'ออมสิน' เผย 5 ทริค เช็คตัวเองก่อนขอ 'สินเชื่อ' หมดปัญหา 'สินเชื่อไม่อนุมัติ'
ธนาคาร "ออมสิน" ให้คำแนะนำเกี่ยวกับ วิธีการเช็คตัวเองก่อนขอ "สินเชื่อ" จากธนาคาร ที่ช่วยให้มีโอกาส "อนุมัติ" ลดโอกาสขอ "สินเชื่อไม่ผ่าน" มากยิ่งขึ้น
ธนาคารออมสิน ให้ข้อมูลผ่านเว็บไซต์ ธนาคารออมสิน ช่วยแนะนำเช็คลิสต์สำคัญของตัวเองก่อนขอสินเชื่อ 5 เรื่อง เพื่อเช็คความพร้อมในการขอสินเชื่อที่แต่ละครั้ง เพื่อช่วยให้ไม่เสียเวลา และมีโอกาสได้รับอนุมัติสินเชื่อมากขึ้น โดยเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจ 5 เรื่อง ดังนี้
1) เช็คตัวเองก่อนไปขอสินเชื่อ ตรวจสอบ "เหตุผล" ที่ธนาคารจะปล่อยสินเชื่อให้กับเรา
ธนาคารออมสิน เปิดเผยข้อมูลผ่านบทความ เช็คลิสต์สำคัญก่อนขอสินเชื่อ ไว้ว่าสาเหตุที่ธนาคารไม่ปล่อยสินเชื่อมีหลายกรณี แตกต่างกันไปตามเงื่อนไขของแต่ละที่ กรณีของการขอสินเชื่อไม่ผ่าน
ตัวอย่างแรก หากเราเป็นเจ้าของกิจการที่ต้องการขอสินเชื่อเพิ่มสภาพคล่อง แต่เรากลับไม่มีอะไรไปค้ำประกันเลย แบบนี้โอกาสที่จะผ่านค่อนข้างจะน้อย เนื่องจาก การที่เราขาดสภาพคล่อง เป็นเรื่องที่เสี่ยงสำหรับการปล่อยสินเชื่ออยู่แล้ว ทางที่ดีเราควรมองหาหลักทรัพย์ค้ำประกันไปยื่นเสนอต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารด้วยก็จะผ่านได้โดยง่ายครับ
ตัวอย่างที่สอง หากเราเป็นบุคคลธรรมดา และต้องการขอสินเชื่อส่วนบุคคล เราต้องเช็คเครดิตบูโรของเราให้เรียบร้อย หากติดปัญหา ต้องรีบแก้ไข ด้วยการยื่นชำระเงินคงค้างต่างๆ และทำเรื่องให้เรียบร้อย เพื่อยื่นขอยกเลิกแบล็คลิสต์ ทำได้ดังนี้ก็จะขอสินเชื่อผ่านแบบสะดวกไม่ติดขัดแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เปิดขั้นตอนสมัคร ‘สินเชื่อเสริมพลังฐานราก’ กู้สูงสุด 5 หมื่นบาท ไม่ต้องมีคนค้ำ
- สินเชื่อเสริมพลังฐานรากออมสิน ผ่าน MyMo เช็คจ่อปรับหลักเกณฑ์อนุมัติง่ายขึ้น
- ขั้นตอนเช็คสถานะ 'สินเชื่อเสริมพลังฐานราก' วงเงิน 50,000 บาทจาก 'ออมสิน'
ดังนั้น ก่อนที่เราจะไปขอสินเชื่อเราควรทำการบ้านก่อนด้วยการเช็คตัวเองก่อนไปขอสินเชื่อ เราต้องรู้ว่าธนาคารแต่ละแห่งมีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง และปิดข้อบกพร่องเหล่านั้นให้หมด
เราต้องตรวจสอบเหตุผลที่ธนาคารจะปล่อยสินเชื่อให้กับเราก่อนที่เราจะไปขอสินเชื่อนั้นๆ ทำได้ดังนี้โอกาสที่สินเชื่อจะได้รับการอนุมัติก็จะสูงขึ้น
2) ตรวจสอบเอกสารสำคัญให้ครบถ้วน
เอกสารในการขอสินเชื่อขึ้นอยู่กับประเภทของสินเชื่อ แต่เอกสารหลักๆ เราต้องเตรียมตัวให้พร้อมเสียก่อน เทคนิคง่ายๆ ก็คือ ลองโทรไปสอบถามถึงเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ก่อนที่เราจะเดินทางไปยังธนาคาร เราสามารถสอบถามถึงเอกสารสำคัญต่างๆ และจำนวนสำเนาของเอกสารที่ต้องใช้ เตรียมให้พร้อมเสียก่อนก็จะช่วยร่นเวลาในการอนุมัติไปได้มากมายทีเดียว
บางครั้งสมุดบัญชีธนาคาร หรือ บุ๊คแบงก์ของเราอาจไม่ได้รับการอัพเดทอย่างสม่ำเสมอ หรือใน Statement มีรายได้เข้ามาไม่แน่นอนไม่มีรูปแบบตายตัว หรือมีรายจ่ายมากกว่ารายรับ หรือบัญชีเราอาจแห้ง นั่นคือสัญญาณที่ไม่ดี หากเรานำเอกสารนี้ไปขอสินเชื่อ โอกาสที่จะไม่ได้รับการอนุมัติจะมีสูงกว่า
ทางที่ดีเราควรเดินบัญชีอย่างสม่ำเสมอ อย่าทำให้บัญชีของเราแห้ง (ให้มีเงินเหลือติดบัญชีเอาไว้) โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการรายเล็กๆ ควรให้ความใส่ใจกับการเดินบัญชีมากเป็นพิเศษ
- 'ชาวนา' ฟังทางนี้! เช็ค ธ.ก.ส. ให้แล้ว กรณีเงินประกันรายได้เกษตรรอบ 3
- เปิดลงทะเบียน 'บัตรคนจน' รอบใหม่ สิทธิประโยชน์เดิมและจะได้เพิ่ม
- ลงทะเบียน 'บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ' รอบใหม่ เงื่อนไขและแบบฟอร์ม
3) ตรวจสอบความสามารถทางการเงิน
การตรวจสอบความสามารถในการหาเงินในมุมมองของนายธนาคาร ก็คือ ความสามารถที่เราจะสร้างรายได้เข้ามาได้อย่างสม่ำเสมอ เพราะนั่นคือความแน่นอน และความเชื่อถือที่เราจะสามารถผ่อนชำระดอกเบี้ยเงินกู้ได้ทุกงวด ก่อนที่เราจะไปขอสินเชื่อ ควรตรวจสอบความสามารถทางการเงินของเราเสียก่อน หากเราเป็นเจ้าของกิจการควรมีกระแสเงินสดเข้าสู่กิจการอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้การอนุมัติเงินสินเชื่อผ่านได้ง่ายขึ้นอย่างแน่นอนที่สุด
4) ตรวจสอบเครดิตของเราเอง
การตรวจสอบเครดิตของเราเองทำได้ง่ายๆ ด้วยการยื่นขอตรวจสอบเครดิตบูโรกับทางธนาคาร อาจเป็นธนาคารที่เราต้องการขอสินเชื่อก็ได้ครับ เพราะการตรวจสอบเครดิตของเราเป็นปัจจัยสำคัญที่ทุกธนาคารใช้ในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ สำหรับคนที่คิดว่าเรามีเครดิตตกค้าง ควรดำเนินการให้เรียบร้อยก่อนไปขอสินเชื่อจะดีที่สุด
5) เตรียมหาผู้ค้ำ หรือหลักทรัพย์ค้ำประกัน
การอนุมัติสินเชื่อนั้น ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน หรือมีผู้ค้ำประกันที่น่าเชื่อถือ ผู้ขอต้องมองหาหลักทรัพย์ที่เหมาะสมกับวงเงินที่ขอสินเชื่อ หากหลักทรัพย์นั้นๆ ยังไม่เหมาะสมพอ ก็ควรหาหลักทรัพย์เพิ่มเติม หรือหาผู้ค้ำประกันในกรณีอื่นๆ หรือแม้แต่หาผู้กู้ร่วมที่มีความน่าเชื่อถือมากๆ ก็จะช่วยให้การอนุมัติผ่านได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
ที่มา: ธนาคารออมสิน