‘อาหารใต้’ รสจัดจ้านในย่านมีนบุรีต้องที่ ‘ละมุนลิ้น’
ละมุนลิ้นสมชื่อร้าน สำหรับร้าน ‘อาหารใต้’รสจัดที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยประดับใกล้แยกมีนบุรีตัดกับถนนรามคำแหง
มาละมุนลิ้นทีไรได้รู้จักอาหารใหม่ๆแทบทุกครั้ง จากโกสุ้ยขนมถ้วยชนิดหวานของคนใต้ สาคูต้นของอร่อยจากพัทลุงที่นำมากวนใส่ลำไยราดหน้าด้วยกะทิสดจากสมุย กระท้อนทรงเครื่องแน่นๆรสชาติจากความทรงจำวัยเด็กของ ปราณิศา จิตต์หมวด เจ้าของร้าน
ล่าสุดได้ชิมแกงเหลืองปลาคังรสเข้มข้น กับห่อหมกปลาน้ำดอกไม้รองด้วยใบเหลียง ไม่ต้องถามเลยว่าข้าวสวยร้อนๆมื้อนั้นหมดไปกี่จาน
ละมุนลิ้นเป็นร้านอาหารใต้รสจัดจ้านที่ปรุงจากเมนูประจำบ้านของ ปราณิศา สาวอีสานที่ย้ายตามครอบครัวไปเรียนหนังสือที่นครศรีธรรมราชตั้งแต่ชั้นประถมปีที่ 1 แม้ว่าช่วงประถมปลายครอบครัวจะย้ายกลับไปอยู่ที่สุรินทร์ หากความทรงจำของอาหารใต้ที่คุ้นลิ้นประกอบกับความชอบของครอบครัว ทำให้มีอาหารใต้อยู่ในสำรับอยู่ทุกมื้อ
“ปุ้ยเป็นคนชอบเดินตลาด ชอบทำกับข้าวมาตั้งแต่เด็กๆ พอมาเปิดร้านอาหารเราก็นำอาหารแบบที่เราชอบทานมาทำให้ลูกค้าทาน เป็นอาหารใต้ในแบบของเราที่เลือกใช้วัตถุดิบอย่างดี เสิร์ฟในขนาดที่กินได้อิ่ม 3-4 คน ไม่ว่าจะเป็นแกง หรือว่ากระท้อนทรงเครื่องลูกโตๆของเรา” เจ้าของร้านเน้นเสมอว่าละมุนลิ้นเป็นร้านอาหารครอบครัวที่มากินแล้วต้องอิ่มอร่อย
แกงไตปลา (210 บาท) แกงเหลือง (250 บาท) ของละมุนลิ้นจัดเป็นเมนูเผ็ดร้อนเพราะพริกแกงตำสดใหม่ทุกวัน แกงไตปลาที่นี่จะใส่เนื้อกุ้งสับลงไปด้วย กินคู่ข้าวสวยหรือขนมจีนก็เข้ากัน ส่วนแกงเหลืองนั้นพริกแกงหอมเผ็ดร้อนไปอีกแบบรสชาติเปรี้ยวด้วยน้ำมะนาว มีเนื้อปลาให้เลือกว่าจะชอบปลากระบอก ปลากะพง หรือว่าปลาคังเนื้อแน่นๆหนังมันหน่อย ส่วนผักมีอ้อดิบ ไหลบัว ยอดมะพร้าว และหน่อไม้ดองให้เลือกตามชอบ
ขนมจีนน้ำยาปู (370 บาท ชุดเล็ก 250 บาท) เป็นอีกหนึ่งเมนูยอดนิยมทางร้านเลือกเนื้อกรรเชียงปูมาแกงกับพริกแกงสูตรปักษ์ใต้แท้ เลือกใช้กะทิสดคั้นใหม่ แต่ถ้าใครชอบกินตีนไก่เปื่อยๆขอแนะนำน้ำยาปลาทูขาไก่ (160 บาท)สูตรคุณแม่ของเจ้าของร้านที่ใช้เนื้อปลาทูนึ่งมาทำน้ำยาแล้วใส่ตีนไก่เคี่ยวจนเปื่อยกับเลือดไก่ลงไปด้วย เป็นเมนูอาหารอีสานที่แทรกอยู่ในร้านอาหารใต้ได้อย่างกลมกลืนและมีดีกรีความเข้มข้นเผ็ดร้อนที่มีเสน่ห์แตกต่างกัน
ความน่าสนใจอยู่ที่ผักสดที่กินคู่กับอาหารใต้เป็นผักพื้นบ้านที่ทางร้านปลูกเอง ได้แก่ผักติ้ว ใบมันปู และยอดมะตูมแขก
ส่วนเมนูที่จะช่วยลดความเผ็ดร้อนนั้นต้องยกให้ หมูฮ้อง (190 บาท) สูตรต้นตำรับมาจากระนองแต่มาปรับรสชาติในแบบละมุนลิ้น
“สูตรของเราไม่ใส่เครื่องพะโล้เลย เราใช้หมูสามชั้นกับไข่เป็ดเคี่ยวตามสูตรของเรานานสองชั่วโมงเพื่อให้หมูเปื่อยและรสชาติซึมเข้าไปในเนื้อหมูและไข่” เป็นเมนูที่ผู้ใหญ่ชอบใจมากเพราะไม่ต้องออกแรงเคี้ยว
แต่ถ้าชอบเคี้ยวอะไรกรอบๆ ปลาทรายทอดขมิ้น (220บาท) ของที่นี่ทอดกรอบจนเคี้ยวได้ทั้งตัว ยิ่งใครที่ชอบเคี้ยวกระเทียม
กรอบๆด้วยแล้ว จะได้รสชาติของขมิ้นพริกไทยเพิ่มเข้าไปอีก
ใบเหลียงผัดไข่ (180 บาท) เป็นเมนูธรรมดาที่น่าหลงใหล เพราะทางร้านจะคัดเฉพาะยอดอ่อนมาผัดเท่านั้น และถ้ายังชอบใจใบเหลียง เมนูห่อหมกใบเหลียง (59 บาท)ก็น่าสนใจได้กินใบเหลียงนึ่งคู่กับห่อหมกปลาเนื้ออ่อนรสเข้มๆเข้ากันได้ไม่น้อย
ส่วนคนที่ชอบเผ็ดน้อย ผัดไทยไชยา (150 บาท) เป็นอีกเมนูที่เราชอบใจ ปราณิศา บอกว่าซอสผัดไทยของไชยานั้นจะมีส่วนผสมของกะทิทำให้มีกลิ่นหอมและหวาน (ของกะทิ) เสิร์ฟคู่มากับไข่เค็มไชยารสเค็มน้อยๆแต่มีความมัน อยากเผ็ดแค่ไหนเติมพริกป่นได้ มีถั่วลิสงคั่วใหม่ๆเพิ่มความหอมมัน รับประทานคู่ถั่วงอก ใบกุ้ยช่าย
อิ่มของคาวแล้วมาต่อกันด้วยของหวาน สาคูลำไยราดกะทิ (50 บาท) โกสุ้ย (35 บาท)ขนมหวานโรยมะพร้าวขูด หรือว่ากระท้อนทรงเครื่อง(129 บาท กินได้ 4-5 คน) ปิดท้าย ...
เลือกไม่ได้สั่งมาชิมทั้งหมดถ้ามีเพื่อนมาด้วยช่วยกันกิน
ติดตามความคืบหน้าได้ทาง FB : Lamoonlin Home Kitchen โทร.06 3246 5665 ,020048565 ร้านเปิดทุกวันเว้นจันทร์ 11.00-21.00 น.