Parasite เขียนประวัติศาสตร์ใหม่ให้ OSCAR 2020
Parasite ภาพยนตร์ที่เป็นความภูมิใจของคนเกาหลี Pride of Korea หลังเป็นหนังภาษาต่างประเทศเรื่องแรกที่คว้ารางวัล 'ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม' ไปครองได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 92 ปี ของออสการ์
ผลการประกาศรางวัลออสการ์ประจำปี 2020 จบลงไปแล้วพร้อมกับเสียงเฮดังสนั่น เพราะภาพยนตร์สัญชาติเกาหลีใต้เรื่อง Parasite ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม หรือ Best Picture ไปครอง กลายเป็นภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศเรื่องแรกที่ชนะรางวัลใหญ่สุดของงานเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 92 ปีของออสการ์
ก่อนหน้านี้เคยมีภาพยนตร์เอเชียที่ทำออกมาเป็นภาษาของตัวเอง และได้เข้าชิงรางวัล Best Picture มาก่อนเช่นกัน คือ Crouching Tiger, Hidden Dragon ของผู้กำกับ อั้งลี่ ทว่าหนังเรื่องนั้นเป็นการร่วมทุนระหว่างไต้หวันกับฮอลลีวูด ต่างจาก Parasite ซึ่งเป็นหนังเกาหลีแท้ ๆ ที่บริษัท CJ Entertainment เป็นคนออกทุนสร้าง ผู้กำกับ นักแสดงเป็นชาวเกาหลีทั้งหมด และใช้ภาษาเกาหลีในการสื่อสารกันทั้งเรื่อง
ในส่วนของภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศที่เคยได้เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของออสการ์นั้น ที่ผ่านมามีเพียง 10 เรื่องเท่านั้น อาทิ Amour, Life Is Beautiful แต่ไม่เคยมีเรื่องใดไปถึงฝั่งฝันแบบเดียวกับ Parasite โดยเมื่อปีที่แล้วหนังเรื่อง Roma ของ Alfonso Cuaron ถือว่าใกล้ความจริงที่สุดเพราะถูกมองว่าเป็นตัวเต็งที่จะได้รางวัล Best Picture ไปครอง แต่กลับต้องพ่ายให้กับ Green Book ไปอย่างน่าเสียดาย
สำหรับ Parasite ที่มีชื่อภาษาไทยว่า ‘ชนชั้นปรสิต’ นั้น ถือว่าเป็นหนังลูกรักของเวทีประกาศรางวัลระดับโลก ผู้กำกับ บงจุนโฮ และทีมนักแสดงเดินสายรับรางวัลมาตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว ไล่มาตั้งแต่รางวัลปาล์มทองคำซึ่งเป็นรางวัลใหญ่สุดของงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ตามมาด้วยรางวัลภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมจากเวทีลูกโลกทองคำ และเวทีบาฟต้า (BAFTA) และอื่น ๆ อีกมากมาย ก่อนจะมาถึงเวทีออสการ์ที่ Parasite ได้เข้าชิง 6 สาขา และได้รับไปทั้งสิ้น 4 สาขา ได้แก่ บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม, ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม และภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
Parasite ชนชั้นปรสิต เป็นเรื่องราวของ 2 ครอบครัวที่มาจากคนละสุดขั้วของสังคม คือ ครอบครัวคิมที่ประกอบไปด้วย พ่อ แม่ ลูกชาย และลูกสาว รวม 4 คน อาศัยอยู่ในห้องเล็ก ๆ ที่ทั้งแคบ ร้อน และเหม็นอับในชั้นใต้ดินของกรุงโซล คนในครอบครัวนี้ตกงานกันทุกคน ต้องยังชีพด้วยการพับกล่องกระดาษขาย ซึ่งแม้แต่งานง่าย ๆ แบบนี้ พวกเขาก็ยังทำได้ไม่ดีอีกนั่นแหละ
อยู่มาวันนึงลูกชายของบ้านสบโอกาส ได้ไปติวหนังสือให้ลูกสาวครอบครัวเศรษฐี (โดยใช้วุฒิบัตรปลอมว่าเป็นนักเรียนนอก) แล้วพวกเขาก็ค่อย ๆ แทรกซึม ดึงทุกคนในบ้านเข้าไปทำงาน เป็นปรสิต (Parasite) เกาะกินครอบครัวคนรวย แต่แล้วความแตกต่างระหว่างชนชั้นของสองครอบครัวนี้ก็ทำให้เกิดความอลหม่านเกินกว่าที่คุณจะคาดเดาตามมา
หนังเรื่องนี้จะทำให้คุณรู้สึกถึงคำว่า “เหม็นสาบคนจน” ขึ้นมาติดจมูก แล้วก็ถูกกระแทกไปด้วยคำพูดง่าย ๆ แต่สะท้อนอะไรหลายอย่างออกมา อย่างฉากที่คนเป็นพ่อ ครอบครัวคิม ชมครอบครัวคนรวยว่า “พวกเขารวยแต่ก็ยังนิสัยดีเนอะ” ก่อนจะถูกคนเป็นภรรยาสวนกลับมาว่า “พวกเขานิสัยดีก็เพราะว่ารวยต่างหาก”
Parasite เป็นผลงานการกำกับของ บงจุนโฮ (Bong Joon Ho) ที่เคยสร้างชื่อจากภาพยนตร์ไซไฟทริลเลอร์เรื่อง Snowpiercer, The Host แล้วก็หนังของ Netflix เรื่อง Okja มาก่อนหน้านี้ ส่วนนักแสดงก็ถือว่ามีฝืมือระดับแนวหน้าทั้ง ซง คังโฮ, อี ซอนกยุน, โจ ยอจอง, ชเว อูชิก และพัก โซดัม
ทำไม Parasite ชนชั้นปรสิต ถึงได้เป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วโลกขนาดนี้?
งั้นลองไปฟังความเห็นจากนักวิจารณ์ และบทวิเคราะห์จากคนในวงการกัน อาทิ เดวิด เอเดลสไตน์ จาก Vulture ที่บอกว่า “สิ่งที่ทำให้คุณดำดิ่งไปกับตัวหนังคือความฉลาดทางด้านภาพ ที่ทุกช็อตกลั่นเอาธีมของหนังออกมา นอกจากนี้ก็ยังมีความรุ่มรวยของตัวละครต่าง ๆ และการแสดงอีกด้วย”
ขณะที่ จอห์น นูเกนท์ จาก Empire บอกว่า “ปาฏิหาริย์ของภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง รู้สึกราวกับว่าบงจุนโฮได้สร้างสิ่งนี้ขึ้นมา : หนังที่เสียดสีสังคมอย่างอลหม่าน ซึ่งให้ความบันเทิงเป็นอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันก็ถากถาง เหน็บแนมอย่างลึกซึ้งเช่นกัน”
แต่คนที่พูดถึง Parasite เอาไว้ได้อย่างคมคายเห็นจะเป็นตัวผู้กำกับ บงจุนโฮ เองที่พูดถึงหนังของเขาเอาไว้ว่าเป็น “หนังตลกที่ปราศจากตัวตลก, หนังโศกนาฏกรรมที่ปราศจากตัวร้าย”
ส่วนตอนที่ขึ้นไปรับรางวัล Best Picture นั้น บงจุนโฮได้พูดเอาไว้ว่า “ผมรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าทุกอย่างเป็นแค่ความฝัน มันรู้สึกเหนือจริงไปหมด” ขณะที่ Kwak Sin-ae โปรดิวเซอร์ของหนังเรื่องนี้ก็บอกว่า “ผมพูดไม่ออกเลย พวกเราไม่เคยคิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น”
หลังจากนั้นผู้จัดงานได้พยายามจะตัดบทการกล่าวคำขอบคุณของทีมหนัง Parasite ที่กำลังรับรางวัล Best Picture ลงด้วยการปิดไฟบนเวที จนเกิดเสียงโห่ดังขึ้นตามมาจนต้องเปิดไฟขึ้นมาใหม่