เทรนด์พาร์ทไทม์มาแรงแซงงานประจำ คนรุ่นใหม่หันทำงานอิสระพุ่ง!

ไม่ใช่แค่การทำงานทางไกล (Remote work) เท่านั้นที่กำลังเป็นเทรนด์มาแรงในยุคนี้ และกำลังเปลี่ยนแปลงตลาดแรงงานทั่วโลก แต่อีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังมาแรงสูสีกันก็คือ การทำงานพาร์ทไทม์ ซึ่งสองสามปีมานี้กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นและอาจกลายเป็นเทรนด์การทำงานแห่งอนาคตเลยทีเดียว

ข้อมูลสถิติจาก Trading Economics ระบุว่า ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2025 ในสหรัฐฯ มีผู้ทำงานพาร์ทไทม์ถึง 28.5 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 27.9 ล้านคนในเดือนก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ 

ในขณะที่ข้อมูลจาก Advisor Perspectives ก็รายงานเทรนด์การทำงานในทิศทางเดียวกันว่า จํานวนพนักงานประจำในสหรัฐลดลงถึง 1.22 ล้านคน ซึ่งเป็นการลดลงรายเดือนครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2023 ขณะที่จํานวนผู้ทำงานพาร์ทไทม์กลับเพิ่มขึ้น 610,000 คน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นรายเดือนมากที่สุดตั้งแต่เดือนมีนาคม 2024 

อีกแนวโน้มที่สำคัญคือ การเติบโตของแรงงานกลุ่มฟรีแลนซ์ คาดว่าภายในปี 2027 วัยทำงานฟรีแลนซ์จะมีสัดส่วนพุ่งขึ้นและคิดเป็น 50% ของตลาดแรงงานสหรัฐฯ คนที่ทำงานอิสระสามารถจัดการเวลาของตัวเองได้ดีขึ้น บางคนสามารถสร้างรายได้สูงโดยใช้เวลาทำงานน้อยลง ผ่านการสร้างรายได้แบบ Passive Income หรือการมอบหมายงานให้ระบบอัตโนมัติ AI ช่วยทำแทน

ทำไมงานพาร์ตไทม์แบบทำงานทางไกล ถึงได้รับความนิยมในยุคนี้?

จากแนวโน้มข้างต้น เป็นไปได้ว่างานพาร์ทไทม์แบบ Remote work จะกลายเป็นเรื่องปกติในยุคนี้ โดยมีปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้รูปแบบการทำงานนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ได้แก่ 

- ค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้รายได้จากงานประจำอาจไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายและการออม

- ผู้คนต้องการความยืดหยุ่นในการทำงาน เพื่อให้มีเวลาทำตามความฝันหรือเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัว

- หลายคนให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตและความสมดุลระหว่างงานกับครอบครัว แม้ต้องทำงานน้อยลง แต่ก็พร้อมแลกเพื่อใช้เวลากับคนสำคัญมากขึ้น

เปิด 9 งานพาร์ทไทม์แบบระยะไกลที่น่าสนใจในปี 2025

ข่าวดีคือ งานพาร์ทไทม์ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นงานที่ให้ค่าตอบแทนต่ำเสมอไป คุณสามารถสร้างรายได้ดีจากงานเหล่านั้นได้ โดยข้อมูลผลสำรวจจาก Resume Now ได้จัดอันดับ 9 อาชีพที่ให้ค่าตอบแทนสูง สามารถทำงานพาร์ตไทม์ได้ และสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ ดังนี้ 

1. นักแก้ไขการพูดและภาษา (Speech-language pathologist)

ผู้เชี่ยวชาญสายบุคลากรการแพทย์ ที่มีหน้าที่ประเมิน วินิจฉัย และรักษาปัญหาด้านการสื่อสารและการกลืน เช่น ความผิดปกติในการพูด ภาษา และเสียง เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รายได้เริ่มต้น: 41 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง (ราวๆ 1,400 บาทต่อชั่วโมง)

2. นักเขียนด้านการแพทย์ (Medical writer)

ผู้เชี่ยวชาญที่สร้างและพัฒนาเนื้อหาทางการแพทย์ เช่น บทความวิจัย เอกสารกำกับยา และสื่อการศึกษาทางการแพทย์ โดยต้องมีความเข้าใจลึกซึ้งในวิทยาศาสตร์และความสามารถในการสื่อสารข้อมูลที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่าย
รายได้เริ่มต้น: 39 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง (ราวๆ 1,330 บาทต่อชั่วโมง) 

3. ผู้จัดการโครงการ (Project manager)

ผู้รับผิดชอบในการวางแผน ดำเนินการ และปิดโครงการ โดยควบคุมทรัพยากร กำหนดเวลา และงบประมาณ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ 
รายได้เริ่มต้น: 39 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง (ราวๆ 1,330 บาทต่อชั่วโมง) 

4. นักพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software developer)

ผู้เชี่ยวชาญที่ออกแบบ พัฒนา และดูแลซอฟต์แวร์ โดยเขียนโค้ด ทดสอบ และปรับปรุงโปรแกรม เพื่อให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รายได้เริ่มต้น: 38 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง (ราวๆ 1,290 บาทต่อชั่วโมง) 

5. นักบัญชีที่มีใบรับรอง (Certified Public Accountant - CPA)

ผู้เชี่ยวชาญด้านการบัญชีที่ได้รับการรับรอง มีหน้าที่ตรวจสอบ จัดทำ และวิเคราะห์รายงานทางการเงิน เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลทางการเงินถูกต้องและเป็นไปตามมาตรฐานบัญชี
รายได้เริ่มต้น: 38 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง (ราวๆ 1,290 บาทต่อชั่วโมง) 

6. นักออกแบบ UI เว็บไซต์, แอปฯ (User Interface Designer)

ผู้เชี่ยวชาญที่ออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้ของซอฟต์แวร์หรือเว็บไซต์ โดยมุ่งเน้นให้การใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่น สวยงาม และตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้
รายได้เริ่มต้น: 36 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง (ราวๆ 1,230 บาทต่อชั่วโมง) 

7. ที่ปรึกษาด้านการตลาด (Marketing consultant)

ผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำแนะนำและวางแผนกลยุทธ์การตลาด วิเคราะห์ตลาด กำหนดเป้าหมาย และวางแผนการตลาด เพื่อช่วยให้บริษัทหรือแบรนด์เข้าถึงลูกค้าและเพิ่มยอดขาย
รายได้เริ่มต้น: 35 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง (ราวๆ 1,190 บาทต่อชั่วโมง) 

8. นักออกแบบการเรียนรู้ (Instructional designer)

ผู้เชี่ยวชาญที่ออกแบบและพัฒนาสื่อการเรียนการสอน โดยใช้เทคนิคและเทคโนโลยีที่เหมาะสม เพื่อให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพและตรงตามความต้องการของผู้เรียน
รายได้เริ่มต้น: 34 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง (ราวๆ 1,160 บาทต่อชั่วโมง) 

9. ผู้ทดสอบซอฟต์แวร์ (QA tester)

ผู้เชี่ยวชาญที่ทดสอบซอฟต์แวร์เพื่อค้นหาและรายงานข้อผิดพลาดหรือปัญหาในการทำงาน เพื่อให้แน่ใจว่าซอฟต์แวร์ทำงานได้อย่างถูกต้องและตรงตามข้อกำหนดก่อนการเปิดตัวให้ใช้งาน
รายได้เริ่มต้น: 30 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง (ราวๆ 1,025 บาทต่อชั่วโมง) 

โดยสรุปภาพรวมคือ งานพาร์ทไทม์แบบที่ทำงานทางไกลได้เหล่านี้ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่เทคโนโลยี การออกแบบ การตลาด ไปจนถึงการแพทย์ และทุกสาขาต่างเป็นที่ต้องการในตลาดแรงงาน

บางงานจำเป็นต้องใช้วุฒิการศึกษา แนะช่องทางหางานพาร์ตไทม์แบบ Remote work

อย่างไรก็ตาม บางตำแหน่งอาจต้องมีประสบการณ์หรือวุฒิการศึกษามาก่อน เช่น นักเขียนด้านการแพทย์หรือนักพยาธิวิทยาด้านการพูดและภาษา แต่บางงาน เช่น ที่ปรึกษาด้านการตลาด หรือบริการเขียนเนื้อหาสำหรับธุรกิจด้านสุขภาพและความงาม สามารถเริ่มต้นได้ทันทีและเรียนรู้เพิ่มเติมระหว่างทำงาน

วัยทำงานสามารถมองหางานเหล่านี้ได้จากแพลตฟอร์มหางานแบบยืดหยุ่น เช่น FlexJobs ช่วยให้คุณค้นหางานโดยใช้ตัวกรองเฉพาะทาง เช่น งานแบบรีโมต งานแบบไฮบริด ฯลฯ หรือตัดกรองหางานตามชั่วโมงทำงานก็ได้ เช่น งานพาร์ทไทม์ งานยืดหยุ่น งานฟูลไทม์ ฯลฯ 

สำหรับทำงานพาร์ทไทม์แบบทำจากที่ไหนก็ได้ ที่อาจเริ่มต้นได้ง่ายที่สุดก็คือ งานเขียนฟรีแลนซ์  ที่ปรึกษาด้านการตลาด หรือการจัดการโครงการ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับขอบเขตงานและองค์กรที่ทำงานด้วย ท้ายที่สุดแล้ว ปี 2025 เป็นปีแห่งโอกาสในการทำงานพาร์ตไทม์ได้มากขึ้นกว่าในอดีต หากคุณกำลังมองหาวิธีสร้างรายได้ที่ยืดหยุ่นและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ งานเหล่านี้อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคุณ

 

 

อ้างอิง: Forbes, TradingEconomics, AdvisorPerspectives, Resume Now