'เชียงใหม่' เร่งทำแนวกันไฟรอบ 'ดอยสุเทพ'
รองผู้ว่าฯเชียงใหม่ นำส่วนราชการ-จิตอาสา-ชาวเขาเผ่าม้ง จัดกิจกรรม "ร้อยลมหายใจเพื่อดอยสุเทพ" ร่วมทำแนวกันไฟตลอดรอบดอยสุเทพ ขณะที่ อ.ดอยเต่า ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐานแตะ 91 มคก./ลบ.ม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (6 ก.พ.2564 ที่บริเวณบ้านม้งดอยปุย ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นำส่วนราชการ ประชาชนจิตอาสา และพี่น้องชนเผ่าบ้านม้งดอยปุย ร่วมกันทำแนวกันไฟป่าตลอดรอบดอยสุเทพ ในเส้นทางยอดดอยปุย-ดอยผากอง-จุดชมวิวดอยหัวหมู เพื่อป้องกันและเฝ้าระวังไฟป่าเข้าสู่หมู่บ้าน ในกิจกรรมร้อยลมหายใจเพื่อดอยสุเทพ ซึ่งจะมีการทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่องในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เดือนพฤษภาคม 2564
สำหรับพื้นที่ดอยปุย ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านของชาวชนเผาม้ง มีประชากรกว่า 200 ครัวเรือน 1,500 คน มีอาชีพเกษตรกรและปลูกลิ้นจี่เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งในปีที่ผ่านมาพื้นที่แห่งนี้มีจุดความร้อนจำนวนมาก จนเกิดไฟไหม้ป่า
โดยการทำกิจกรรมในวันนี้จึงถือเป็นกิจกรรมในการป้องกันและเฝ้าระวังไฟป่า ประกอบกับในปีนี้จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงาน โดยให้ทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วมนการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนแบบบูรณาการ โดยให้ประชาชนเป็นทัพหน้า เพราะเชี่ยวชาญและรู้จักพื้นที่เป็นอย่างดี
พร้อมใช้วิธีการบริหารจัดการเชื้อเพลิงประกอบกับข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ จนทำให้สถานการณ์หมอกควันไฟป่าของพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในขณะนี้ลดลงไปถึง 50% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
สำหรับการตรวจวัดคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ จาก Application Air CMI วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2564 พบว่าคุณภาพอากาศในเขตอำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ฝุ่น PM 2.5 วัดได้ 46 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศหรือค่า AQI วัดได้ 125 ถือว่าคุณภาพอยู่ในระดับปานกลาง ที่น่าเป็นห่วงคือพื้นที่อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ วัดค่าฝุ่น PM 2.5 ได้ ถึง 91 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่า AQI ได้ 169 ซึ่งถือว่าคุณภาพอากาศ อยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ ขอให้ประชาชนใส่หน้ากากอนามัยและงดทำกิจกรรมกลางแจ้ง
อย่างไรก็ตาม สำหรับวันนี้ (6ก.พ.) สภาพอากาศของภาคเหนือมีอากาศเย็นอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 24 องศาเซลเซียส ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 อยู่ที่ 43 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยในประเทศไทยตอนบนมีลมอ่อน ดังนั้นสภาพอากาศจะมีการสะสมของฝุ่นละอองหมอกควันเพิ่มขึ้นให้ชาวเชียงใหม่ดูแลสุขภาพให้ดีและติดตามสารจากจังหวัดได้ตลอดทุกวัน
ที่มา : ธนกร วงค์นาง
