ส่องค่าตัว ‘ซุปตาร์ฟันน้ำนม’ พร้อมสิทธิเด็กที่ควรรู้!
ส่องค่าตัวหรือรายได้จากเหล่า “ดาราเด็ก” ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นซูเปอร์สตาร์ฟันน้ำนม ว่ากันว่ารายได้ไม่น้อยไปกว่าดารารุ่นใหญ่เลย แต่การที่เด็กมีโอกาสทำงานตั้งแต่อายุน้อยแบบนี้ ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องควรตระหนักรู้เรื่องสิทธิเด็กด้วย
สมัยนี้ไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่เท่านั้นที่สามารถเป็นดาราหรือเป็นคนดังในวงการบันเทิงได้ แต่บรรดาเด็กๆ ก็เฉิดฉายแววความเป็นซุปตาร์ออกมาได้เช่นกัน แถมสามารถมีรายได้ค่าตัวที่อาจจะมากพอๆ กับดาราผู้ใหญ่เลยทีเดียว ในโอกาส “วันเด็กแห่งชาติ” ขอถือโอกาสนี้พาไปส่องเหล่าดาราเด็กคนดังของเมืองไทยและในต่างประเทศกันหน่อยว่าพวกเขามีรายได้มากน้อยแค่ไหน รวมถึงชวนรู้เกี่ยวกับหลักสิทธิเด็กไปพร้อมๆ กันด้วย
1. คู่แฝดสายฟ้าและพายุ
เริ่มต้นกันที่เซเลปตัวน้อยอย่าง “สายฟ้า พายุ” ลูกชายฝาแฝดของดาราสาวสวยอินเตอร์ “ชมพู่ อารยา” ว่ากันว่าถูกติดต่อเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าตั้งแต่ยังแบเบาะ จนถึงตอนนี้ก็โด่งดังเป็นเซเลปค่าตัวสูงลิ่วไปซะแล้ว มีข้อมูลว่าหนุ่มน้อยฝาแฝดคู่นี้รับค่าตัวพรีเซ็นเตอร์ผ้าอ้อมเด็กไปประมาณ 15 ล้านบาท
ที่มาภาพ: https://www.instagram.com/tthunder__stormm/?hl=en
2. น้องเป่าเปา
ส่วนสาวน้อยคนนี้ก็ฮอตฮิตติดลมบน สำหรับ "เป่าเปา" ลูกสาวคุณแม่ "กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์" เรียกแสงแฟลชและรอยยิ้มจากสื่อและแฟนคลับได้จำนวนมาก เซเลปรุ่นเล็กคนนี้ก็โด่งดังมาตั้งแต่เพิ่งคลอดเลยทีเดียว ยิ่งโตขึ้นก็ยิ่งน่ารักแถมยิ่งมีงานพรีเซ็นเตอร์และงานอีเวนท์รอคิวเพียบ มีข้อมูลว่าในการรับงานอีเวนท์แต่ละครั้งน้องเป่าเปามีรายได้เข้ากระเป๋าประมาณ 250,000 – 300,000 บาทต่อครั้งเลยทีเดียว
ที่มาภาพ: https://www.instagram.com/gggubgib36/?hl=en
3. น้องเรซซิ่ง
อีกหนึ่งหนุ่มน้อยที่เป็นลูกดาราคนดัง และกลายมาเป็นเซเลปตัวน้อยขวัญใจชาวไทย นั่นคือ “น้องเรซซิ่ง" ลูกชายคุณแม่สายสตรอง "แพท ณปภา” โดยน้องเรซซิ่งมีแฟนคลับติดตามผลงานอยู่จำนวนมาก โดยเฉพาะเมื่อออกกองถ่ายละครหรือถ่ายรายการกับคุณแม่ ก็จะมีพี่น้องคนไทยเข้ามาขอถ่ายรูปเพียบ รวมไปถึงการออกงานอีเวนท์ก็มีมาเพียบเช่นกัน สำหรับค่าตัวงานอีเว้นท์ต่างๆ มีข้อมูลว่าอยู่ที่ประมาณ 150,000 - 200,000 บาท
ที่มาภาพ: https://www.instagram.com/pat_napapa/?hl=th
4. น้องมะลิ พาขวัญ
ถัดมาเป็นซุปตาร์สาวน้อยขวัญใจคนไทยเช่นเดียวกับดาราเด็กอีกหลายๆ คน นั่นคือ “น้องมะลิ” ลูกสาวคนสวยของแม่โบว์ แวนด้า ความน่ารักสดใสของน้องมะลิทำให้กลายเป็นขวัญใจประชาชนไปโดยปริยาย ทำให้มีแฟนคลับคอยติดตามและเป็นกำลังใจอย่างล้นหลาม ความโด่งดังนี้จึงทำให้คุณแม่โบว์ได้รับการทาบทามให้น้องมะลิออกงานอีเวนท์ และเป็นพรีเซ็นเตอร์มากมาย มีข้อมูลว่าสำหรับค่าตัวในการรับงานพรีเซ็นเตอร์นั้นอยู่ที่ประมาณ 7 หลัก ส่วนงานอีเวนท์แต่ละงานที่รับเป็นงานคู่แม่ลูกอยู่ที่ประมาณ 200,000 บาท
ที่มาภาพ: https://www.instagram.com/vanda29/?hl=th
5. คู่แฝดอลินและอลัน
ส่วนอีกหนึ่งคู่ฝาแฝดที่ฮอตที่สุดในนาทีนี้ คงหนีไม่พ้น “น้องอลิน”และ“น้องอลัน” ลูกสาวกับลูกชายฝาแฝดของคุณแม่โอปอล์ ปาณิสรา ถือเป็นเซเลปฝาแฝดที่มีแฟนคลับติดตามมากเป็นอันดับต้นๆ ของเมืองไทยเช่นกัน พอน้องๆ ยิ่งโตขึ้นก็ยิ่งฉายแววความเป็นซุปตาร์ออกมาให้เห็น และถูกทาบทามให้รับงานในวงการบันเทิงทั้งการเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้า งานโฆษณา และรายการเรียลิตี้สุดฮอตจากเกาหลี มีข้อมูลว่าสำหรับค่าตัวรับงานพรีเซ็นเตอร์อยู่ที่ประมาณ 7 หลัก
ที่มาภาพ: https://www.instagram.com/opalpanisara/?hl=th
6. Ryan Kaji เซเลปเด็กจากต่างแดน
ไปส่องดูเซเลปเด็กของเมืองนอกกันบ้าง มีข้อมูลจาก Forbes ระบุว่าเด็กชาย Ryan Kaji อายุ 8 ขวบ ติดอันดับ YouTuber ที่มีรายได้สูงสุดในปี 2019 นั่นคือมากถึง 26 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเซเลปเด็กคนนี้มีรายรับเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 100% หรือ 11 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยับจากอันดับที่ 8 ขึ้นมาเป็นยูทูเบอร์อันดับ 1 ของปีไปโดยปริยาย
หนุ่มน้อยไรอันและครอบครัวผลิตคอนเทนต์เกี่ยวกับการรีวิวของเล่นของเด็กลงบนช่องยูทูเบอร์ โดยจุดเด่นคือไรอันมีเสน่ห์ของความจริงใจใสซื่อบริสุทธิ์แบบเด็กๆ ที่ถูกนำมารวมเข้ากับความตื่นเต้นของการได้เปิดแพ็กเกจจิ้งของเล่นหลากหลายชนิดจากทั่วโลก ซึ่งทำให้มีผู้ติดตามช่องนี้มากถึง 17 ล้านราย และมียอดวิวรวมกว่า 26,000 ล้านครั้ง
ที่มาภาพ: https://www.instagram.com/p/B6SfXutFObq/utm_source=ig_embed&utm_campaign=loading&hl=en
แต่ทั้งนี้การที่เด็กๆ ก้าวสู่โลกของการทำงานได้เหมือนผู้ใหญ่โดยมีครอบครัวสนับสนุน จนสามารถหารายได้จำนวนมากได้แบบนี้ แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ดีแต่ก็มีสิ่งที่ควรระวังทั้งในด้านพัฒนาการของเด็ก ด้านสุขภาพ ด้านจิตใจ ที่สำคัญคือผู้ใหญ่ต้องระมัดระวังเรื่องสิทธิเด็กด้วย
มีข้อมูลจาก พญ.โสรยา ชัชวาลานนท์ กุมารแพทย์และจิตแพทย์เด็ก โรงพยาบาลพระมงกฏเกล้า ที่เคยอธิบายไว้ในบทความวิชาการว่า การที่เด็กๆ เริ่มต้นทำงานในวงการบันเทิงตั้งแต่อายุน้อย โดยเฉพาะเหล่าดาราเด็กที่สามารถหารายได้ได้จำนวนมากเทียบเท่าผู้ใหญ่ อาจมีข้อเสียคือทําให้เด็กเสียโอกาสในการ “เป็นเด็ก" ขาดการได้เล่นตามวัย ขาดการได้พัฒนาทักษะตามวัย โดยเฉพาะทักษะทางสังคม แต่ในอีกด้านหนึ่งก็มีข้อดีด้วย นั่นคือ เด็กสามารถเห็นจุดเด่นในตัวเอง มีความมั่นใจและภาคภูมิใจในตัวเองได้
ดังนั้นการที่ครอบครัวสนับสนุนให้ลูกได้ลองทำงานในสายอาชีพนี้ ก็เป็นสิ่งที่ทําได้ เพียงแต่ต้องทําให้เด็กมีความสุขด้วย และผู้ปกครองต้องคอยบอกและสอนให้เด็กแยกแยะโลกของการแสดงกับโลกของความเป็นจริงให้ได้ และสนับสนุนให้เด็กได้เข้าสังคมตามวัยของพวกเขาด้วย รวมถึงผู้ใหญ่ควรใส่ใจและตระหนักรู้เรื่องหลักสากลเกี่ยวกับ “สิทธิเด็ก” เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิเด็กที่อาจเกิดขึ้นได้
และต่อไปนี้คือ 10 ข้อควรรู้เพื่อร่วมปกป้องสิทธิเด็ก ได้แก่
1. ผู้ปกครองควรดูแล ปกป้อง คุ้มครองเด็กที่อยู่ในความดูแลของตน ไม่ให้ตกอยู่ในภาวะเสี่ยงที่อาจเกิดอันตรายต่างๆ
2. ผู้ปกครองควรพัฒนาเด็กที่อยู่ในความดูแลของตนให้สอดคล้องกับพัฒนาการและศักยภาพของเด็กตามแต่ละช่วงวัย
3. ผู้ปกครองควรร้องขอความช่วยเหลือ หากพบว่าตนไม่สามารถดูแลหรือปกป้องเด็กให้ได้รับการดูแลที่ควรได้
4. ผู้ใหญ่ทุกคนในสังคมควรช่วยกันสอดส่องดูแลให้เด็กได้รับความปลอดภัย หากพบเห็นเด็กที่ตกอยู่ในอันตราย ควรแจ้งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300
5. ผู้ใหญ่ทุกคนในสังคมควรส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ในบริบทที่สามารถทำได้
6. ไม่ควรทำร้าย ร่างกาย จิตใจเด็กทั้งทางตรงและทางอ้อม ควรปรับรูปแบบการสื่อสารในเชิงบวกอย่างมีเหตุมีผล
7. ไม่ควรทำให้เด็กรู้สึกว่าตนเองถูกเลือกปฏิบัติ หรือไม่ควรเลือกปฏิบัติต่อเด็กหรือคาดหวังเกินศักยภาพของเด็ก
8. ไม่ปล่อยให้เด็กไม่ว่าเด็กคนใดก็ตามตกอยู่ในสภาวะอันตรายทั้งจากบุคคล สังคม และสิ่งแวดล้อม
9. ไม่มีส่วนร่วมหรือสนับสนุนการกระทำใดๆ อันอาจเป็นการละเมิดต่อเด็ก เช่น การแชร์ภาพเด็ก การส่งต่อคลิปที่เกี่ยวข้องกับเด็ก
10. ไม่อาศัยสถานะหรือสถาบันหรืออาชีพของตนในการแสวงประโยชน์จากเด็กหรือทำการใดๆ จนทำให้เป็นการละเมิดสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเด็กและครอบครัว
—————————————
อ้างอิง: