สายงานโซเชียลมาร์เก็ตติ้ง มาแรง! จะสร้างงาน 200,000 ตำแหน่ง ภายในปี 2030

สายงานโซเชียลมาร์เก็ตติ้ง มาแรง! จะสร้างงาน 200,000 ตำแหน่ง ภายในปี 2030

สายอาชีพ “โซเชียลมาร์เก็ตติ้ง” มาแรง! จะสร้างงานเกือบ 200,000 ตำแหน่งภายในปี 2030 โดย Fiverr (ตลาดซื้อขายงานอิสระ) สำรวจพบว่า คำค้นหาตำแหน่งงาน “ผู้จัดการเนื้อหาโซเชียลมีเดีย” เพิ่มสูงถึง 493% 

KEY

POINTS

  • สายงานดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งหรือโซเชียลมีเดียมาร์เก็ตติ้ง คาดว่าจะเติบโตขึ้น 8% ต่อปี และจะมีการสร้างตำแหน่งงานใหม่เกือบ 200,000 ตำแหน่งภายในปี 2030
  • สายงานการตลาดโซเชียลมีเดียไม่จำเป็นต้องมีวุฒิ ป.ตรี แต่ต้องมีทักษะทางเทคนิคที่สำคัญ คือ มีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในเรื่อง SEO, การวิเคราะห์ข้อมูล, การทำโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย
  • ตามข้อมูลของ FlexJobs และ LinkedIn ชี้ว่า ฐานเงินเดือนของสายงานนี้ในสหรัฐ ส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ 50,000 ดอลลาร์ต่อปี (ราวๆ 1,700,000 บาทต่อปี) หากมีประสบการณ์สูง อาจทำรายได้ถึง 120,000 ดอลลาร์ต่อปี (ราวๆ 4,100,000 บาทต่อปี) 

ใครกำลังมองหางานใหม่หรืออยากได้งานที่สามารถทำจากบ้านได้ ลองพิจารณาสายงาน “ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง” หรือ “โซเชียลมาร์เก็ตติ้ง” สายอาชีพที่มาแรงในตอนนี้ และคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี ท่ามกลางโลกยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตทุกคน

ไม่นานมานี้มีข้อมูลผลสำรวจจาก LinkedIn รายงานว่า สายอาชีพโซเชียลมาร์เก็ตติ้งและดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง ถือเป็นอาชีพที่เติบโตเร็วที่สุดในสหรัฐฯ โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของอีคอมเมิร์ซที่นับวันก็จะยิ่งขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคหลังการระบาดใหญ่ ที่หันมาซื้อของออนไลน์มากขึ้น

TikTok, LINE, Instagram, Facebook และแพลตฟอร์มอื่นๆ กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ธุรกิจต่างๆ ใช้ในการติดต่อกับลูกค้าและโปรโมตผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์ของตน และบริษัทต่างๆ ล้วนต้องการ ‘จ้างงาน’ บุคลากรที่จะช่วยให้พวกเขาใช้แพลตฟอร์มเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ไม่ว่าธุรกิจไหนก็ย่อมต้องการ ‘ทำตลาดบนสื่อโซเชียล’

จากการสำรวจข้อมูลของ FlexJobs และ Freelancer.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มหางานระดับโลก พบว่า ตำแหน่งงานโซเชียลมีเดียมาร์เก็ตติ้ง ทั้งลักษณะการทำงานแบบระยะไกล แบบไฮบริด และแบบฟรีแลนซ์ กำลังเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ 

สำนักงานสถิติแรงงานของสหรัฐ ระบุว่า ความต้องการแรงงานสายงานนี้ไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลย เมื่อภูมิทัศน์ของสายงานดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง รวมถึงโซเชียลมีเดียมาร์เก็ตติ้ง คาดว่าจะเติบโตขึ้น 8% ต่อปี และจะมีการสร้างตำแหน่งงานใหม่เกือบ 200,000 ตำแหน่งภายในปี 2030 

แม้ว่าสายงานด้านการตลาดบางตำแหน่งงานจะต้องการผู้สมัครที่มีวุฒิปริญญาตรี แต่ข้อกำหนดเบื้องต้นนี้ก็ไม่ได้จำเป็นเสมอไป เพราะยังมีอีกหลายตำแหน่งงานที่ไม่จำเป็นต้องมีวุฒิ ป.ตรี แต่วัยทำงานก็ยังคงทำอาชีพนี้ได้อย่างประสบความสำเร็จ

สายงานนี้ตลาดมีความต้องการสูง และไม่จำเป็นต้องมีวุฒิการศึกษา

โทนิ ฟรานา (Toni Frana) ผู้เชี่ยวชาญเรื่องอาชีพจากบริษัท FlexJobs มองว่าสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าใบปริญญาสาขาตลาด คือ ทักษะทางเทคนิคที่นักการตลาดด้านโซเชียลมีเดียจะนำมาใช้ในการทำงาน เพื่อให้งานของคุณโดดเด่น ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งส่วนใหญ่คนที่ทำงานสายนี้จำเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในเรื่อง SEO, การวิเคราะห์ข้อมูล, การทำโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย  

“ในการสมัครงานสาขานี้ ผู้จัดการอาจต้องการผู้สมัครที่มีทักษะด้านการถ่ายวิดิโอและตัดต่อวิดีโอ ทักษะการจัดการชุมชนออนไลน์ การสื่อสารติดต่อประสานงานกับอินฟลูเอนเซอร์ และสามารถพัฒนาแคมเปญการตลาดที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างผลกำไรได้ด้วย” เซบาสเตียน ซิเซเลส (Sebastian Siseles) รองประธานฝ่ายต่างประเทศของ Freelancer.com อธิบายเพิ่มเติม

หากใครอยากทำงานสายอาชีพโซเชียลมีเดียมาร์เก็ตติ้ง แนะนำให้เรียนอัปสกิลเพิ่มเติมได้จากช่องทางต่างๆ เช่น เรียนฟรีบนช่อง YouTube หรือสมัครเรียนหลักสูตรออนไลน์เพื่อรับใบประกาศรับรองการจบหลักสูตรด้านการตลาดดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซ ได้แก่ LinkedIn Learning, Coursera, HubSpot และ Google 

เปิด 3 ตำแหน่งงานเงินเดือนสูง ในสายงานดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง

สำหรับตำแหน่งงานที่นายจ้างมีความต้องการมากที่สุดในสาขานี้ ได้แก่ “ผู้จัดการอินฟลูเอนเซอร์ด้านมาร์เก็ตติ้ง”, “ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดโซเชียลมีเดีย” และ “นักวางกลยุทธ์ด้านเนื้อหา” ตามข้อมูลของ FlexJobs และ LinkedIn โดยเงินเดือนของแต่ละตำแหน่งก็จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประสบการณ์ โดยฐานเงินเดือนเริ่มต้นส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ 50,000 ดอลลาร์ต่อปี (ราวๆ 1,700,000 บาทต่อปี) สำหรับนักวางแผนกลยุทธ์หรือผู้จัดการที่มีประสบการณ์ อาจได้รับเงินเดือนสูงถึง 120,000 ดอลลาร์ต่อปี (ราวๆ 4,100,000 บาทต่อปี) 

ทั้งนี้ ฟรานา แนะนำให้ผู้สมัครงานสร้างพอร์ตโฟลิโอออนไลน์ที่แสดงถึงหลักสูตรด้านการตลาดโซเชียลมีเดียที่คุณได้เรียนมา รวมถึงผลงานด้านการตลาดดิจิทัลที่คุณทำ และคำรับรองจากลูกค้า ฯลฯ นำไปเสนอตอนสมัครงานหรือสัมภาษณ์งานด้วย ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสที่จะได้งานมากขึ้น 

“ประสบการณ์จากการได้ฝึกปฏิบัติจริงนี้ สามารถมีคุณค่าเท่ากับการเรียนจบปริญญาตรี เพราะสามารถแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับกลยุทธ์การมีส่วนร่วม การคัดเลือกเนื้อหา และการจัดการชุมชนออนไลน์ได้อย่างมืออาชีพ” ผู้เชี่ยวชาญอธิบายเพิ่มเติม

งานในสายโซเชียลมีเดียมาร์เก็ตติ้ง เป็นได้ทั้งอาชีพเสริมและอาชีพหลัก

ตามรายงานข้อมูลของ Fiverr ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายงานอิสระ ระบุว่า สายงานโซเชียลมีเดียมาร์เก็ตติ้งที่ทำแบบฟรีแลนซ์ ส่วนใหญ่นั้นสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ และกำหนดเวลาทำงานของตนเองได้ ตราบใดที่พวกเขาส่งงานตามกำหนด ทั้งนี้รายงานดังกล่าวยังพบอีกว่า ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มีความต้องการคนทำงานด้านโซเชียลมีเดียมาร์เก็ตติ้งอย่างต่อเนื่อง มีการค้นหาคำว่า “ผู้จัดการเนื้อหาโซเชียลมีเดีย” เพิ่มขึ้นสูงถึง 493% 

ยิ่งคุณมีประสบการณ์มากขึ้นเท่าใด คุณก็สามารถกำหนดอัตราค่าจ้างให้สูงขึ้นได้เท่านั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านโซเชียลมาร์เก็ตที่มีประสบการณ์มากๆ สามารถคิดค่าบริการได้มากถึง 125 เหรียญสหรัฐต่อชั่วโมง (ราวๆ 4,200 บาทต่อชั่วโมง) ยกตัวอย่าง “เจนนิเฟอร์ ชีลีย์” (Jennifer Shealey) ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดดิจิทัลและโซเชียลมีเดียแบบอิสระ ในเวโรบีช รัฐฟลอริดา คิดค่าบริการสำหรับงานนี้ระหว่าง 85-245 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง (2,900-8,300 บาทต่อชั่วโมง) 

หญิงวัย 46 ปีรายนี้บอกว่าการสร้างฐานลูกค้าประจำและการกระจายข้อเสนอของเธอให้หลากหลายขึ้น เช่น ออกแบบเว็บไซต์ สร้างเนื้อหาสำหรับ Instagram และเขียนเนื้อหา SEO สำหรับ YouTube ช่วยให้เธอสร้างอาชีพอิสระที่ประสบความสำเร็จได้ โดยในปี 2023 เธอทำรายได้มากกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ จากการทำงานอิสระบน Fiverr

นอกเหนือจากศักยภาพในการสร้างรายได้มหาศาลแล้ว สิ่งที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งในการทำงานด้านการตลาดโซเชียลมีเดียก็คือความยืดหยุ่น ทั้งในการจัดตารางเวลาและอิสระในการสร้างสรรค์ สามารถทำได้จากที่บ้านหรือจากที่ไหนก็ได้ เธอบอกว่า “หากคุณสนใจงานด้านความคิดสร้างสรรค์ งานวิเคราะห์ และการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง นี่คือสายงานที่ยอดเยี่ยมที่ควรลองทำ ตลาดงานยุคนี้ต้องการคนทำงานด้านการตลาดดิจิทัลเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน”