ามาก เธอจึงปลอบใจลูกสาวด้วยการซื้อตุ๊กตาผิวดำให้โซอีเล่น แต่ตุ๊กตาตัวนั้นกลับยังคงมีผมตรงอยู่ดี เมื่อโซอีเห็นแบบนั้นจึงพูดกับแม่ของตนเองว่า ในเมื่อหาซื้อตุ๊กตาผิวดำที่มีผมหยิกไม่ได้ ทำไมเราไม่ทำขายเองเลย
“ตอนแรกแม่ไม่ได้สนใจไอเดียของหนูอย่างจริงจังเท่าไร แม่มักจะเมินเฉย หนูเลยถามย้ำอีกเรื่อยๆ ว่า แม่ค่ะ เราจะเริ่มธุรกิจนี้กันเมื่อไหร่ดี หลังจากขอร้องแม่มาสองสามเดือน แม่ก็รู้ได้เลยว่าหนูจริงจังกับเรื่องนี้มาก” โซอีเล่าถึงต้นกำเนิดของแบรนด์
ไอเดียลูกสาวบวกเงินทุนก้อนแรกจากแม่นักการตลาด สู่การปั้นแบรนด์ตุ๊กตาผิวดำผมหยิก
หลังจากแม่ลูกคู่นี้เริ่มจริงจังกับธุรกิจดังกล่าว เอวานา ผู้ซึ่งทำงานเป็นที่ปรึกษาการตลาดจากเมืองแอตแลนตา และมีประสบการณ์ทางการตลาดมากกว่า 15 ปี เธอตัดสินใจได้ถอนเงิน 5,000 ดอลลาร์จากเงินออมของเธอ เพื่อนำมาใช้ในการออกแบบตุ๊กตาตัวต้นแบบ และเสาะหาผู้ผลิตที่ต้นทุนราคาไม่แพง
ทั้งคู่ใช้เวลาร่วมหนึ่งปีในการสร้างผลิตภัณฑ์จริง จนได้ออกมาเป็น “ตุ๊กตาขนาด 18 นิ้วที่มีผิวสีน้ำตาล และผมหยักศก” และเริ่มเปิดตัวแบรนด์ Beautiful Curly Me ในปี 2019 ขณะที่โซอีอายุได้ 7 ขวบ ซึ่งเธอก็มีตำแหน่งเป็น CEO ของแบรนด์นี้ด้วย โดยรับหน้าที่ดูแลด้านความคิดสร้างสรรค์ของธุรกิจเป็นส่วนใหญ่
ขณะที่เอวานา จะรับผิดชอบงานบริหารส่วนใหญ่ของบริษัท ตั้งแต่การกำหนดงบประมาณไปจนถึงการร่างสัญญา นอกจากนี้ เอวานายังให้โซอีเข้าฟังการประชุมทางกฎหมาย และการเงิน เพื่อที่ลูกสาวของเธอจะได้เตรียมพร้อมในการบริหารบริษัทด้วยตัวเองในอนาคต เอวานาบอกว่า “มันน่าทึ่งมาก สิ่งที่ดีที่สุดคือ การได้เห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ หลายคนมีรอยยิ้มเมื่อเห็นตุ๊กตาของเรา”
ปัจจุบันโซอีมีอายุ 12 ปี และแบรนด์ Beautiful Curly Me ของเธอก็มีสินค้าเพิ่มขึ้นมากมายหลายอย่าง ทั้งหนังสือภาพ เกมปริศนา สมุดบันทึก และผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมจากธรรมชาติ ต่อมาในปี 2022 บริษัทของเธอมีรายได้แตะถึงหกหลักตามเอกสารที่ CNBC Make It ตรวจสอบ ขณะที่ผู้เป็นแม่ปฏิเสธที่จะบอกรายได้ของบริษัทในปี 2023
เคล็ดลับความสำเร็จของซีอีโอวัย 12 ปี คือ มุ่งมั่น และลงมือทำจริง
เมื่อถามถึงเคล็ดลับที่ทำให้โซอีกลายเป็นซีอีโอที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุน้อยมากได้นั้น นอกจากการสนับสนุนจากแม่แล้ว เอวานา มองว่า อีกส่วนหนึ่งมาจากทักษะการแบ่งเวลาที่ดี การจัดลำดับความสำคัญได้ และมีแนวคิดที่จะลงมือทำอย่างจริงจังของตัวโซอีเองด้วย
ผู้สื่อข่าว CNBC รายงานด้วยว่า โซอีเป็นเด็กหญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 8 ที่เรียนเก่งมาก อีกทั้งเธอยังมีส่วนร่วมในกิจกรรมนอกหลักสูตรอย่างการเล่ากีฬาเทนนิส กรีฑา และละครเวที เป็นต้น ส่วนในหน้าที่ของการเป็นซีอีโอนั้น นอกเหนือจากการต้องเข้าร่วมประชุมกับทีมงาน เธอยังช่วยสร้างกลยุทธ์โซเชียลมีเดีย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยใช้เวลาหลังเลิกเรียนมาจัดการสิ่งเหล่านี้
เอวานา บอกว่าลูกสาวของเธอรับผิดชอบงานส่วนใหญ่ด้วยตัวเอง โซอีถือเป็นผู้ประกอบการที่ลงมือทำจริง แต่หากมีเรื่องใหญ่ๆ และซับซ้อนมากเกินไปสำหรับเด็กวัย 12 ปี เอวานาก็จะเข้ามาซัพพอร์ตลูกสาวทันที และเธอเน้นย้ำว่าการเรียนของลูกสาวต้องมาก่อนเสมอ
ฝันไกลต่อเนื่อง ซีอีโออายุน้อยไม่หยุดแค่นี้ แต่จะแตกไลน์ธุรกิจอื่นเพิ่มเติมหลังเรียนจบ
นอกจากการเรียนหนังสือ และการทำงานบางส่วนในฐานะซีอีโอแล้ว โซอียังเคยได้ไปบรรยายเกี่ยวกับการก่อตั้งธุรกิจของเธอบนเวที TEDx และมหาวิทยาลัยบางแห่งด้วย ในส่วนของเงินทุนต่างๆ นั้น นอกจากเงินก้อนแรกจากเอวานาแม่ของเธอแล้ว โซอียังได้เงินทุนเพิ่มเติมจากสถาบันหลายแห่ง เช่น ได้เงินทุน 10,000 ดอลลาร์จากโปรแกรม Small Business Digital Ready ของ Verizon ในปี 2023 และได้รับอีก 10,000 ดอลลาร์จากโครงการ She’s Next Black Women-Owned Business Grant ของ Visa อีกด้วย
ปัจจุบันโซอียอมรับว่าตารางงานของเธอค่อนข้างยุ่งมาก แต่แม่ของเธอจะคอยดูแลไม่ให้ตารางงานของเธอยุ่งจนเกินไป ซึ่งเธอมองว่าการได้ทำงานในฐานะซีอีโอทำให้ได้เรียนรู้วิธีจัดลำดับความสำคัญของเรื่องต่างๆ ในชีวิตได้อย่างเป็นแบบแผนมากขึ้น แม่และทีมงานจะเข้ามาซัพพอร์ตเธอเสมอ
โซอีวางแผนจะทำธุรกิจนี้ต่อไปเรื่อยๆ ในอนาคตหลังจากเรียนจบมัธยมปลาย เธอยืนยันว่าจะขยายธุรกิจนี้ต่อไปแน่นอน และในอีกห้าปีข้างหน้า เธอวางเป้าหมายใหญ่กว่าเดิมไว้ว่า อยากจะแตกยอดทำธุรกิจอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตของเด็กผู้หญิงนับล้านคนทั่วโลก เช่น การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เปิดตัวองค์กรไม่แสวงหากำไร เปิดสอนหลักสูตรการตลาด และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เป็นต้น
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์