เทศกาลหนังสือ ‘No กองดอง’

 เทศกาลหนังสือ ‘No กองดอง’

มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 25 งานหนังสือที่หนอนหนังสือไม่ควรพลาด

เวียนมาถึงอีกครั้งหนึ่งแล้ว สำหรับ มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 25 (Book Expo Thailand 2020) ภายใต้แนวคิด No กองดอง ผสมผสาน On Ground และ Online ผ่าน www.thaibookfair.com ในวันที่ 30 ก.ย.-11 ต.ค.63 ณ ชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

เป็นเรื่องยากที่จะให้คนรุ่นใหม่สนใจการอ่านและมีนิสัยรักการอ่านติดตัวไปอย่างยั่งยืน เพราะมือถือแย่งความสนใจทุกคนอยู่ตลอดเวลา การใช้ แอพพลิเคชั่น ในงานนี้ จึงเป็นผู้ช่วยสำคัญ

“งานแสดงหนังสือรูปแบบปกติครั้งแรก หลังจากเกิดสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 บนพื้นที่ 20,000 ตารางเมตร 262 สำนักพิมพ์ 746 บูธ มีการเปิดตัวแอพพลิเคชั่น No กองดอง เพื่อส่งเสริมการอ่านในรูปแบบใหม่ที่เข้าถึงทุกเพศทุกวัย สะสมระยะเวลาการอ่านได้เช่นเดียวกับการสะสมไมล์ของนักวิ่ง เมื่อถึงเป้าหมายก็แชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย หรือจะชาแลนจ์ต่อๆ กันไปก็ได้ หรือจะแชร์ Quote ที่โดนใจ รีวิวหนังสือ สู่นักอ่านคนอื่นๆ ก็ได้” โชนรังสี เฉลิมชัยกิจ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) พูดถึงการจัดงานครั้งนี้

160113377529

โชนรังสี เฉลิมชัยกิจ

“ในงานแบ่งคอนเทนท์เป็น 7 โซน ได้แก่ Book Wonderland หนังสือการ์ตูน หนังสือทั่วไป ความรู้รอบตัว ไลฟ์สไตล์ นิยาย วรรณกรรม หนังสือต่างประเทศ หนังสือเด็ก สื่อเพื่อการศึกษา สื่อเสริมทักษะ คู่มือเตรียมสอบ ความรู้เฉพาะทาง หนังสือเก่า มี นิทรรศการ Art of กองดอง ได้แก่ Reading and Emotion กองแห่งความรู้สึก, The Reader กองทัพนักอ่าน และ Reading mission ภารกิจอ่านทลายกอง

มีกิจกรรม Book Talk จาก เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร, วิเชฐ ตันติวานิช, โค้ชหนุ่ม จักรพงษ์ เมษพันธุ์ THE MONEY COACH, แทนไท ประเสริฐกุล เฌอปราง อารีย์กุล, ป๊อด-ศุภกร ศรีโพธิ์ทอง, ข้าวตัง-ธนวัฒน์ รัตนกิจไพศาล,เอิร์ท- พิรพัฒน์ วัฒนเศรษสิริ, มิกซ์-สหภาพ วงศ์ราษฎร์ แล้วยังมีโปรโมชั่นกว่า 2.3 ล้านบาท ลดสูงสุด 60% ทางออนไลน์ Lazada มอบส่วนลด 1 ล้าน Shopee 7 แสน ด้วย”

ในส่วนของการใช้งานแอพพลิเคชั่น No กองดอง ก็ทำได้ง่ายมาก

“เวลาเราเข้าเว็บแอพจะมีปุ่มที่เราแอดหนังสือ แอดเข้าไปได้ เราสามารถเลือกอ่าน ถ้าอ่านเกิน 20 นาที สมองก็พัฒนา จะมีการบันทึกว่าเราอ่านกี่หน้า แอดหนังสือฟรี แอดเข้าไปจะเจอแนะนำหนังสือ ถ้ามีหนังสือแล้วก็เปิดอ่านได้เลย เราซื้อหนังสือแล้วก็สแกนด้านหลังปกหนังสือ เชื่อมโยงกับ www.thaibookfair.com เข้ามาที่ No กองดอง อ่านแล้วบันทึกได้ ไปแชร์ในโซเชียลได้ มีชาแลนจ์ด้วย ใครอ่าน 20 วันวันละ 20 นาที จะมีรางวัลให้ แอพฯนี้ดีมาก สร้างวินัย 21 วัน จะกลายเป็นนิสัย จบงานหนังสือก็ต่อได้” ปิยะพงษ์ ศิริสุทธานันท์ กรรมการสมาคมฯ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับแอพพลิเคชั่น

ความสำคัญของหนังสือมีมากมาย คนในอดีตเจอปัญหามาก่อนเรา เขาก็ผ่านมันมาได้ด้วยการอ่านหนังสือ เพราะทุกอย่างมีอยู่ในหนังสือ

“คนญี่ปุ่นอ่านหนังสือตลอด ทำให้มีความคิดสร้างสรรค์ สร้างรถยนต์ สร้างการ์ตูน โดราเอมอน ก็ได้มาจากการอ่านหนังสือ ถ้าประเทศไทยอยากก้าวข้ามความยากจน หรือแก้ปัญหาทุกอย่าง เราต้องเป็นนักอ่านหนังสือ ไม่มีประเทศใด วัฒนธรรมใด อุตสาหกรรมใดจะเจริญได้ถ้าไม่รักการอ่าน

160113383072

ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์

การอ่านในหนังสือกับอ่านในไอแพดไม่เหมือนกัน หนังสือมีจิตวิญญาณ จับไปปั๊บมีพลัง เชื่อมโยงเราไปสู่อีกโลกหนึ่ง ให้พลังชีวิต ให้ความรู้สึกของจินตนาการ ของตัวละคร เราเป็นพระเอก นางเอกจะคิดยังไง หนังสือสารคดีเป็นไทม์แมชชีนนำเรากลับไป 200-300 ปี สมัยอยุธยา หรือ 1000-2000 ปี สมัยพระเยซู ดึงจิตวิญญาณเรา ได้มองเห็นภาพที่เราไม่เคยได้เห็นมาก่อน นี่คือเสน่ห์ของหนังสือที่มือถือหรือจอคอมพิวเตอร์ก็ให้ความรู้สึกนี้ไม่ได้

อุตสาหกรรมหนังสือ เป็นอุตสาหกรรมชาติที่ต้องหวงแหนที่สุด เป็นความจำเป็นที่ต้องอุดหนุนอุตสาหกรรมหนังสือในประเทศ เพราะหนังสือสร้างชนชาติ สร้างอนาคต แก้ปัญหาทุกอย่าง ทำให้คนมีความสุข แต่อุตสาหกรรมหนังสือไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควรในประเทศไทย ถ้าประเทศไทยปล่อยให้อุตสาหกรรมหนังสือตาย ประเทศไทยก็อยู่ไม่ได้ เพราะตัวแปรสำคัญของการพัฒนา ความศิวิไลซ์ของประเทศ ของชนชาติ อยู่ที่หนังสือ การซื้อหนังสือควรเป็นกิจวัตรประจำวันของคนไทย ไม่จำเป็นต้องอ่านทุกบรรทัด เรารักหนังสือหลายเล่มได้ รักได้ไม่มีที่สิ้นสุด แล้วก็ไม่ต้องรักเล่มเดียว เพราะไม่มีใครว่าได้” ศาสตราจารย์ ดร. สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง พูดถึงความสำคัญของหนังสือ

ส่วน พิธีกร นางงาม นักอ่าน อย่าง ปนัดดา วงศ์ผู้ดี มีความคิดเห็นว่า ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปอย่างไร หนังสือก็ยังคงมีเสน่ห์อยู่เสมอ

“เราโตมาในยุคหนังสือ ตั้งแต่เป็นเอกสาร รูปเล่ม หนังสือ 3D หนังสือที่เป็นแพลตฟอร์มต่างๆ ความรู้สึกของนักอ่าน ยังไง้ ยังไง หนังสือที่เป็นกระดาษมันก็ยังเป็นเสน่ห์ของมัน อย่างอื่นไม่เหมือนกระดาษ ตอนเรียน ดร. ต้องหาข้อมูลเยอะมาก หาเป็นออนไลน์บ้าง ซื้อข้อมูลจากต่างประเทศบ้าง สารภาพว่าบุ๋มยังต้องพิมพ์ออกมาเพื่อที่จะจับมัน อ่านมัน มันให้ความรู้สึกกว่า จำได้ดีกว่า มีฟิลลิ่งกับการจับกระดาษ พับ ขีดตัวหนังสือ เป็นความรัก ความสนุก ที่ฝังเข้าไปกับเรามากกว่าแค่อ่านผ่านตา

การอ่านช่วยได้มากเลย บุ๋มทำงานพิธีกร ไปโต้วาทีบ้าง ไปพูดในสภาบ้าง สิ่งที่เราจะพูดออกมาได้เราต้องมีข้อมูลเยอะกว่านั้นนะคะ อ่านเยอะจนเรารู้ว่าจะซ้ายขวาหน้าหลังยังไง จะมีข้อมูลยกจากตรงนั้นตรงนี้ เราต้องอ่านเยอะมาก จนเรากลั่นมันได้ระดับหนึ่งว่าเราจะพูดอะไรออกไป การอ่านเป็นการเรียนรู้ประสบการณ์ของผู้เขียนที่รวดเร็วที่สุดค่ะ เพราะเขาสั่งสมประสบการณ์ เก็บข้อมูล คิดเรียบเรียงต่างๆ จนออกมาเป็นตัวหนังสือของเขา แต่เราใช้เวลาอ่านน้อยนิด มันทำให้เราได้เรียนรู้เยอะค่ะ เราก็เอาความรู้ของคนนั้นคนนี้มาปรับกับการทำงานของเรา มันจะได้อะไรที่หลากหลายมากขึ้น”

160113391785

ปนัดดา วงศ์ผู้ดี

เธอบอกว่า การอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ ต้องละเอียดอ่อน เพราะคนเขียนแต่ละคนมีมุมมองที่แตกต่างกับหน้าประวัติศาสตร์นั้นๆ

 “มีผู้กล่าวว่า ผู้เขียนคือคนกำหนดประวัติศาสตร์ แต่เราจะเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่แท้จริงได้อย่างไร เราก็ต้องเรียนรู้ศึกษาไปถึงผู้เขียนด้วย ว่าเขาทำงานด้านไหน อยู่ฝ่ายไหน มีอะไรกับใครยังไง บุ๋มเป็นคนบ้าซื้อหนังสือมากเลยค่ะ เริ่มเห็นคุณค่าของหนังสือเก่า สำนักพิมพ์หายไป หนังสือหายไป หนังสือการ์ตูนก็จะหายไปด้วย ความทรงจำวัยเด็กของฉันมันจะหายไปด้วยหรือ ก็เลยตามไปซื้อมาตุน อย่าง คำสาปฟาโรห์ 

ช่วงโควิด ทำให้เราได้มีเวลากลับมาอยู่กับตัวเอง แม้ว่าจะไม่ค่อยว่างสักเท่าไร แพ็คของ ลงพื้นที่ นี่ก็กำลังจะมาระลอกสองอีก ได้แต่กราบไหว้ฟ้าดินให้โควิดหมดไปซะที จะได้กลับไปอ่านหนังสือที่ตัวเองอยากอ่าน มีหนังสือที่ดองไว้เพียบเลยค่ะ เท่ากับกำแพงเมืองจีนแล้วล่ะ ถ้าไปดูที่บ้านดิฉัน เก็บไว้เยอะมาก เศรษฐกิจทำให้สำนักพิมพ์หายไป บางสำนักพิมพ์พยายามจะสู้เพื่อคนอ่าน แต่บางทีก็ไม่ไหว เราเลยอยากจะเก็บเอาไว้ก่อน แล้วก็พยุง ช่วยสำนักพิมพ์ต่างๆ เล็กๆ ด้วย

160113401743

บุ๋มไปงานหนังสือทุกปี ไปเดินเบียดกับเขา บางบูธคนอ่านจริงจังมาก บางทีเราอ่านนิยายจีนก็เป็นแรงบันดาลใจต่อยอดให้เราไปเรียนภาษาจีน ไปซื้อหนังสือศึกษาภาษาจีนเพิ่มขึ้น เพื่อให้เข้าใจวัฒนธรรมเขาเพิ่มมากขึ้น หรือไปดูหนังมา หนังสือแดนบราวน์ ดิฉันก็ต้องมีทุกเล่ม มันได้ความรู้สึกดีเวลาเราเจอคนที่อ่านเหมือนกัน ได้ไปเจอกลุ่มคนที่รักอะไรเหมือนๆ กัน ชอบอะไรเหมือนๆ กัน มันมีความสุข”

การอ่านคือการเติมเต็มความรู้ มีงานวิจัยบอกว่า องค์ความรู้บางอย่างตั้งแต่เราเกิด มันจะหายไปทุกๆ 5-6 ปีหรือ 10 กว่าปีบ้าง แล้วแต่เรื่อง ถ้าเราไม่เติมเต็มสิ่งเหล่านั้น เราก็จะลืม ชีวิตก็ปรับสมดุลไม่ได้ เพราะฉะนั้นการเรียนรู้ตลอดชีวิต มีการอ่านเป็นเครื่องมืออยู่ในนั้น

งานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 25 (วันที่ 30 ก.ย.- 11 ต.ค.63) ณ ชาแลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี มีรถตู้รับส่งจากรถไฟฟ้า BTS, MRT ทุกวัน ที่หัวลำโพง, พระรามเก้า, วัดพระศรีมหาธาตุ ข้อมูลเพิ่มเติม www.thaibookfair.com