บริษัททั่วโลก 41% จ่อเลิกจ้างพนักงานบางตำแหน่ง หันมาใช้ AI ทดแทน

บริษัททั่วโลก 41% จ่อเลิกจ้างพนักงานบางตำแหน่ง หันมาใช้ AI ทดแทน

World Economic Forum เผย ภายในปี 2030 บริษัททั่วโลก 41% จ่อลดจำนวนพนักงาน เลิกจ้างพนักงานบางตำแหน่งงาน แล้วหันมาใช้ AI ทดแทน

KEY

POINTS

  • นายจ้าง 41% จากองค์กรต่างๆ ทั่วโลกตั้งใจที่จะลดจำนวนพนักงานลงหรือเลิกจ้างพนักงาน เหตุ AI เข้ามาทำงานอัตโนมัติ (Task) บางอย่างแทนมนุษย์ได้
  • อาชีพที่คาดว่าจะลดลงอย่างรวดเร็วที่สุดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ได้แก่ เจ้าหน้าที่บริการไปรษณีย์, เลขานุการผู้บริหาร, เจ้าหน้าที่บัญชีเงินเดือน, กราฟิกดีไซน์เนอร์, เลขานุการฝ่ายกฎหมาย
  • บริษัทเกือบ 70% จะจ้างพนักงานที่มีทักษะการใช้เครื่องมือและการปรับปรุงด้าน AI ได้ และ 62% ตั้งใจที่จะรับสมัครคนที่มีทักษะด้าน AI มากขึ้น

ปฏิเสธไม่ได้ว่า AI เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโลกการทำงานในยุคนี้แล้ว แม้บางสายงานจะเริ่มแทรกซึมเข้ามาในเนื้องานไม่มากนัก แต่ในอนาคตคาดการณ์กันว่ามันจะทำให้ตำแหน่งงานบางตำแหน่งหายไปในที่สุด

ล่าสุด..รายงานเรื่อง Future of Jobs ของ World Economic Forum (WEF) ที่เพิ่งเผยแพร่ไปไม่กี่วันก่อน ระบุว่า นายจ้าง 41% จากองค์กรต่างๆ ทั่วโลกตั้งใจที่จะลดจำนวนพนักงานลงหรือเลิกจ้างพนักงาน เนื่องจาก AI เข้ามาควบคุมงาน (Task) บางอย่างแทนมนุษย์ได้โดยอัตโนมัติ 

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น (CNN) รายงานถึงผลสำรวจของ WEF ดังกล่าว ซึ่งได้ทำการสำรวจบริษัทขนาดใหญ่หลายร้อยแห่งทั่วโลก โดยพบข้อมูลสำคัญอีกประการคือ 77% ของบริษัททั่วโลกมีแผนที่จะฝึกทักษะใหม่ (อัปสกิล-รีสกิล) ให้กับพนักงานในองค์กรระหว่างปี 2025-2030 เพื่อให้ทำงานร่วมกับ AI ได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตามรายงานของปีนี้ไม่ได้ชี้ชัดว่าเทคโนโลยีต่างๆ และ AI นั้น จะส่งผลดีได้แบบ 100% ในทุกตำแหน่งงาน ซึ่งต่างจากรายงานฉบับก่อนของปี 2023

AI เปลี่ยนโฉมตลาดงาน สายงานบางอาชีพถูกลดความสำคัญ

ตัวแทนจาก WEF ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นนี้ ก่อนการประชุมประจำปีที่เมืองดาวอสในช่วงปลายมกราคม 2568 ว่า “ความก้าวหน้าด้าน AI และพลังงานหมุนเวียนกำลังเข้ามาพลิกโฉมตลาดแรงงาน ส่งผลให้ความต้องการตำแหน่งงานด้านเทคโนโลยีหรือในสาขาเฉพาะทางต่างๆ เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันความต้องการตำแหน่งงานอื่นๆ เช่น กราฟิกดีไซเนอร์ กลับลดลง”

ซาเดีย ซาฮิดี (Saadia Zahidi) กรรมการผู้จัดการของฟอรัมดังกล่าว ได้เขียนรายงานที่ครอบคลุมหลายประเด็น โดยเน้นย้ำถึงบทบาทของ AI เชิงสร้างสรรค์ในการเข้ามาเปลี่ยนอุตสาหกรรมและตำแหน่งงานต่างๆ ในทุกภาคส่วน เทคโนโลยีดังกล่าวสามารถสร้างข้อความ รูปภาพ และเนื้อหาอื่นๆ ที่เป็นต้นฉบับเพื่อตอบสนองต่อคำสั่งของผู้ใช้งาน

สำหรับกลุ่มอาชีพที่นายจ้างคาดหวังว่าจำนวนพนักงานจะลดลงอย่างรวดเร็วที่สุดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ได้แก่ “เจ้าหน้าที่บริการไปรษณีย์, เลขานุการผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่บัญชีเงินเดือน” โดยไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุการแพร่กระจายของ AI หรือแนวโน้มอื่นๆ ก็ตาม

บริษัททั่วโลก 41% จ่อเลิกจ้างพนักงานบางตำแหน่ง หันมาใช้ AI ทดแทน

ขณะที่อาชีพ “กราฟิกดีไซน์เนอร์” และ “เลขานุการฝ่ายกฎหมาย” ก็ติดอันดับตำแหน่งงานที่จะลดลงเร็วที่สุด 15 อันดับแรกเช่นกัน (ติดอันดับที่11 และ 13)  ซึ่งถือเป็นการคาดการณ์ครั้งแรกที่ไม่เคยพบเห็นในรายงาน Future of Jobs ฉบับก่อนๆ ข้อมูลใหม่นี้อาจแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่เพิ่มขึ้นของ Gen AI ในการทำงานที่ใช้ความรู้ได้มากขึ้นกว่าที่ผ่านมา” รายงานดังกล่าวระบุ

อาชีพที่จะถูกจ้างงานมากขึ้นคือ สายงานด้านการใช้เครื่องมือ AI 

ในทางกลับกัน ทักษะด้าน AI เป็นที่ต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ จากการสำรวจล่าสุดที่ดำเนินการเมื่อปีที่แล้ว บริษัทเกือบ 70% วางแผนที่จะจ้างพนักงานใหม่ที่มีทักษะในการออกแบบเครื่องมือและการปรับปรุงด้าน AI และ 62% ตั้งใจที่จะรับสมัครคนที่มีทักษะมากขึ้นเพื่อทำงานร่วมกับ AI ได้ดีขึ้น

รายงานดังกล่าวยังระบุด้วยว่า ผลกระทบหลักของเทคโนโลยี Gen AI ต่อการจ้างงานนั้น น่าจะอยู่ที่การเข้ามาเสริมศักยภาพในการทำงานให้แก่มนุษย์ และเกิดเป็นลักษณะของ “ความร่วมมือระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักร” มากกว่าจะเข้ามาแทนที่มนุษย์โดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงความสำคัญของทักษะมนุษย์ซึ่งจำเป็นกับการทำงานมากที่สุด

บริษัททั่วโลก 41% จ่อเลิกจ้างพนักงานบางตำแหน่ง หันมาใช้ AI ทดแทน

อย่างไรก็ตาม คนงานจำนวนมากถูกแทนที่ด้วย AI แล้ว ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทเทคโนโลยีบางแห่ง เช่น Dropbox ซึ่งเป็นบริการจัดเก็บไฟล์และ Duolingo ซึ่งเป็นแอปเรียนภาษา ได้ปลดพนักงานออกจำนวนหนึ่ง โดยอ้างว่า AI เป็นสาเหตุของการเลิกจ้างพนักงานกลุ่มดังกล่าว