'มิทเทนวาลด์' เมืองเล็กในป่าใหญ่ที่ใครๆก็หลงรัก
ศิลปะทำให้เมืองน่าอยู่ มิทเทนวาลด์ (Mittenwald) เมืองเล็กๆในแคว้นบาวาเรีย สหพันธรัฐเยอรมนีมีดีมากกว่านั้น
เพราะศิลปะทำหน้าที่บอกเล่าประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตของเมืองกลางป่าในอ้อมกอดของเทือกเขาแอลป์ได้อย่างเด่นชัดโดยมีผนังบ้านทุกหลังทำหน้าที่เป็นผืนผ้าใบ
มิทเทนวาลด์ มีความหมายตรงตัวว่าเป็นเมืองกลางป่า ตั้งอยู่เชิงเขาคาร์เวนเดล (Karwendel) ซึ่งมีความสูงถึง 2,244 เมตร แม้ว่าจะเป็นเมืองชายแดนของเยอรมนีที่อยู่ติดกับออสเตรีย แต่ก็เป็นเมืองการค้าที่ร่ำรวยในอดีตเนื่องจากเป็นจุดพักสินค้าที่จะมุ่งหน้าไปเวนิส บางคนบอกว่าเมืองนี้เหมือนกับถูกฟรีซเอาไว้ เพราะยังคงความงามของบ้านเรือนที่มีภาพเขียนสีในแบบ Lüftlmalerei ที่ได้รับอิทธิพลมาจากภาพเขียนสีเฟรสโก้จากอิตาลีแล้วนำมาสร้างสรรค์ในสไตล์ของตนเอง
ด้วยเทคนิคการเขียนภาพแบบเฟรสโก้ที่จิตรกรต้องวาดรูปในขณะที่ปูนยังเปียกอยู่ พอปูนแห้งสีก็จะผนึกแน่นอยู่กับผนังมีความทนทานได้เป็นร้อยๆปี ผนวกกับการดูแลรักษาของชาวเมืองทำให้ความงามของมิทเทนวาลด์ยังคงยืนหยัดอยู่ท่ามกลางกาลเวลา
มิทเทนวาลด์สะกดเราได้ทันทีตั้งแต่เริ่มต้นเดินออกจากสถานีรถไฟ อาคารบ้านเรือนทุกหลังตรึงสายตาด้วยภาพเขียนสีเรื่องราวในช่วงแรกๆจะเล่าเรื่องชีวิตความเป็นอยู่โดยทั่วๆไป
แต่ยิ่งเดินเข้าไปบริเวณจตุรัสกลางเมือง อันเป็นที่ตั้งของโบสถ์เซนต์ปีเตอร์แอนด์พอล ภาพเขียนบริเวณด้านหน้าของอาคารแต่ละหลังก็จะมีขนาดใหญ่ขึ้น ส่วนเนื้อหาก็จะเป็นเรื่องราวของความเชื่อ ความศรัทธาทางคริสต์ศาสนาเป็นส่วนใหญ่ รองลงมาเป็นเรื่องของวิถีชีวิตของชาวเมืองที่มีทั้งช่างไม้ พ่อค้า จิตรกร และนักไวโอลิน
นอกจากเป็นเมืองศิลปะแล้ว มิทเทนวาลด์ยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งไวโอลิน 1,000 คัน
กล่าวกันว่าหลังจากที่ มัทเทียส โคลทซ์ (พ.ศ.2196-2286) ไปศึกษาวิธีการทำไวโอลินจากอิตาลีแล้วนำมาถ่ายทอดให้กับหนุ่มๆในเมือง จนทำให้เกิดช่างฝีมือรวมทั้งไวโอลินคุณภาพดีสืบมาจนถึงทุกวันนี้
การเดินทางไปมิทเทนวาลด์ จากมิวนิกนั่งรถไฟ 2 ชั่วโมง จากสถานีรถไฟสามารถเดินเที่ยวในเมืองได้เลย
ถึงแม้ว่าจะเป็นเมืองเล็กแต่ก็เต็มไปด้วยศิลปะและเสียงดนตรี ดีจริงๆ
ขอขอบคุณ : สถานกงสุลใหญ่ ณ นครมิวนิก และ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)