พร้อมรับเปิดเทอมหน้าฝน ทำ 'ประกันสุขภาพเด็ก' ตัวไหนให้ลูกดี

พร้อมรับเปิดเทอมหน้าฝน ทำ 'ประกันสุขภาพเด็ก' ตัวไหนให้ลูกดี

เช็คความคุ้มค่าก่อนทำ “ประกันสุขภาพเด็ก” รับความเสี่ยงในช่วงเปิดเทอม

หลังจากผ่านพ้นช่วงปิดเทอมยาว และเรียนออนไลน์ เพราะโควิด-19 แล้ว ในที่สุดเด็ก ๆ ก็จะได้กลับไปโรงเรียนอย่างจริงจังเสียที  แต่การไปโรงเรียนก็ล้วนมีความเสี่ยงสารพัด ทั้งเกิดอุบัติเหตุจากการเล่น เจ็บป่วยเพราะสภาพอากาศ รวมไปถึงวิถีปฏิบัติแบบ New Normal ที่ไม่รู้ว่าเด็ก ๆ จะเป็นอย่างไรยามที่ต้องห่างจากสายตา

           

  • ลดความเสี่ยง ด้วยการทำประกันช่วย

แน่นอนว่าการระมัดระวังตัวเองคือทางออกที่ดีที่สุดในการลดความเสี่ยง แต่สำหรับเด็ก ๆ ที่อาจเล่นสนุกและไม่ได้ระวังตัวเองเท่าที่ควร การทำ “ประกันสุขภาพเด็ก” ซึ่งหมายถึงการทำประกันภัยสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ก็ดูจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี ในการเตรียมรับมือกับสิ่งไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้  

ความเสี่ยงด้านสุขภาพของเด็กแตกต่างจากผู้ใหญ่ เพราะเด็กมักเกิดอุบัติเหตุจากความไม่ระมัดระวังมากกว่า และสำหรับบางสถาบันการศึกษาก็เลือกที่จะใช้การทำประกันกลุ่ม ซึ่งคิดคำนวณรวมไปกับค่าเทอมแล้วเรียบร้อย แต่การทำประกันส่วนตัวโดยเฉพาะก็จะช่วยเพิ่มความมั่นใจมากกว่า เพราะไม่ต้องกลัวว่าจะเสียค่าใช้จ่ายส่วนต่าง และประกันที่ว่านี้ก็สามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกิดจากอุบัติเหตุที่เกิดจากการเล่น ทั้ง น้ำร้อนลวก กระดูกแตกหัก และบาดเจ็บอวัยวะภายในอีกด้วย

การทำประกันสุขภาพสำหรับเด็กในช่วงปิดเทอมจึงเป็นทางเลือกที่จะช่วยสร้างความมั่นใจ และผู้ปกครองเองก็สามารถเลือกแผนประกันที่ตรงกับความต้องการได้ ด้วยการเปรียบเทียบส่วนต่างจากประกันที่โรงเรียนมีอยู่ เพื่อดูว่ากรมธรรม์ไหนคุ้มค่าที่สุดสำหรับบุตรหลานของเรา

คุ้มครองโรคฮิตเปิดเทอม

แต่ละกรมธรรม์ก็มีรายละเอียดและจุดเด่นแตกต่างกันไป แต่ถ้าจะถามว่า “ประกันเด็ก” ประเภทไหนที่คุ้มครองเด็กในวัยเรียนมากที่สุดก็ต้องตอบว่า ประกันคุ้มครองอุบัติเหตุที่มักเกิดขึ้นในโรงเรียน รวมถึงคุ้มครองถึง 4 โรคยอดนิยม ที่สถิติชี้ชัดว่าเป็นกลุ่มโรคที่เกิดขึ้นในช่วงเปิดเทอม (หน้าฝน) และมีอัตราการแพร่เชื้อในโรงเรียนสูง

1.ไข้หวัดใหญ่

แม้จะเปิดเทอมช้าไปสัดนิดเพราะ โควิด-19 แต่เวลานี้ก็ตรงกับช่วงฤดูฝนพอดี ความเสี่ยงที่ใกล้ที่สุดมีที่มาจากสภาพอากาศ โดยเฉพาะกับเด็กวัยอนุบาล อายุต่ำกว่า 6 ปี ที่มีภูมิต้านทานน้อยกว่าผู้ใหญ่ เด็กวัยนี้เมื่อสัมผัสกับเชื้อโรคก็สุ่มเสี่ยงที่จะป่วยได้ง่าย อาการป่วยที่พบได้บ่อยคือ โรคระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ แถมยังสามารถแพร่เชื้อได้ง่าย ๆ ในสถานที่ที่เด็ก ๆ รวมตัวอยู่ด้วยกัน เช่นในสถาบันการศึกษา

2.ไข้เลือดออก

ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝน ซึ่งฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำขังตามภาชนะต่าง ๆ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย โดยเฉพาะในโรงเรียนหรือสถานศึกษาที่อยู่ในช่วงปิดภาคเรียน และนั่นสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคไข้เลือดออก เมื่อไม่นานมานี้กรมควบคุมโรค จึงขอให้ครูเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนและประชาชนร่วมทำความสะอาดโรงเรียนหรือสถานศึกษา ทำให้สิ่งแวดล้อมปลอดโปร่ง พร้อมทั้งสำรวจและกำจัดภาชนะที่เป็น แหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายในโรงเรียน

กลุ่มอายุที่พบเป็นโรคดังกล่าวมาก คือ กลุ่มเด็กอายุระหว่าง 10-14 ปี จึงไม่แปลกที่โรคนี้จะเป็นสาเหตุยอดฮิตอีกอย่างของอาการเจ็บป่วยที่เกิดในช่วงเปิดเทอม

3.ตาแดง

โรคตาแดงพบได้ตลอดทั้งปี แต่มักระบาดในช่วงหน้าฝน

โรคตาแดงเป็นโรคที่ติดต่อได้ง่าย โดยเป็นการติดต่อจากการสัมผัสกับเชื้อโรคโดยตรง เช่น สัมผัสกับขี้ตาหรือน้ำตาที่ติดอยู่บนมือหรือสิ่งของที่ผู้ป่วยสัมผัส จากการใช้สิ่งของร่วมกัน และจากการหายใจหรือไอจามรดกัน ดังนั้น เชื้อโรคจึงแพร่ระบาดได้ตามสถานที่ที่มีผู้คนอยู่ร่วมกันมาก ๆ เช่น สถานีรถไฟฟ้า รถโดยสารสาธารณะ โรงพยาบาล โรงเรียน และมักพบในกลุ่มเด็กมากกว่าผู้ใหญ่เนื่องจากเด็กมักไม่เคร่งครัดในการป้องกันตัวเองจากเชื้อโรคเท่ากับผู้ใหญ่

4. มือเท้าปาก

โรคมือเท้าปาก เป็นโรคติดต่อที่พบบ่อยในเด็กโดยเฉพาะเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี มักมีการระบาดช่วงฤดูฝน สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่มเอนเตอโรไวรัส มีหลายสายพันธุ์ ส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง กรณีที่มีสมองอักเสบร่วมด้วย มักเกิดจากเชื้อเอนเตอโรไวรัส 71 หรือ อีวี 71 มีอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้

เด็กที่เป็นโรคมือเท้าปาก มีอาการไข้ เจ็บปาก น้ำลายไหล กินอาหารได้น้อย ที่น่ากังวลสำหรับผู้ปกครองคือโรคมือเท้าปากเป็นโรคติดต่อ เชื้อ ไวรัสแพร่ผ่านทางระบบทางเดินอาหารและการหายใจ สามารถติดต่อโดยตรงจากการสัมผัสน้ำมูก น้ำลายและอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อ สามารถติดต่อโดยอ้อมจากการสัมผัสผ่านของเล่น

  • ประกันคุ้ม ต้องคลุมโรคเด็ก

ถึงตรงนี้ ถ้าจะถามว่าประกันเด็ก แบบไหนที่เหมาะที่สุดสำหรับช่วงเปิดเทอม ก็ต้องเป็นประกันที่ช่วยเพิ่มเติมจากประกันกลุ่มที่โรงเรียนทำไว้แล้ว เพื่อให้มั่นใจว่ายามเกิดเหตุบุตรหลานของเราจะได้รับความคุ้มครองและการรักษาที่เพียบพร้อมโดยไม่ต้องรำคาญใจออกเงินส่วนต่าง

ที่เราขอแนะนำและมีดีลที่น่าสนใจ คือ แผนประกันสุขภาพสำหรับเด็ก 1-14 ปี Super Kids (สินมั่นคงประกันภัย) ซึ่งจ่ายเบี้ยประกันราคาเพียง 4,300 บาท/ปี  คุ้มครอง 4 โรคเด็กยอดฮิตได้แก่ ไข้หวัดใหญ่, ไข้เลือดออก, ตาแดง และมือเท้าปาก ครอบคลุมถึงการนอนโรงพยาบาล (IPD) หรือรักษาแบบผู้ป่วยนอก (OPD)

ในแผนประกันนี้จะคุ้มครองในการรักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยใน (IPD) สูงสุด 100,000 บาทและการรักษาพยาบาลที่ไม่ได้อยู่รักาาตัวในโรงพยาลบาล (OPD) สูงสุด 10,000 บาท  พิเศษกว่านั้นคือพร้อมทันตกรรมอีก 2,000 บาทต่อปี ซึ่งถือว่าครอบคลุมโรคภัยหลักๆที่มักเกิดขึ้นกับเด็ก โดยมีจุดเสี่ยงคือสถานที่ที่เด็กรวมตัวกันเช่นที่โรงเรียนนั่นเอง

159434771041

ในวัยที่ต้องศึกษา เรียนรู้ และทำกิจกรรมเพื่อฝึกทักษะการเข้าสังคม อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ และเป็นเรื่องที่พ่อแม่ต้องให้โอกาสเด็กได้เรียนรู้อย่างอิสระ พร้อม ๆ กับการเตรียมความพร้อมรับมือกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น โดยมีการทำประกันเป็นทางเลือกหนึ่ง

สนใจทำประกันเด็ก เพื่อลูกน้อย คลิกที่นี่