'Hundred Years Between' นิทรรศการภาพถ่าย โดยท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน
ชวนชมภาพถ่ายตามรอยรัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรนอร์เวย์เมื่อปี พ.ศ. 2450 โดย "คุณใหม่" ท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน
เพราะความหลงใหลในประวัติศาสตร์ การเดินทาง และการถ่ายภาพ ทำให้ “ท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน” ตัดสินใจออกเดินทางตามรอยรัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรนอร์เวย์เมื่อปี พ.ศ. 2450 แม้การเดินทางจะห่างกันเกินกว่าศตวรรษหากแต่ภูมิทัศน์ดินแดนไวกิ้งอันแสนงาม ลึกลับและทรงพลัง ยังคงเป็นประจักษ์พยานให้มนุษย์ตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติที่ยืนหยัดข้ามกาลเวลา จึงเป็นที่มาของนิทรรศการภาพถ่าย Hundred Years Between ที่จัดแสดงขึ้น ณ ศุลกสถาน (โรงภาษีร้อยชักสาม) ย่านเจริญกรุง ระหว่างวันที่ 1-9 กุมภาพันธ์ ซึ่งถือป็นหนึ่งในไฮไลท์สำคัญของงาน “เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2563 หรือ Bangkok Design Week 2020”
จากความชอบในการถ่ายภาพและการเดินทางเป็นงานอดิเรก อีกทั้งยังให้ความสนใจในด้านประวัติศาสตร์ของไทย โดยเชื่อว่าการเสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรนอร์เวย์ในช่วงปลายพระชนม์ชีพของพระพุทธเจ้าหลวงในครั้งนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งในทางประวัติศาสตร์ จึงได้ศึกษาค้นคว้าพระราชหัตถเลขาที่สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงมีถึงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้านิภานภดล วิมลประภาวดี กรมขุนอู่ทองเขตขัตติยนารี พระราชธิดาองค์ที่ 3 ที่ทรงเป็นราชเลขานุการิณีในสมเด็จพระราชบิดา
ในพระราชหัตถเลขาได้เล่าถึงเรื่องราวเมื่อครั้งเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2450 โดยเสด็จเยือนประเทศนอร์เวย์เป็นเวลาหนึ่งเดือน ซึ่งเป็นการเล่าทำนองการบันทึกประจำวัน มีทั้งความรู้และเรื่องราวต่างๆ รวมถึงการเสนอแนวพระราชดำริ และพระราชวินิจฉัยส่วนพระองค์ต่อเหตุการณ์มากมาย รวมทั้งสำรวจตรวจสอบภาพถ่ายฝีพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก่อนออกเดินทางตามเส้นทางธรรมชาติ ชมภูมิทัศน์ที่สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงร้อยเรียงเรื่องราวผ่านพระอักษร และภาพทรงถ่ายไว้อย่างดีวิเศษยิ่ง
นี่ถือเป็น “ครั้งแรก” ที่สาธารณชนจะได้เข้าชมงานนิทรรศการภาพถ่าย ณ อาคารหลังประวัติศาสตร์ของกรุงเทพมหานครอย่าง “ศุลกสถาน” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “โรงภาษีร้อยชักสาม”
ร่วมค้นหาร่องรอยแห่งกาลเวลาที่อาจยังถูกพิทักษ์รักษาในอ้อมกอดของธรรมชาติภายในนิทรรศการ Hundred Years Between ซึ่งนอกจากการได้สำรวจเรื่องราวอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ผ่านภาพถ่ายแล้ว นี่ยังเป็น “ครั้งแรก” ที่สาธารณชนจะได้เข้าชมงานนิทรรศการภาพถ่าย ณ อาคารหลังประวัติศาสตร์ของกรุงเทพมหานครอย่าง “ศุลกสถาน” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “โรงภาษีร้อยชักสาม” (The Custom House) ที่ตัวอาคารถูกออกแบบเป็นศิลปโรมันคลาสสิคผสมผสานระหว่างนีโอคลาสสิกกับปัลลาดีโอ ถูกสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ตั้งตระหง่านอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยามายาวนานกว่า 136 ปี
อาคาร “ศุลกสถาน” ถือเป็นอาคารเก่าแก่ซึ่งอยู่คู่กับย่านเจริญกรุงริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยามายาวนาน และเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรืองทั้งในด้านของเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมในอดีต
ปัจจุบันอาคารแห่งนี้อยู่ระหว่างการบูรณะเพื่อให้เกิดประโยชน์และสร้างคุณค่าสําหรับคนรุ่นหลัง ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการบูรณะถึง6 ปี และเปิดให้ประชาชนได้เข้าชมเฉพาะช่วงการจัดงานเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2563 นี้ เท่านั้น
“ศุลกสถาน” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “โรงภาษีร้อยชักสาม” ตัวอาคารถูกออกแบบเป็นศิลปโรมันคลาสสิคผสมผสานระหว่างนีโอคลาสสิกกับปัลลาดีโอ ถูกสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ตั้งตระหง่านอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยามายาวนานกว่า 136 ปี
นี่จึงนับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการค้นหาร่องรอยแห่งกาลเวลาผ่านภาพถ่ายอันทรงคุณค่า ตามดูร่องรอยอารยธรรมของไทยในสมัยรัชกาลที่ 5 เรียนรู้และซึมซับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของย่านเจริญกรุงไปพร้อมกัน
นิทรรศการภาพถ่าย Hundred Years Between จัดแสดงขึ้นภายในงาน “เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2563 (BKKDW 2020)” ในวันที่ 1 – 9 กุมภาพันธ์ 2563 เปิดทุกวันตั้งแต่ 11.00 - 21.00 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ณ ศุลกสถาน
ติดตามความเคลื่อนไหวและกิจกรรมดีๆ ภายในงานได้ทางwww.bangkokdesignweek.com Facebook : BangkokDesignWeek