เปิดแนวคิด ‘ค่าโดยสาร’ ขสมก. รุ่นใหม่ 30 บาท คุ้มค่ารึเปล่า?
ชวนส่องข้อดี-ข้อเสียการฟื้นฟูระบบ ขสมก. แบบใหม่ มีการปรับ "ค่าโดยสาร" เป็น 30 บาท ขณะเดียวกันก็ปรับปรุงการบริการให้ดีขึ้น มาหาคำตอบว่าราคาใหม่กับการบริการแบบใหม่ คุ้มค่าคุ้มราคาแค่ไหน?
ไม่นานมานี้ หลายคนคงได้ยินกันมาบ้างแล้วว่า “ขสมก.” กำลังมีแผนฟื้นฟู ขสมก. รูปแบบใหม่ โดยปรับปรุงทั้ง “รถเมล์โดยสาร” รุ่นใหม่ และปรับ “ค่าโดยสาร” ราคาใหม่ โดยมี 5 แผนหลักๆ ที่จะถูกปรับปรุงและพัฒนารถโดยสารสาธารณะ เพื่อชีวิตคนกรุงที่สะดวกและสบายขึ้น ได้แก่
- แผนลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชน
- แผนลดเส้นทางทับซ้อน
- แผนลดมลภาวะ
- แผนลดการกู้เงิน
- แผนลดค่าดำเนินการ
ล่าสุด.. ทาง ขสมก. ได้เปิดเผยข้อมูลว่า รถเมล์โดยสารรูปแบบใหม่นั้นจะให้ใช้บริการผ่าน “บัตรโดยสารใหม่” ได้เปิดเผยแนวคิด “ค่าโดยสาร” ราคาใหม่ออกมาโดยเริ่มต้นที่ราคา 15 บาทต่อเที่ยว และราคา 30 บาท ที่เป็นราคาเหมาจ่ายตลอดวัน
*หมายเหตุ: “บัตรโดยสารใหม่” และการปรับ “ค่าโดยสาร” ราคาใหม่นี้ ยังเป็นเพียงแนวคิดนโยบายเท่านั้น ยังไม่ได้มีการจำหน่ายให้ใช้จริงใดๆ ทั้งสิ้น ต้องรอติดตามความคืบหน้าของนโยบายนี้ต่อไป
ส่วนในรายละเอียดนโยบายและแนวคิดของ ขสมก. เกี่ยวกับบัตรโดยสารใหม่และการปรับราคาใหม่ จะมีอะไรบ้าง? กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจมาบอกต่อ ดังนี้
1. บัตรโดยสารใหม่ มีแนวคิดว่าจะให้เลือก 3 แบบ
สำหรับการบริการ รถโดยสาร ขสมก. รูปแบบใหม่ จะต้องมีการใช้ “บัตรโดยสารใหม่” โดยมีหลายแบบ และสามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับการเดินทางของทุกคนได้ คือ “แบบเที่ยวเดียว” “แบบเหมาทั้งวัน” และ “แบบรายเดือน” และยังมีโปรโมชั่นสำหรับนักเรียน นักศึกษา และผู้สูงอายุด้วย
- บัตรโดยสารเที่ยวเดียว 15 บาท
- บัตรโดยสารรายวัน 30 บาท ขึ้นรถได้ไม่จำกัดเที่ยว
- บัตรโดยสารรายเดือน ราคา 720 บาทต่อเดือน (วันละ 24 บาท)
* โปรโมชั่น1* บัตรโดยสารรายเดือน สำหรับนักเรียน 630 บาทต่อเดือน (วันละ 21 บาท)
* โปรโมชั่น2* บัตรโดยสารสำหรับผู้สูงอายุ ลดราคา 50%
2. เปรียบเทียบ “ค่าโดยสาร” ราคาเก่า VS ราคาใหม่
ราคาเก่า : รถเมล์พัดลม ขาว-แดง เที่ยวเดียว 8 บาท / ไป-กลับ 16 บาท
รถเมล์ปรับอากาศ ขาว-น้ำเงิน เที่ยวเดียว 12-20 บาท / ไป-กลับ 24-40 บาท
รถเมล์ปรับอากาศ ยูโรวัน สีส้ม เที่ยวเดียว 13-25 บาท / ไป-กลับ 26-50 บาท
รถเมล์ปรับอากาศ NGV รุ่นใหม่ เที่ยวเดียว 15-25 บาท / ไป-กลับ 30-50 บาท
ราคาใหม่ : ขึ้นรถเมล์ได้ทุกประเภท เที่ยวเดียว 15 บาท / เหมาจ่ายทั้งวัน 30 บาท ขึ้นแบบไหนก็คุ้มค่า
3. ข้อดีบัตรโดยสารรายวัน 30 บาท
เป็นบัตรโดยสารที่จ่ายราคาเหมาๆ เพียง 30 บาท ก็สามารถเดินทางกับรถเมล์ ขสมก. ได้ตลอดทั้งวัน ไม่จำกัดเที่ยวรถ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางหลายต่อภายใน 1 วัน เมื่อเปรียบเทียบกับค่าโดยสารปัจจุบัน อาจจะแพงกว่าเล็กน้อยสำหรับรถเมล์ขาว-แดง แต่ถูกกว่ารถปรับอากาศแน่นอน เพราะหากต้องต่อรถเมล์หลายสาย การซื้อบัตรรายวัน 30 บาทยังไงก็ถูกกว่าและคุ้มค่ามากกว่า
4. ความแตกต่างบัตรรายเดือน/รายสัปดาห์รุ่นเก่า VS บัตรรายเดือนรุ่นใหม่
ก่อนหน้านี้ ขสมก. เคยมีบริการตั๋วรายสัปดาห์และรายเดือน(แบบเก่า) โดยมีเงื่อนไขการใช้งานคือ ผู้ซื้อตั๋วรายสัปดาห์และรายเดือน สามารถใช้เดินทางไปกับรถขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ทุกสาย (ยกเว้นรถเอกชนร่วมบริการ) ไม่จำกัดจำนวนเที่ยวภายในวันที่กำหนด ผู้ซื้อตั๋วรายสัปดาห์และรายเดือนของรถธรรมดา ไม่สามารถเดินทางด้วยรถปรับอากาศได้ แต่ผู้ซื้อตั๋วรายสัปดาห์และรายเดือนของรถปรับอากาศ สามารถเดินทางด้วยรถธรรมดาได้ด้วย ซึ่งประชาชนยังคงสามารถใช้ตั๋วแบบนี้ได้ต่อไป ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
ส่วนนโยบายแนวคิดที่ทาง ขสมก. จะทำ “บัตรโดยสารรุ่นใหม่” นั้น คาดว่าจะมีเงื่อนไขการใช้งาน คือ บัตรโดยสารรายวัน 30 บาทเหมาทั้งวัน หรือบัตรโดยสารรายเดือน ราคา 720 บาทต่อเดือน สามารถใช้บริการได้ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว และใช้บริการได้ทั้งรถเมล์ ขสมก. และรถเมล์เอกชนร่วมบริการ ได้แบบไม่มีข้อจำกัด (แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอดูความคืบหน้าของนโยบายนี้กันต่อไปอีกสักระยะ ยังไม่มีให้ใช้จริง!)
5. รถเมล์รุ่นใหม่ ได้บริการที่ดีขึ้น
ตามนโยบายและแนวคิดเรื่องแผนฟื้นฟู ขสมก. ที่เผยแพร่ออกมานั้นระบุว่า การให้บริการรถเมล์แบบใหม่ นอกจากราคาที่คุ้มค่ามากขึ้น ยังได้คุณภาพรถที่ดีกว่า เพราะรถที่ให้บริการจะเป็นรถปรับอากาศประเภท NGV รุ่นใหม่ ไม่มีมลพิษ สามารถใช้บัตรโดยสารใบเดียวกัน มาใช้บริการได้ทั้งรถของ ขสมก. และรถร่วมบริการ
6. ปรับระยะเดินรถให้สั้นลง
จากแนวคิดเรื่องแผนฟื้นฟู ขสมก. นี้ คาดว่าจะทำให้ประชาชนใช้บริการรถ ขสมก. ได้สะดวกสบายขึ้น อีกทั้งยังสามารถต่อรถได้ง่าย เหมาะกับเส้นทางเดินรถใหม่ แถมยังมีการปรับระยะเดินรถให้สั้นลงเพื่อให้สามารถเวียนรถได้บ่อยขึ้น ทำให้ไม่ต้องรอรถนานๆ อีกต่อไป
----------------------------
