'ประกันรถยนต์' ยังจำเป็นอยู่ไหม ในวันที่ต้อง 'Work from Home'

'ประกันรถยนต์' ยังจำเป็นอยู่ไหม ในวันที่ต้อง 'Work from Home'

ถ้าต้องอยู่บ้าน แล้วเน้นทำงานแบบไม่ต้องเข้าออฟฟิศ การทำ "ประกันภัยรถยนต์" ยังจำเป็นอยู่ไหม?

ในสถานการณ์ โควิด-19 หลายองค์กรเซฟความปลอดภัยของพนักงานด้วยนโยบายให้ทำงานอยู่กับบ้าน (Work from Home)  กระทั่งรัฐบาลเองก็ยังขอความร่วมมือให้ประชาชน ‘อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ’ เพื่องดแพร่กระจายของโรค ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ย่อมทำให้พฤติกรรมการใช้รถยนต์ลดน้อยลงตามไป จนทำให้บรรดาเจ้าของเกิดคำถามที่ว่า การทำประกันภัยรถยนต์ ยังจำเป็นอยู่หรือไม่

หากประกันภัยรถยนต์ ของใครยังไม่หมดไม่อายุก็คงแล้วไป แต่ถ้าของใครใกล้หมดเชื่อว่าคงเป็นเวลาที่ต้องคิดหนัก เพราะการทำประกันภัยรถยนต์ เป็นการตกลงกันระหว่างผู้ซื้อ (ผู้เอาประกันภัย) และผู้ขาย (บริษัทประกันภัย) โดยเป็นการเลือกซื้อความคุ้มครองประกันภัยตามความพึงพอใจของผู้ซื้อไม่ได้ถูกบังคับโดยกฎหมาย 

แต่การต่ออายุประกันภัยรถยนต์ยามนี้เป็นเรื่องที่ผู้ซื้อต้องตัดสินใจ  เพราะไหนจะรถยนต์ที่หมดอายุประกันต้องหมดลงจะเป็นคันเดียวกับที่จอดไว้เฉยๆอยู่กับบ้าน  ไหนจะเรื่องของรายได้ที่ต้องลดลงเพราะโควิด-19 ไหนจะเรื่องความคุ้มค่าของเงินเบี้ยประกัน ด้วยไม่แน่ใจว่าการซื้อประกันภัยในช่วงที่เราไม่ค่อยใช้รถคือเรื่องฉลาดหรือเป็นความสิ้นเปลืองกันแน่

ถึงตรงนี้ ‘กรุงเทพธุรกิจออนไลน์’ ไม่ได้มีคำตอบแบบสำเร็จรูปให้ แต่เรามีหลักคิดมาฝาก ให้เอาไปใช้ตัดสินใจกันเอง ลองตอบคำถามต่อจากนี้อย่างตรงไปตรงมาเพื่อให้รู้ว่าเรายังสมควรกับการต่อประกันรถยนต์หรือไม่ แม้ว่าจะ WFH อยู่กับบ้าน

  • ซ่อมไหวไหม ถ้าไม่มีประกัน

ประกันภัยรถยนต์ที่มีอัตราเบี้ยต่ำที่สุดคือประกันภัยชั้น 3 ซึ่งประกันประเภทนี้จะให้ความคุ้มครองกับรถคู่กรณีเมื่อเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชน แต่ไม่รวมกับกรณีที่รถยนต์ของเราสูญหายจากการโจรกรรม หรือไฟไหม้  หรืออธิบายง่ายๆว่า  ประกันชั้น 3 จะออกค่าใช้จ่ายในการซ่อมคู่กรณี ไม่ซ่อมเรา  

ดังนั้นลองจินตนาการว่า แม้รถยนต์ของคุณจะมีราคาค่าอะไหลที่ไม่สูงมากนัก แต่ถ้าวันใดวันหนึ่งคุณ WFH อยู่กับบ้าน นึกอยากออกไปหาซื้อของกินไม่ไกลนัก แล้วดันเกิดเหตุไม่คาดฝัน ขับไปชนกับรถยุโรปราคาแพง ซึ่งคุณเป็นฝ่ายผิด

เมื่อไม่มีประกันเข้ามาช่วยดูแล นั่นหมายความว่า คุณต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับคู่กรณีทั้งหมด ถ้าโชคดีหน่อยค่าซ่อมที่ว่าอาจไม่แพงมากนัก แต่ถ้าโชคร้ายรถคู่กรณีของคุณกลายเป็นรถหรู คุณคิดว่าจะจ่ายค่าซ่อมไหวไหม ถ้าไม่มีประกัน

  • โอเคไหมกับคู่กรณีสุดเขี้ยว

ปัญหาส่วนใหญ่ของอุบัติเหตุคือการเจรจาพูดคุยระหว่างคู่กรณี  มีไม่น้อยที่ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถพูดคุยกันได้ด้วยดี แต่ก็มีอีกบางที่จบกันไม่ลง กลายเป็นคลิปทะเลาะวิวาท ต่อปากต่อคำแบบที่เราเห็นกันในข่าว

หากไม่มีประกันภัยรถยนต์ นั่นหมายความว่าคุณต้องเจรจากับคู่กรณีอย่างโดดเดี่ยว ไม่มีเจ้าหน้าที่ประกันภัยให้คำแนะนำเรื่องค่าเสียหาย การประเมินราคาค่าซ่อม รวมถึงการหาข้อสรุปให้ Happy Ending กันทั้งฝ่าย

ลองถามตัวเองว่า คุณโอเคไหม หากต้องเจรจากับคู่กรณีสุดเขี้ยวลากดิน คิดแต่จะเอาเปรียบ หาแต่ช่องทางกระทืบซ้ำกวางน้อยอย่างคุณที่ต้องต่อสู้บนท้องถนนอย่างโดดเดี่ยวเพราะไม่ได้ต่อประกันภัยรถยนต์แล้ว

  • ไม่ทำประกันได้ แต่ต้องไม่ติดไฟแนนซ์

นี่คือกติกาซึ่งใครๆเข้าใจว่า หากคิดจะไม่ต่อประกันภัย เจ้าของรถจำเป็นต้องผ่อนไฟแนนซ์ให้ครบเสียก่อน  และบริษัทสินเชื่อรถยนต์ส่วนใหญ่จะบังคับให้ทำประกันรถยนต์ครอบคลุมช่วงเวลาที่ต้องผ่อนชำระด้วยอยู่แล้ว กรณีนี้ไม่เกี่ยวว่าคุณจะใช้รถบ่อยแค่ไหน หรือต้อง WFH นานเท่าใด เพราะถ้ารถยังติดไฟแนซ์ คุณก็ต้องทำประกันภัย

  • โอเคไหม ถ้าต้องจบเรื่องเองที่ศาล

เมื่อคุณคิดจะไม่ต่อประกันภัยรถยนต์ คุณต้องคิดเผื่อไว้ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด (Worst case) ซึ่งในที่นี้หนีไม่พ้นกรณีที่เกิดเหตุรถชนกัน จนมีผู้เสียชีวิต หรือเป็นคดีอาญาที่ต้องขึ้นศาล หากไม่คิดจะต่อประกัน นั่นหมายความว่าคุณต้องดำเนินการทุกอย่างด้วยตัวเอง สู้คดีเอง ทั้งยังหมายถึงไม่ได้รับความคุ้มครองเรื่องของประกันตัวผู้ขับขี่อีกอีกด้วย

158710074830

  • ไม่ทำประกัน ต้องระวังให้มาก

สิ่งสุดท้ายแต่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องสำคัญที่สุดของการขับขี่รถยนต์คือความระมัดระวัง และในช่วงที่คุณงดออกจากบ้าน หรือต้อง WFH เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 มันคงไม่แปลกหากคุณจะไม่อยากต่อประกันภัยรถยนต์ เพราะมองว่ายังไม่ถึงเวลา

ถึงเช่นนั้นก็พึ่งระลึกไว้เสมอว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเวลา แม้ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่นาที ที่คุณละสายตาจากการทำงานที่บ้าน แล้วขับออกไปหาซื้อของกินมารับประทาน

เมื่อไม่มีประกันภัยรถยนต์ นั่นหมายความว่าคุณต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่มากขึ้น ทั้งระวังจากการขับของตัวเอง และระวังการขับขี่ของผู้อื่น นั่นเพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากความประมาทของผู้อื่น  อาจส่งผลกระทบมาถึงคุณได้

คุณพิจารณาปัจจัยข้างต้นแล้ว คุณคงมีคำตอบอยู่ในใจ ว่าในช่วงที่เราต้องอยู่กับบ้าน และใช้เวลาทำงานส่วนใหญ่ไปกับ WFH ประกันภัยรถยนต์ยังคงจำเป็นหรือไม่

ค้นหาประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะกับคุณได้ที่นี่  คลิก