เชฟแคร์...ด้วยรักและห่วงใย

Chef Cares  รวบรวมเชฟดังติดดาวมิชลินและเชฟจากร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งที่มีชื่อเสียงของเมืองไทย มาปรุงอาหารสดใหม่จากในครัว เพื่อส่งมอบให้แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ในโรงพยาบาลหลายแห่ง

มาริษา เจียรวนนท์  ผู้ดูแลโครงการ Chef Cares เล่าถึงที่มาของโครงการนี้ว่า

“แรกเริ่มเลยเราทำที่ภูเก็ต โดยรู้จักกับ เชฟวุฒิศักดิ์ วุฒิอัมพร เป็นเชฟดังอยู่ที่ภูเก็ต ที่เขียนหนังสือ cook book “ครัวอันดามัน” เชฟบอกว่าอยากทำลันช์บ็อกซ์ ให้กับคุณหมอและบุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยโควิด-19  ที่ภูเก็ต เขาก็มาแชร์ไอเดียกัน เราในฐานะสปอนเซอร์จากซีพีก็หาวัตถุดิบสนับสนุนให้เชฟไปประกอบอาหาร แล้วก็เริ่มทำครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 มีนาคม นำอาหารกล่องที่เชฟทำไปมอบให้บุคลากรทางการแพทย์ ที่โรงพยาบาลวชิระ ภูเก็ต ซึ่งปรากฏว่าฟีดแบ็คดีมาก ทุกคนชมว่าอาหารไม่เพียงมีคุณภาพดี อร่อยและสวยด้วย และมีคนขอเพิ่ม เชฟเลยบอกว่าอยากทำต่อ จากนั้นเราก็ทำเรื่อยมา”

          

          มาริษา เจียรวนนท์

       เชฟวุฒิศักดิ์ วุฒิอัมพร

          เชฟวิชิต มุกุระ

ไอเดียแบ่งปันจากภูเก็ต ขยายผลมาถึงกรุงเทพ

“จากผลตอบรับที่ดี เราก็คิดกันน่าจะมาทำที่กรุงเทพด้วย โดยเริ่มเมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา เราก็โทรหาเชฟต่าง ๆ มาสเตอร์เชฟ, ไอออนเชฟ เชฟชื่อดังมิชลิน เพื่อให้อาหารออกมาดีที่สุดมาช่วยบุคลากรทางการแพทย์”

คุณมาริษา เล่าต่อว่า จากเริ่มแรกมีเชฟไม่กี่คน พอบอกต่อ ๆ กันก็ทำให้วันนี้มีเชฟดัง ๆ มาร่วมโครงการนี้กว่า 25 คน

         ข้าวมันไก่เบญจา โดยเชฟหนุ่ม - ธนินทร

“ตอนนี้มีเชฟรอคิวที่จะมาร่วมโครงการหลายคน เชฟแต่ละท่านก็รู้สึกว่าประทับใจที่ได้ส่งมอบอาหารดี ๆ ให้คุณหมอและเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล หลายคนทำมากกว่า 1 ครั้ง แต่วิธีการทำอาหารของเชฟแต่ละคนก็มีความยืดหยุ่น (flexibility) แตกต่างกันเช่น ร้านอาหารที่เป็นไฟน์ไดนิ่งที่ปิดไปในช่วงโควิด เชฟก็มาปรุงอาหารที่สถาบันสอนทำอาหารคูลิเนอร์ ที่อาคารเอ็มโพเรียม ทาวเวอร์ แต่เชฟบางคนเขาก็สะดวกปรุงอาหารที่ร้านของเขา ซึ่งแต่ละสถานที่เราก็มีเจ้าหน้าที่และผู้ช่วยเราไปดูแล   ตรวจไฮยีนให้สะอาดปลอดภัยสูงสุด”

         เชฟหนุ่ม - ธนินทร จันทรวรรณ ร้าน Chim by Siam Wisdom

ในขณะที่เชฟปรุงอาหารก็สวมใส่หน้ากากอนามัย หรือเฟซชิลด์ และสวมถุงมือ รวมถึงเว้นระยะห่างในครัวระหว่างการปรุงอาหารด้วย

“เราทำครั้งละกี่กล่อง ตอนแรกก็กะไม่ถูกเหมือนกัน เคยทำ 300 กล่อง ก็คิดว่ามากเกินไปอาจควบคุมคุณภาพไม่ทั่วถึง ครั้งล่าสุดเราทำ 250 กล่อง โดยมีเชฟสองท่านมาทำอาหาร  มากสุดเคยทำวันละ 400 กล่อง ปัจจุบันถ้ารวมปริมาณอาหารกล่องที่ภูเก็ตกับที่กรุงเทพ ตกวันละประมาณ 700 กล่อง ถ้านับตั้งแต่วันแรกที่ทำที่ภูเก็ต เราทำอาหารไปแล้วประมาณ 10,700 กล่อง”

         เจ๊ไฝ

แล้วอาหารแบบไหนที่อยู่ในกล่อง เจ้าของโครงการ Chef Cares บอกว่า

 “เป็นเมนูที่เชฟแต่ละท่านครีเอทขึ้นมา เชฟเลือกเองว่าอยากทำอะไร เรามีหน้าที่หาวัตถุดิบให้เชฟ เช่น เจ๊ไฝ เป็นกรณียกเว้นที่ไม่ได้เป็นร้านประเภทไฟน์ไดนิ่ง เจ๊ไฝมาร่วมโครงการกับเราสองครั้งแล้ว เราก็เกรงใจนะเพราะเจ๊ไฝทำกับข้าวคนเดียว และท่านก็อายุมากแล้ว เลยบอกว่าขอ 25 กล่อง แต่เจ๊ไฝก็ทำให้เราถึง 75 กล่อง เป็นเมนู ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ กับ ก๋วยเตี๋ยวผัดขี้เมา อย่างละครึ่ง ส่งมอบให้โรงพยาบาลจุฬาฯ อร่อยมาก เพราะปกติเราก็ไม่มีโอกาสได้รับประทานอาหารที่ร้าน ต้องรอคิวนาน

         

          ข้าวหมูบูลโกกิกับไข่ออนเซ็น จากเชฟแดน บาร์ค ร้าน Upstairs Mikkeller Bangkok

เชฟหนุ่ม – ธนินทร จันทรวรรณ แห่งร้าน Chim by Siam Wisdom มิชลิน 1 ดาว เชฟหนุ่มก็มา 2-3 ครั้งแล้ว ทำ ข้าวมันไก่เบญจา เป็นไก่ม้วนไม่มีไขมัน เชฟแดน บาร์ค (Dan Bark) เป็นชาวเกาหลี เคยทำร้านมิชลิน 3 ดาว ที่ชิคาโก้ (ร้าน Grace) ก็มาทำให้เรา 2-3 ครั้ง ตอนนี้เชฟแดน เป็นเชฟอยู่ที่ Upstairs Mikkeller ฺฺBangkok (เอกมัย) ทำเมนู ข้าวบูลโกกิไข่ออนเซ็น อร่อยมาก ทุกคนก็เรียกร้องเชฟก็เลยทำเมนูนี้อีกครั้ง

         เชฟแวน - อายุษกร อารยางกูร จากร้าน Second Edition

        เมนูจากเชฟแวน

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Chef Cares นำโดย เชฟณัฐวุฒิ นันต๊ะแขม จากร้าน “เขียวไข่กา” และ เชฟแวน – อายุษกร อารยางกูร แห่งร้าน “Second Edition” ซึ่งมารอบที่สองแล้ว ทำ lunch box ส่งมอบให้บุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลภูมิพล”

           ข้าวไก่กระเทียมไข่ดาว

เมื่อรวบรวมเชฟจิตอาสาที่เข้าร่วมโครงการ Chef Cares  มีมากมาย อาทิ เชฟวุฒิศักดิ์  วุฒิอัมพร, เชฟทองเลี่ยม พุกทอง นายกสมาคมเดอะเชฟ, เชฟสมศักดิ์ รารองคำ นายกสมาคมเชฟแห่งประเทศไทย,  เชฟศุภจิตรา ศุกรวรรณ ทินกร จากโรงเรียนศิลปศาสตร์อาหารไทย หม่อมหลวงพวง ทินกร,  กุลวัชร ภูริชยวโรดม แห่งร้านโชนัน, ทศพร วิณิชวรพงศ์ แห่งร้าน WOK Station,  เชฟธนินทร จันทรวรรณ,  เชฟวิชิต มุกุระ,  เชฟสุภิญญา จันสุตะ (เจ้ไฝ),  เชฟแดน บาร์ค, เชฟอายุษกร อารยางค์กูร, เชฟนิค – ณัฐพล ภวไพบูลย์, เชฟบัดดี้ – ถมธนัตถ์ หทโยดม, เชฟ Deepanker Khosla, เชฟวเรศรา สมิตะสิริม , เชฟนิค – ณัฐพล ภวไพบูลย์ ฯลฯ

เมนูในกล่องล้วนน่ารับประทาน เช่น เชฟวิชิต มุกุระ ทำ ข้าวผัดชมสวน, หมูตกบ่อ เชฟชาวอินเดีย Deepanker แห่งร้าน Haoma ทำเมนู ข้าวผัดเบอร์รี่ เชฟแวน – อายุษกร ปรุงเมนู ข้าวหมูผัดพริกกุ้ง, ข้าวหมูตุ๋นผักชี เชฟวเรศรา สมิตะสิริ จากร้าน “คั่วกลิ้ง ผักสด” ทำเมนู ข้าวราดคั่วกลิ้ง, ข้าวไก่กระเทียม เชฟณัฐวุฒิ ร้าน “เขียวไข่กา” ทำ ข้าวคลุกกะปิ, ข้าวหมูผัดเคย, เชฟสมศักดิ์ รารองคำ ทำเมนู สเต๊กไก่เทอริยากิ เชฟบัดดี้ – ถมธนัตถ์ ทำ ข้าวไก่พะโล้ เชฟนิค – ณัฐพล จาก “วังหิ่งห้อย” ปรุงเมนู ข้าวแกงเขียวหวาน เป็นต้น

         เชฟจากร้านคั่วกลิ้ง ผักสด

“โครงการนี้เชฟแต่ละท่านไม่คิดค่าตัว เป็นจิตอาสาที่อยากส่งมอบความปรารถนาดีให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ทุกคนเป็นท็อปเชฟซึ่งมีน้ำใจมาก วิกฤติอย่างนี้คนไทยจะมารวมกัน ซึ่งเชฟบางคนเขาก็มีโครงการลักษณะนี้เหมือนกัน บางคนทำกับเพื่อน หรือทำกิจกรรมทำอาหารให้กับโรงพยาบาลอยู่แล้ว เราคิดว่าถ้าช่วยได้ก็ต้องทำต่อไป ต้องช่วยสังคม เมืองไทยเป็นแหล่งรวมร้านอาหารดี ๆ ดัง ๆ มีชื่อเสียงมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีเชฟที่เก่งและใจดี เป็นความพิเศษของเมืองไทยและของคนไทย เป็นโครงการที่เรียกว่า Harmony Collaboration Project”

       กล่องอาหารแบบ Biodegradable paper

เชฟจิตอาสาที่ร่วมโครงการฯ จะสลับหมุนเวียนมาจัดเตรียมอาหารในทุกเช้า เพื่อปรุงอาหารมื้อกลางวันอย่างพิถีพิถันจำนวน 300 ชุด และจัดส่งให้แก่โรงพยาบาลรัฐกว่า 9 แห่ง อาทิ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย โรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลวชิระ ภูเก็ต ฯลฯ โดยได้รับการสนับสนุนวัตถุดิบเพื่อปรุงอาหารจากเครือเจริญโภคภัณฑ์อาหาร, ซีพีเอฟ, เจียไต๋ฟาร์ม,  ข้าวตราฉัตร, ไร่ชาอรักษ์ และโรงเรียนศิลปะการอาหารและผู้ประกอบการคูลิเนอร์

         

เพื่อส่งมอบความอร่อย แทนความปรารถนาดี แก่นักรบเสื้อกาวน์...