ทิม คุก ซีอีโอ Apple เผยทักษะผู้นำที่ยอดเยี่ยม ต้องไม่ยึดติดมุมมองของตนเอง

หนึ่งในผู้นำองค์กรที่ยิ่งใหญ่ผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกนี้อย่างมาก คงหนีไม่พ้น “สตีฟ จ็อบส์” อดีตซีอีโอ Apple ซึ่งแนวทางการทำงานและการบริหารงานของเขาถูกถ่ายทอดให้แก่คนรุ่นหลังในองค์​กรเสมอมา ยืนยันจาก “ทิม คุก” ซีอีโอ Apple คนปัจจุบัน ที่ได้แชร์ทักษะผู้นำที่ยอดเยี่ยมของสตีฟ จ็อบส์ ที่แตกต่างจากคนส่วนใหญ่ และมีเพียงไม่กี่คนในโลกที่มีทักษะนั้น

ตลอดช่วงเวลา 13 ปีที่ผ่านมา ทิม คุก ได้ร่วมทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่และเรียนรู้ทักษะมากมายจาก สตีฟ จ็อบส์ อดีตผู้ร่วมก่อตั้ง Apple โดย ทิม คุก เปิดเผยเรื่องนี้ผ่าน Wall street Journal ว่า “สำหรับตนเองและอีกหลายๆ คนในองค์กรที่โชคดีได้ร่วมงานกับจ็อบส์นั้น ทุกคนรู้ดีว่าเขาคือครูในชีวิต” 

จ็อบส์ คือ ผู้นำที่มีทักษะความยืดหยุ่นสูง ทักษะนี้ถูกถ่ายทอดมาสู่ ทิม คุก ซีอีโอคนปัจจุบัน

บทเรียนที่ ทิม คุก ได้รับจากจ็อบส์สามารถพิสูจน์ได้ว่าความคิดแปลกใหม่นั้นเป็นไปได้ เขาเลิกสนใจคนที่ไม่เชื่อในตัวเขา และตัดสินใจลาออกจากงานเดิมในบริษัท Compaq เพื่อมาร่วมงานกับ Apple ในปี 1998 

“ผมคิดว่าผมมีโอกาสครั้งเดียวในชีวิตที่จะได้ทำงานร่วมกับอัจฉริยะผู้ก่อตั้งอุตสาหกรรมทั้งหมดนี้ขึ้นมาในโลก ดังนั้นจึงตัดสินใจไม่ยากเลย” เขาบอก

เขาบอกอีกว่า เขารู้สึกหลงใหลกับทักษะพิเศษเฉพาะตัวอย่างหนึ่งที่ได้เรียนรู้จากจ็อบส์ นั่นคือ แนวคิดการทำงานที่ว่า อย่ายึดติดกับมุมมองในอดีตของตัวเอง อย่าภูมิใจตนเองเกินไปจนเปลี่ยนใจไม่ได้เมื่อเห็นหลักฐานใหม่ๆ ของสิ่งต่างๆ ในโลกนี้ ซึ่งจ็อบส์เป็นผู้นำที่มีทักษะความยืดหยุ่นสูงและปรับเปลี่ยนได้เสมอ

“จ็อบส์สามารถปรับเปลี่ยนไอเดียได้เสมอ ตอนแรกผมค่อนข้างแปลกใจกับแนวทางการทำงานแบบนี้ แต่ต่อมาผมก็เรียนรู้และหลงใหลในแนวคิดนี้มาก จ็อบส์เต็มใจที่จะเปลี่ยนแปลงหากมันทำให้งานออกมาดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นงานในหัวข้อใดๆ ก็ตาม ผมมองว่าสิ่งนี้เป็นทักษะที่ยอดเยี่ยม และเป็นทักษะที่น้อยคนจะมีได้ เพราะผู้นำส่วนใหญ่มักจะยึดติดกับมุมมองในอดีตของตัวเอง” เขาอธิบาย

วิจัยชี้ คนที่มียึดติดมักจะมีอคติรุนแรงมากกว่าคนที่ยืดหยุ่น

ผู้คนมักแสดงความคิดเห็นโดยอิงจากอารมณ์ เช่น ความกลัวหรือความโกรธ ทำให้พวกเขาละทิ้งความเชื่อที่ยึดถือมานานได้ยากมากขึ้น มีการวิจัยหนึ่งจาก คีธ เบลเลซซี (Keith Bellizzi) ศาสตราจารย์ด้านพัฒนาการของมนุษย์จากมหาวิทยาลัยคอนเนตทิคัต เขียนไว้ ณ ปี 2022 แสดงให้เห็นว่า อคติทางความคิดเหล่านี้มักจะรุนแรงมากจนแม้แต่ข้อเท็จจริงที่ชัดเจนชุดใหม่ก็อาจไม่สามารถโน้มน้าวให้บุคคลเปลี่ยนใจได้ 

ทักษะในการปรับเปลี่ยนความคิดใหม่ได้เสมอถือเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้นำองค์กร ซึ่งจะเกิดสิ่งนี้ได้ต้องอาศัยการสำรวจและประเมินความคิดเห็นของพนักงานเพื่อกำหนดแนวทางการตัดสินใจ

จากงานวิจัยข้างต้นยังแสดงให้เห็นอีกว่า การค้นหาและชั่งน้ำหนักความคิดเห็นจากข้อมูลที่หลากหลายดังกล่าว (หรือในทางจิตวิทยาเรียกอีกอย่างว่า ความยืดหยุ่นทางปัญญา) ถือเป็นกุญแจสำคัญของผู้นำในการตัดสินใจได้อย่างฉลาดมากขึ้น

หลักการการทำงานนี้ ยังพบได้ในผู้นำที่โด่งดังอีกคนหนึ่ง นั่นคือ เจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้ง Amazon เขาเคยเปิดเผยแนวทางการทำงานของตนเองไว้ว่า “ผู้นำที่ดี มักจะถูกต้อง” แนวคิดนี้ไม่ได้หมายความว่าผู้นำจะต้องรู้ดีทุกอย่าง แต่เป็นการที่คุณเพิ่มโอกาสที่จะถูกต้องได้ด้วยการแสวงหาความเห็นที่แตกต่างและเต็มใจที่จะเปลี่ยนความคิดของคุณ

ผู้นำต้องไม่คิดเองเออเอง ต้องหาคนที่คิดต่างมาร่วมหารือด้วย เพื่อให้ได้ผลงานที่ดีที่สุด

เบซอส เคยกล่าวในสุนทรพจน์เกี่ยวกับประเด็นนี้ที่งาน Pathfinder Awards ในเมืองซีแอตเทิลเมื่อปี 2016 ว่า “ด้วยการฝึกฝน คุณจะพูดถูกและทำสิ่งต่างๆ ถูกต้องมากขึ้น คนที่พูดถูกบ่อยๆ จะฟังผู้อื่นมากขึ้น และจะรู้จักปรับเปลี่ยนได้มากขึ้น”

เบซอสถ่ายทอดทัศนคตินั้นให้กับ แอนดี้ เจสซี ซีอีโอคนปัจจุบันของ Amazon ผู้สืบทอดตำแหน่งของเขา โดยเรื่องนี้เจสซีบอกว่า ตนเองมักจะตั้งคำถามกับหัวข้อใดหัวข้อหนึ่งเสมอ เพื่อดูว่ามันถูกต้องจริงๆ หรือไม่

สิ่งสำคัญคือ อย่าคิดเองเออเองคนเดียว ต้องหาคนที่เหมาะสมให้เข้ามามีส่วนร่วมในการให้ข้อเสนอแนะ เปิดรับฟังมุมมองที่แตกต่างกัน จากนั้นจึงคิดหาคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าหรือสำหรับธุรกิจ หากไอเดียไหนดีกว่าก็ลงมือทำ ไม่สำคัญว่านั่นเป็นความคิดของคุณหรือไม่ 

ในทำนองเดียวกัน จ็อบส์ได้ถ่ายทอดลักษณะนิสัยนี้ให้กับผู้สืบทอดตำแหน่งของเขา ซึ่งก็คือ ทิม คุก ซีอีโอ Apple คนปัจจุบัน

“จ็อบส์ชอบโต้วาทีและชอบที่มีใครสักคนมาโต้แย้งแลกเปลี่ยนไอเดียกับเขา และคุณสามารถเปลี่ยนใจเขาได้เสมอหากคุณมีแนวคิดที่ดีที่สุด เราเปลี่ยนใจกันได้ นั่นคือเหตุผลที่มันทำให้งานออกมาได้ผลดี” ทิม คุก เล่าเปิดใจในท้ายที่สุด