สถิติสุดอึ้ง ซีอีโอลาออก-ถูกปลด มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2024

สถิติสุดอึ้ง ซีอีโอลาออก-ถูกปลด มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2024

ปีนี้เก้าอี้ CEO สั่นคลอนหนัก! พบสถิติสุดอึ้ง ซีอีโอลาออก-ถูกปลดจากตำแหน่ง เกือบ 2,000 คน มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2024 ขณะที่บางรายต้องออกจากตำแหน่งด้วยเหตุเสียชีวิต

KEY

POINTS

  • CEO เป็นตำแหน่งที่ต้องเจอการทำงานหนักแสนสาหัส และเผชิญกับความเสี่ยงตกงานสูง ตามรายงานจาก Challenger, Grey & Christmas พบว่าปี 2024 มีซีอีโอลาออก-ถูกปลด เกือบ 2,000 คน เป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
  • ภูมิทัศน์ของการบริหารธุรกิจในปัจจุบัน เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนมากมาย และบริษัทต่างๆ ตอบสนองด้วยการปลดซีอีโอคนเก่าออก แล้วหาคนใหม่มาแทนที่ เพื่อดูว่าจะรับมือกับความท้าทายได้ดีกว่าเดิมไหม
  • เหตุผลอันดับ 1 ของการลาออกของซีอีโอในปีนี้คือ “การก้าวลงจากตำแหน่ง (stepped down)” รองลงมาคือ กำลังจะเกษียณอายุหรือกำลังมองหาโอกาสงานใหม่

ซีอีโอ” อาจเป็นตำแหน่งงานที่หลายคนใฝ่ฝันถึง เพราะเป็นงานที่ได้รับการยอมรับในสังคม ได้รับค่าตอบแทนสูง แต่รู้หรือไม่? ในความเป็นจริง CEO เป็นตำแหน่งที่ต้องทนทุกข์แสนสาหัสกับการทำงานหนักและความเสี่ยงตกงานสูง รวมถึงส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย บางครั้งพบว่า ซีอีโออาจเป็นตำแหน่งที่ทำให้อายุขัยสั้นลง?!   

โดยก่อนหน้านี้กรุงเทพธุรกิจเคยรายงานผลสำรวจ “Year-End CEO Turnover Report” เมื่อปี 2023 จาก Challenger, Grey & Christmas บริษัทฝึกสอนผู้บริหารและการบริหารธุรกิจ พบว่าอัตราการลาออกของซีอีโอ 1,914 คน เพิ่มขึ้น 55% เมื่อเทียบกับปี 2022 ที่มีซีอีโอลาออก 1,235 คน อีกทั้งพบว่า มีผู้บริหารระดับสูงในสหรัฐฯ 19 คนเสียชีวิตในตำแหน่ง ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดเท่าที่เคยสำรวจมานับตั้งแต่ปี 2010 

แอนดี้ ชาเลนเจอร์ รองประธานอาวุโสของ Challenger, Grey & Christmas อธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์นี้ว่า เป็นเพราะผู้บริหารหลายคนรู้สึกเหนื่อยล้าอย่างหนัก สืบเนื่องมาจากการทำงานที่ยากลำบากมากขึ้นหลังยุคโควิด ขณะเดียวกันข้อมูลจาก “สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติสหรัฐ” ก็รายงานเช่นกันว่า ตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา ภาวะเศรษฐกิจถดถอยส่งผลกระทบต่อธุรกิจแทบจะทุกอุตสาหกรรม ซีอีโอของหลายองค์กรต่างก็เผชิญปัญหาเรื่องงานที่หนักหน่วง ส่งผลให้มีอายุขัยลดลง 1.5 ปี 

อีกทั้งมีผู้บริหารหลายคนรายงานด้วยว่า ด้วยหน้าที่และความรับผิดชอบของพวกเขา ทำให้พวกเขานอนไม่หลับ ขาดการออกกำลังกาย และกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ มีข่าวคราวมากมายที่รายงานว่าวัยทำงานในบทบาทซีอีโอเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ด้วยภาวะหัวใจวายรุนแรงจากการทำงานหนักและไม่ได้พักผ่อน

ปี 2024 ซีอีโอถูกปลด-ลาออกจากตำแหน่ง สูงสุดเป็นประวัติการณ์

สถานการณ์ของซีอีโอในปี 2023 ว่าหนักแล้ว แต่สถานการณ์ปี 2024 กลับหนักยิ่งกว่า! เพราะเมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท Challenger, Gray & Christmas ได้ออกมาเปิดเผยรายงานใหม่ล่าสุดของปีนี้ โดยพบว่า มีซีอีโอที่ลาออกจากงานและถูกปลดออกจำนวนสูงถึง 1,991 คน (มากกว่าปีที่แล้ว 77 คน) ซึ่งถือเป็นนิวไฮหรือสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเป็นจำนวนมากกว่าปีอื่นๆ ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา

ตามรายงานระบุว่า ณ เดือนพฤศจิกายน 2024 มีซีอีโอ 1,991 ราย “ประกาศลาออก-ถูกปลดจากบริษัท” ซึ่งถือเป็นจำนวนสูงสุดเท่าที่มีการบันทึกไว้ หากนับเฉพาะเดือนที่แล้วพบว่า มีซีอีโอจากองค์กรธุรกิจชื่อดัง 167 คนที่ลาออกจากงาน รวมถึงจอห์น ชิดซีย์ ซีอีโอของ Subway และ ริก เดรลิง ซีอีโอของ Dollar Tree ด้วย

แม้ว่าชิดซีย์จะไม่ลาออกอย่างเป็นทางการจนกว่าจะถึงสิ้นปี 2024 ในทั้งสองกรณี บริษัททั้งสองแห่งระบุว่าซีอีโอที่ลาออกจะถูกแทนที่ด้วยผู้นำชั่วคราว ตามข้อมูลของ Challenger โดยผลสำรวจจำนวนซีอีโอที่เข้ามาแทนที่นั้น ล้วนเป็นซีอีโอชั่วคราวทั้งหมด 13% ในปี 2024 ซึ่งเพิ่มขึ้น 7% จากปี 2023

“ภูมิทัศน์ของการบริหารธุรกิจในปัจจุบันเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนมากมาย และบริษัทต่างๆ ตอบสนองด้วยการแต่งตั้งผู้นำชั่วคราวเข้ามาแทนที่ซีอีโอคนเก่า การดำเนินการนี้ถือเป็นการทดลองเพื่อดูว่าผู้นำจะรับมือกับความท้าทายในปัจจุบันได้อย่างไร และการเปลี่ยนหัวหน้าชั่วคราว จะสร้างความวุ่นวายน้อยกว่าการปล่อยให้ตำแหน่งนี้ว่างไว้” แอนดรูว์ ชาเลนเจอร์ รองประธานอาวุโสของบริษัทกล่าวในแถลงการณ์ 

เหตุผลที่ลาออกส่วนใหญ่คือ stepped down องค์กรภาครัฐมีอัตราการลาออกมากที่สุด

สำหรับเหตุผลที่พบบ่อยที่สุดเป็นอันดับ 1 ของการลาออกของซีอีโอในปีนี้คือ “ก้าวลงจากตำแหน่ง (stepped down)” ในขณะที่บริษัทเกือบ 500 แห่งไม่ได้ให้เหตุผลใดๆ ส่วนเหตุผลการลาออกที่พบบ่อยเป็นอันดับ 3 และ 4 คือ ซีอีโอกำลังจะเกษียณอายุหรือกำลังมองหาโอกาสใหม่

มีเพียง 10 บริษัทที่พบว่าซีอีโอลาออกด้วยเหตุผลด้านความผิดทางวินัย เช่น มีข้อกล่าวหาเรื่องการประพฤติมิชอบทางเพศหรือการประพฤติมิชอบในอาชีพ

จากข้อมูลผลสำรวจดังกล่าวยังพบอีกว่า องค์กรไม่แสวงหากำไรและองค์กรภาครัฐมีอัตราการลาออกมากที่สุดในปีนี้ โดยมี 438 ราย ตามมาด้วยบริษัทด้านการดูแลสุขภาพและบริษัทด้านเทคโนโลยี ในขณะที่บริษัทด้านบันเทิงมีรายงานว่ามี CEO ลาออก 139 ราย และองค์กรหรือบริษัทด้านการเงินมีการปลดซีอีโอคนเก่าออกจำนวน 140 ราย

เปิดรายชื่อซีอีโอบางส่วนที่ลาออก-ถูกปลด ในปี 2024

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างรายชื่อ CEO ระดับสูงจำนวนหนึ่งที่ลาออกหรือถูกปลดออกจากบริษัทของพวกเขาในปี 2024 ได้แก่ 

Starbucks : ปลด ลักซ์แมน นาราซิมฮาน ออกจากตำแหน่งซีอีโอ แล้วแต่งตั้งให้ ไบรอัน นิโคล เข้ามารับตำแหน่งซีอีโอแทน 

Boeing : ซีอีโอเดฟ คัลฮูน ลาออกในเดือนมีนาคมท่ามกลางวิกฤติมากมายของบริษัท 

Hertz : ซีอีโอสตีเฟน เชอร์ ลาออกในเดือนมีนาคม หลังจากนำบริษัทฝ่าภาวะล้มละลายไปได้ 

Amazon Web Services : ซีอีโออดัม เซลิปสกี้ ลาออกในเดือนมิถุนายน

Paramount : ซีอีโอบ็อบ บากิช ลาออกในเดือนเมษายน และถูกแทนที่โดยซีอีโอชั่วคราว

Nestle : ซีอีโอมาร์ค ชไนเดอร์ ลาออกในเดือนสิงหาคม หลังจากดำรงตำแหน่งมาเป็นเวลาแปดปี 

Nike : ปลด จอห์น โดนาโฮ ออกจากซีอีโอ แล้วแต่งตั้งให้ เอลเลียต ฮิลล์ อดีตคนเก่าแก่มากประสบการณ์ของไนกี้ให้กลับเข้ามาดูแลแทนในเดือนตุลาคม

Northvolt, Discover Financial, Under Armour : ซีอีโอของทั้ง 3 บริษัทนี้ก็ลาออกในปีนี้เช่นกัน

Intel : แพต เกลซิงเกอร์ ถูกปลดออกจากตำแหน่งซีอีโอเมื่อต้นเดือนธันวาคมนี้ เพราะสูญเสียความเชื่อมั่นจากคณะกรรมการบริหารของบริษัท

Stellantis : คาร์ลอส ตาบาเรส ถูกปลดออกจากตำแหน่งซีอีโอ เพราะสูญเสียความเชื่อมั่นจากคณะกรรมการเช่นกัน

Dave & Buster : ซีอีโอคริส มอร์ริส ได้ลาออกเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม เพื่อไปดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ European Wax Center ซึ่งจะเริ่มงานใหม่ในเดือนหน้า

Campbell : ซีอีโอมาร์ค คลูส ลาออกจากบริษัทซุปและขนมขบเคี้ยว เพื่อไปร่วมทีมวอชิงตัน คอมมานเดอร์สแห่ง NFL 

UnitedHealthcare : ซีอีโอไบรอัน ธอมป์สัน ถูกยิงเสียชีวิตในนิวยอร์กซิตี้เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

บริษัทบางแห่งนำ AI เริ่มเข้ามาแทนที่ซีอีโอที่เป็นมนุษย์

นอกเหนือจากรายงานข้างต้น ยังมีซีอีโออีกหลายคนในองค์กรชื่อดัง ที่กำลังจะลาออกหรือถูกบังคับให้ออกในเดือนธันวาคม 2024 แต่ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขอย่างเป็นทางการจนกว่าจะถึงเดือนมกราคม 2025 

ตามรายงานของ Challenger ยังระบุด้วยว่า มีซีอีโออย่างน้อยหนึ่งคนถูก “แทนที่ด้วยแชทบอท” หรือปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในปี 2024 ซึ่งยังคงเป็นแนวทางที่หายาก แต่เป็นแนวทางที่ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนเริ่มสนับสนุนกันมาหลายปีก่อนหน้านี้ 

ยกตัวอย่างเช่น บริษัทเกมออนไลน์ของจีน NetDragon Websoft เป็นบริษัทแรกที่ดำเนินการดังกล่าวในปี 2022 ตามมาด้วยบริษัทเหล้ารัมของโปแลนด์อย่าง Dictador และบริษัทสตาร์ทอัพ ด้านเทคโนโลยีทางกฎหมายอย่าง Logikcull ก็ใช้ AI มาทำงานแทนซีอีโอเช่นกัน โดยสรุปแล้วจะเห็นได้ว่าเส้นทางของการเป็นซีอีโอที่ว่ายากเย็นแสนเข็ญนั้น แต่การรักษาตำแหน่งนี้ให้อยู่ไปได้นานๆ กลับเป็นเรื่องยากยิ่งกว่าเสียอีก