‘Hario’ Cafe Bangkok ชิมกาแฟคุณภาพจากเครื่องชงญี่ปุ่นบันลือโลก
“Hario” ได้ชื่อว่าเป็นแบรนด์ผู้ผลิตเครื่องชงกาแฟแบบ Slow Bar ที่คอแฟอยากมีไว้ติดบ้าน เปิดเหตุผลทำไม ดริปเปอร์ ฮาริโอะ จึงมี “ครีบ” ที่ร้าน Hario Café Bangkok ร้านแรกของเมืองไทย
คอกาแฟที่ชื่นชอบศึกษาวิธีชงกาแฟให้ลึกซึ้ง คงคุ้นชื่อ Hario (ฮาริโอะ) แบรนด์ผู้ผลิตเครื่องใช้เกี่ยวกับการชงกาแฟของประเทศญี่ปุ่น มีชื่อเสียงในด้านการผลิตอุปกรณ์ชงกาแฟประเภท Slow Bar ทั้งแบบ Hot Brew และ Cold Brew ให้เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นสำหรับเราๆ ท่านๆ ที่ใช้ในครัวเรือน รวมทั้งระดับบาริสต้า
ฮาริโอะเปิดร้านกาแฟเล็กๆ ใกล้กับสำนักงานในกรุงโตเกียว เพื่อนำเสนอเครื่องใช้ไม้สอยเกี่ยวกับการชงกาแฟและรับรองลูกค้าที่ไปติดต่อธุรกิจให้ได้มีโอกาสชิมกาแฟที่ชงด้วยอุปกรณ์อันลือชื่อของฮาริโอะ
นักธุรกิจไทย กิจจา วงศ์วารี กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทในเครือ อโรม่า กรุ๊ป (Aroma Group) คือหนึ่งในผู้ไปเยือนร้านกาแฟแห่งนั้น และได้เจรจาทางธุรกิจเพื่อนำ ‘ร้านกาแฟฮาริโอะ’ มาเปิดในเมืองไทย
ก่อนรัฐบาลไทยประกาศล็อคดาวน์ประเทศเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 มร.ยาสุฮิโระ ชิบาตะ ประธานกรรมการบริหาร ฮาริโอะ ญี่ปุ่น (บุตรชายผู้ก่อตั้งฮาริโอะ) มีโอกาสเดินทางจากญี่ปุ่นมาจัดงานฉลองความสำเร็จให้กับ ‘อโรม่า กรุ๊ป’ ในฐานะผู้แทนจัดจำหน่ายอุปกรณ์ชงกาแฟฮาริโอะอย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย พร้อมเปิด Hario Café Bangkok เมื่อเดือนมีนาคม 2020 ซึ่งเป็นสาขาที่ 3 ของโลก รองจากร้านแรกที่โตเกียวและสาขาที่ 2 ที่ประเทศอินโดนีเซีย
ประวัติความเป็นมาของ ‘Hario’
ค.ศ.2021 เป็นปีที่ ฮาริโอะ มีอายุครบ 100 ปี, ย้อนกลับไปในปี 1921 เป็นปีที่ มร.ฮิโระมุ ชิบาตะ (Hiromu Shibata) เริ่มต้นทำธุรกิจผลิตเครื่องแก้วทนความร้อนสูงสำหรับใช้ในห้องปฏิบัติการ โดยตั้งโรงงานอยู่ในย่านอิบารากิ (Ibaraki)
มร.ชิบาตะตั้งชื่อแบรนด์ตามชื่อแผนกหนึ่งในโรงงานของเขา ที่ทุ่มเทวิจัยและออกแบบการผลิตแก้วทนความร้อน กระทั่งประสบความสำเร็จ สามารถผลิตแก้วที่มีความแข็งแกร่งเป็นอันดับหนึ่งในท้องตลาด นั่นก็คือแผนก Hario คำนี้มีความหมายว่า King of Glass หรือ ‘ราชาแห่งแก้ว’
ต่อมาในปี 1964 ฮาริโอะจึงขยายการผลิตเครื่องแก้วในครัวเรือน โดยเริ่มจากการผลิตโพรงแก้วสำหรับการชงกาแฟแบบไซฟอน (Siphon) และในปี 1972 ก็บุกเบิกวิธีการผลิตแก้วด้วยการเปลี่ยน ‘เตาหลอมแก้ว’ เป็น ‘ระบบไฟฟ้า’ ทำให้ปลอดภัยต่อสุขภาพบุคลากรในโรงงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
โรงงานผลิตกระจกกันความร้อนของฮาริโอะได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิต ISO 9001 และ ISO 14001 ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา เป็นโรงงานผลิตกระจกกันความร้อนแห่งเดียวของญี่ปุ่นที่ได้รับรองมาตรฐานดังกล่าว
ปัจจุบัน ฮาริโอะ ผลิตสินค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่เครื่องครัว อุปกรณ์ชงชา-กาแฟ เครื่องแก้วอีกมากมาย ด้วยนวัตกรรมการผลิตแก้วทนความร้อนที่สวยงามและมีคุณภาพสูงเป็นเอกลักษณ์ ด้วยส่วนผสมจากแร่ธาตุธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ ปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
Hario Café Bangkok วิถีกาแฟสโลว์บาร์ผ่านอุปกรณ์ระดับโลก
“ฮาริโอะคาเฟ่ที่ญี่ปุ่นเป็นโชว์รูมเล็กๆ ใกล้สำนักงานในโตเกียว ผมคิดว่าเขาทำเพื่อเป็นที่รับรองลูกค้าติดต่อธุรกิจกับบริษัทเขา สาขาจาการ์ตาที่อินโดนีเซียเป็นคาเฟ่จริงๆ มีอาหารด้วย มีสปีดบาร์ แต่พอเราจะทำฮาริโอะที่กรุงเทพฯ ผมคุยกับเขาว่า เราจะไม่ทำเหมือนที่อื่น เรื่องอาหารที่นี่ผมไม่ทำเลย ขนมก็เป็นแบบไม่มีกลิ่น ผมอยากให้คนที่เข้ามาได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศกาแฟที่เป็นดริปคอฟฟี่อย่างจริงจัง ผมจะไม่ขายเอสเพรสโซ ในร้านไม่มีสปีดบาร์ อยากให้คนมารีแล็กซ์กับรสชาติกาแฟที่ออกมาจากอุปกรณ์เหล่านี้จริงๆ ที่ผ่านมาคนไทยชินกับกาแฟแบบสปีดบาร์ แต่เราอยากบอกว่า มีวิถีการดื่มกาแฟอีกแบบที่ทำให้ดีได้” กิจจา กล่าวกับ @taste
อุปกรณ์เกี่ยวกับการชงกาแฟของฮาริโอะ ได้รับการ ออกแบบอย่างพิถีพิถัน ทุกชิ้นผ่านวิธีคิดมาแล้วเพื่อการชงกาแฟ เพื่อดึงคุณสมบัติเด่นของเมล็ดกาแฟออกมาให้คอกาแฟได้สัมผัสมากที่สุด นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมกิจจาจึงอยากเชิญชวนผู้สรรหาการดื่มกาแฟคุณภาพได้มาลองชิมกาแฟที่ร้าน
คุณกิจจากล่าวว่า สินค้าในกลุ่ม กาน้ำร้อน ที่ดูธรรมดาเรียบง่ายทั่วไป สินค้าลอกเลียนแบบก็มี แต่รินน้ำออกมา..ได้ไม่เหมือนกัน ทุกความโค้งมีความหมายเพื่อรสชาติและความสะอาด
“ที่กล้าพูดเพราะเมื่อก่อนผมก็ยังไม่ค่อยเชื่อ เราก็ชงกาแฟดื่ม ความชำนาญไม่เท่าบาริสต้าอยู่แล้ว เราดูสินค้าแล้วก็ลองทดสอบด้วยตัวเอง ไม่ต้องเป็นมืออาชีพ เราที่เป็นผู้บริโภคนี่ล่ะ กาแฟดริป เทน้ำจากด้านบน เอากาธรรมดาเท กับเอากาตัวนี้เท กรูมมิ่งของกาแฟไม่เหมือนกัน...
ถ้าดูให้ดี จงอยกามีความไม่ตรง ผมก็ถามว่า กาคุณเบี้ยวไหม เขาบอกนี่คือความตั้งใจ คือเขาคำนวณมาหมดแล้ว ว่ากระแสน้ำที่ออกมาจากมิลลิลิตรเท่านี้ เวลาคุณเท คุณต้องเทองศาไหน แค่ขยับนิดเดียว น้ำร้อนก็ไหลออกมาแล้ว...
ถ้าคุณไปเจอกาน้ำร้อนที่เลียนแบบ องศาไม่ได้ คุณควบคุมน้ำได้ไม่เหมือนแล้ว แรงดันน้ำที่ไหลออกมาต้องสัมพันธ์กับปริมาตรน้ำในกา เพราะเราใช้ปริมาตรน้ำภายในกาเป็นตัวดันน้ำออกมา ท่อขนาดไหนจึงจะสมดุล น้ำที่เทออกมาไม่ได้ไหลออกมาตรงๆ แต่ไหลเป็นเกลียวออกมา ผมไม่เคยเชื่อ จนได้มาเทด้วยตัวเอง สินค้าเขาไม่ธรรมดา แต่ทำออกมาให้คนธรรมดาใช้”
อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงมาก คือ ดริปเปอร์ วี ซิกซ์ตี้ (Dripper V60) ฮาริโอะเป็นแบรนด์แรกที่ออกแบบให้ภายในมี ครีบ เอียง 60 องศา ซึ่งจดลิขสิทธิ์ไว้แล้ว
“ฮาริโอะมี know-how (ความรู้ความชำนาญ) บางอย่าง ซึ่งที่อื่นทำไม่ได้ ดริปเปอร์ วี ซิกซ์ตี้ มีครีบอยู่ภายในโดยรอบ ไม่ใช่เพื่อความสวยงาม พอมาศึกษาจริงๆ ฟังจากบาริสต้า บอกว่ามีผลต่อการไหลเวียนของอากาศที่เข้าไป ถ้าแผ่นกรองแนบกับดริปเปอร์หมดเลย น้ำออกทางไหน ทำให้กาแฟฟูเกินไป ลอยเกินไป ฮาริโอะออกแบบดริปเปอร์นี้เพื่อให้น้ำไหลในอัตราที่เหมาะสม อากาศที่ผ่านเข้าไปต้องเหมาะสม ครีบพวกนี้ไม่ได้ดีไซน์เล่นๆ แต่ผ่านการทดสอบแล้ว เพื่อให้น้ำร้อนแทรกไปตามกาแฟบดได้มากที่สุด
ผมไม่ได้บอกว่าฮาริโอะเป็นแบรนด์ที่ดีที่สุด ผมคิดว่าอยู่ที่คนชงด้วย และคนใช้งานด้วย แต่ผมจะบอกว่า ฮาริโอะเป็นแบรนด์ที่มีดีเทลและดีไซน์ที่เหมาะสมกับการชงกาแฟของทุกคนมากที่สุด เป็นโฮมยูส(ใช้ในครัวเรือน) ให้คนธรรมดาใช้งานได้ง่าย แล้วกับบาริสต้าเองก็สามารถปรับใช้ได้ง่ายกว่าแบรนด์อื่น”
ปัจจุบัน ยอดจำหน่ายดริปเปอร์ในญี่ปุ่น ฮาริโอะเป็นเจ้าตลาด ทำรายได้สองพันกว่าล้านบาท
นอกจากออกแบบเอง ฮาริโอะยังเชิญบาริสต้าระดับโลกร่วมออกแบบอุปกรณ์ชงกาแฟด้วย ผลงานซึ่งเป็นที่ฮือฮามากคือคอลเลคชั่น Kasuya Model Series ที่ฮาริโอะร่วมผลิตกับ เทตสึ คาสึยะ (Tetsu Kasuya) ชาวเอเชียคนแรกที่คว้าตำแหน่งแชมป์โลกจากการแข่งขัน World Brewers Cup 2016
เทตสึ ออกแบบชุดชงกาแฟ V60 ที่เขาถนัดใช้ ประกอบด้วย ดริปเปอร์เซรามิก ที่รูไหลน้ำออกแบบให้มีความกลมเรียว แตกต่างจากดริปเปอร์ทั่วไปเป็นรอยหยัก, ถ้วยชิมกาแฟ (cupping), กาน้ำร้อน (mini drip kettle) และ ช้อนตักกาแฟ ทำจากสเตนเลสสตีลเคลือบทราย เมื่อล้างทำความสะอาด จะไม่เหลือกลิ่นกาแฟติดเหมือนช้อนทั่วไป ซึ่งมีผลต่อการทดสอบกลิ่นกาแฟ
ในส่วนของ แก้วเครื่องดื่ม ก็ได้รับการดีไซน์พิเศษ เช่น แก้วเครื่องดื่มรุ่น Twin Rock Glass ผนังแก้ว 2 ชั้น ระหว่างผนังเป็นสุญญากาศ เพื่อลดการส่งผ่านความร้อน ถ้าใส่เครื่องดื่มร้อนก็จะคงความร้อนได้ดีกว่า เช่นเดียวกับถ้าใช้เสิร์ฟเครื่องดื่มเย็น เครื่องดื่มก็คงความเย็นได้นานกว่าแก้วผนังเดี่ยวทั่วไป
“เราพิสูจน์แล้ว เวลาทำโคลบรูว์ (เครื่องดื่มเย็น) เราใส่น้ำแข็งลงไป ระยะเวลาการละลายต่างกัน 5 เท่า หมายความว่าลูกค้าเราดื่มโคลบรูว์รสชาติเดิมนานกว่าแก้วยี่ห้ออื่นห้าเท่า จ่ายเงินแล้วได้รสชาติเดียวกันทั้งแก้วตั้งแต่จิบแรกจนจิบสุดท้าย รสชาติไม่เหมือนกันร้อยเปอร์เซ็นต์แน่นอน แต่ใกล้เคียงมาก และน้ำแข็งที่ใช้ในร้านก็เป็นร็อคไอซ์ (rock ice)ของญี่ปุ่น ที่ละลายช้าและสะอาด แพงกว่าน้ำแข็งปกติ 4-5 เท่า แต่เราขอให้ผู้บริโภคในสิ่งที่ดีกว่า” กิจจา กล่าว
คอกาแฟที่มายัง Hario Café Bangkok จะได้ลิ้มรสชาติกาแฟแบบ Slow Bar ที่ชงด้วย อุปกรณ์ชงกาแฟฮาริโอะ ด้วยฝีมือบาริสต้าซึ่งมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ
เมล็ดกาแฟคุณภาพ และ Specialty
เนื่องจากฮาริโอะไม่ใช่ร้านกาแฟ แต่มีชื่อเสียงในความเป็นแบรนด์ผลิตเครื่องใช้ไม้สอยเกี่ยวกับการชงกาแฟ ดังนั้นในการทำร้านกาแฟ ฮาริโอะจึงเปิดกว้างในการใช้ เมล็ดกาแฟคุณภาพ จากทั่วโลก เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับการดื่มกาแฟ
เช่นเดียวกับที่คุณกิจจาตั้งใจอยากให้ ฮาริโอะ คาเฟ่ กรุงเทพฯ เป็นยิ่งกว่าร้านกาแฟ
“ผมอยากให้ฮาริโอะ คาเฟ่ กรุงเทพฯ เป็นเหมือนเอ็กซ์พีเรียนซ์เซ็นเตอร์ ที่ส่งผ่านประสบการณ์ดื่มกาแฟแบบสโลว์บาร์ได้แบบง่ายๆ ผ่านเมล็ดกาแฟคุณภาพที่หลากหลาย โดยบาริสต้าที่มีประสบการณ์”
ภายในร้านมีเมล็ดกาแฟออริจินส์ อาทิ Colombia El Paraiso Lima (cupping score 89.5) และ Costa Rica Tarrazu Tobosi Copey Geisha (cupping score 91.14) เมล็ดกาแฟซีรีส์นำเข้า อาทิ Musician Series จากคอสตาริกา มี taste note แตกต่างกันไป จึงได้รับการตั้งชื่อให้มีสีสันตามชื่อคีตกวีสากลที่ประกอบด้วย Bach, Chopin, Mozart และ Beethoven
เมล็ดกาแฟจากโรงคั่วกาแฟที่มีชื่อเสียงของไทย, เมล็ดกาแฟที่ผ่านการทำโปรเซสจากผู้ปลูกกาแฟในไทย อาทิ เมล็ดกาแฟ Honey Process จาก กลุ่มเกษตรกรบ้านน้ำซับ บ้านนาสามเงา จังหวัดตาก ได้รับรางวัล Thai Specialty Coffee Awards 2020 ในอันดับที่ 5 ด้วย cupping score 85.39 มี taste note ของชาพีช พลัม ความฉ่ำของผลไม้ตระกูลแตง และสมุนไพร
เมล็ดกาแฟ Natural Process ของคุณ วริศ มันตาวลี แห่งบ้านดอยช้าง วาวี แม่สลวย จังหวัดเชียงราย ได้รับรางวัล Thai Specialty Coffee Awards 2020 ในอันดับที่ 8 ด้วย cupping score 84.71 มี taste note ของ น้ำผึ้ง คาราเมล เมล็ดถั่ว ช็อกโกแลต มอลต์ พลัม แอปเปิ้ลแดง และมะนาวเหลือง
เมล็ดกาแฟคุณภาพที่คุณกิจจาและทีมงานคัดสรรมาให้บาริสต้าของร้านคั่วเองเป็น ‘เฮาส์เบลนด์’ ตั้งชื่อว่า Infinity Blend ประกอบด้วยเมล็ดกาแฟจาก ดอยแม่สลอง ดอยขุนช้างเคี่ยน และ กาแฟอินโดนีเซีย ให้บอดี้ค่อนข้างหวาน กลิ่นออกไปทางสมุนไพร มีความเป็นซินนามอน ช็อกโกแลต และคาราเมล บาริสต้ากล่าวว่า ดื่มใส่นมก็อร่อย ดื่มแบบดริปก็จะได้กลิ่นอายแบบการดื่มกาแฟที่คนไทยคุ้นเคย คือเข้มนิดๆ บอดี้เยอะหน่อย
กาแฟ Infinity Blend ได้รับรางวัลเหรียญทองจากการส่งเข้าประกวดในงาน International Coffee Tasting Competition 2019 จัดโดยสมาคมกาแฟในประเทศอิตาลี
“เขาจัดประกวดโดยเชิญกรรมการที่มีใบรับรองด้านการชิมกาแฟ มารวมกันร้อยกว่าคน เปิดรับกาแฟที่ส่งไปจากทั่วโลก กรรมการเหล่านี้เป็นผู้ให้คะแนน ตัดสินให้ได้เหรียญทองหรือเหรียญเงินจากจำนวนคะแนนที่กาแฟนั้นทำได้” กิจจา กล่าว
ความมหัศจรรย์อยู่ที่ เมล็ดกาแฟคุณภาพจากทุกแหล่ง เมื่อชงด้วยเครื่องชงกาแฟของฮาริโอะ ประกอบกับฝีมือของบาริสต้า จะทำให้เมล็ดกาแฟตัวเดียวกัน ให้กาแฟที่มีรสชาติและกลิ่นหอมอันซับซ้อนแตกต่างกันไปตามความต้องการของนักดื่มกาแฟ
“คนดื่มกาแฟอยากให้มีฟลอรัลมากขึ้น แอซิดิตี้มากขึ้น ต้องทำอย่างไร สามารถขอหรือพูดคุยกับบาริสต้าได้ กาแฟตัวเดียวก็สามารถทำให้หลากหลายบนเครื่องมือเดียวกัน” กิจจา ยกตัวอย่าง ซึ่งการที่ลูกค้าพูดคุยกับบาริสต้านี่เองที่จะทำเกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านกาแฟ
เราอยากให้ลูกค้าที่มาในร้านนี้ มีประสบการณ์ใหม่ๆ ด้านกาแฟ มีกาแฟให้เลือกดื่มหลากหลาย ซื้อกลับไปชงเองที่บ้านได้ หรือมาถามวันนี้มีกาแฟอะไรบ้าง ผมว่าเป็นเรื่องวิธีการดื่มกาแฟได้หลากหลาย สำหรับนักดื่มกาแฟที่ต้องการความแตกต่างและอยากเรียนรู้เรื่องกาแฟ เป็นอีกวิถีของการดื่มกาแฟ
แน่นอนตลาดเดิมก็ยังอยู่ ก็ยังมีคนเดินไปสั่งเอสเพรสโซอยู่ดี คาปูชิโนเย็น นมข้นเยอะๆ เหมือนเวียดนามเขาบุกกาแฟเป็นอันดับหนึ่งอันดับสองของโลก เขาก็ยังกินกาแฟดำปี๋ใส่นมข้นใส่คาราเมล ก็คือวิถีของเขา และเขาก็ยังกินกาแฟเอสเพรสโซที่เป็นแนวสากล กาแฟดริปเขาก็มี เพียงแต่กาแฟดริปไม่มีนมไม่มีน้ำตาล รับรู้ได้ถึงกลิ่น รสชาติ คุณสมบัติของกาแฟ ลูกค้าก็จะมีประสบการณ์ด้านนี้เพิ่มเติม”
ดีไซน์ร้านอบอุ่น-เรียนฟรีชงกาแฟ
นอกจากไปเจรจาธุรกิจกับฮาริโอะ คุณกิจจายังตระเวนสำรวจร้านกาแฟญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงหลายแห่งที่คนมุ่งมั่นไป ที่ไม่ใช่ร้านกาแฟแบบตลาดกว้างๆ ทั่วไป และพบว่าคอกาแฟชาวญี่ปุ่นต้องการดื่มกาแฟและแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องกาแฟกับ ‘บาริสต้า’ ที่มีคุณภาพ
“ผมนำมาเป็นโจทย์ในการวางคอนเซปต์ร้าน ฮาริโอะ คาเฟ่ กรุงเทพฯ และพยายามสร้างบาริสต้าที่มีความตั้งใจเป็นบาริสต้ามืออาชีพจริงๆ คือให้ความรู้กับลูกค้าได้ในเบื้องต้น สื่อสารกับลูกค้าในภาษาที่ง่าย เราไม่พยายามให้ความรู้จนคนกินงง หรือรู้สึกว่ามันยาก”
สำหรับดีไซน์ของร้านเน้นความสบายตา ดูปลอดโปร่ง อบอุ่นด้วยงานไม้กับโทนสีครีม ด้านนอกมีต้นไม้สีเขียว ไม่ว่าจะมองออกไปหรือมองเข้ามาก็ดูสดชื่น ไม่น่าเบื่อ
ออกแบบที่นั่งหลักให้อยู่รอบเคาน์เตอร์ทรงรีใหญ่กลางร้าน เพื่อให้บาริสต้าสามารถเดินพูดคุยกับลูกค้าได้ทั่วถึง ลูกค้าเองก็สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องกาแฟให้กันและกันได้ง่ายขึ้น สร้างคำถามจากการเห็นคนอื่นสั่งกาแฟแบบไหน สร้างการชุมชนของคนรักกาแฟ
พื้นที่บริเวณชั้นสองของร้าน จัดให้มีการทำ เวิร์คชอปฟรี สำหรับผู้ต้องการเรียนรู้การใช้อุปกรณ์การชงกาแฟแบบดริป มีบริการทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง รอบละ 6-10 คน ติดตามรายละเอียดได้จากเฟซบุ๊ก HarioCafeBangkok
สำหรับสมาชิกฮาริโอะที่ผ่านเวิร์คชอปแล้ว สามารถซี้อเมล็ดกาแฟจากทางร้าน แล้วชงกาแฟดื่มเองได้ที่ชั้นสองอีกด้วย ทางร้านจัดเตรียมอุปกรณ์ให้ และพาเพื่อนขึ้นไปได้
จุดเด่นของร้านกาแฟ Hario Café Bangkok
- ร้านกาแฟสไตล์ญี่ปุ่นแบบ Slow Bar เปิดโอกาสให้คอกาแฟได้ลิ้มลองกาแฟแบบ Drip Coffee, Siphon Coffee ที่ใช้หลักการวิทยาศาสตร์สกัดกาแฟ และ Cold Brew สกัดกาแฟด้วยน้ำเย็น
- มีเมล็ดกาแฟ Specialty, เมล็ดกาแฟคุณภาพระดับนานาชาติและระดับประเทศ
- จำหน่ายอุปกรณ์ Slow Bar หลายหลายชิ้น สำหรับการใช้ในครัวเรือน หรือนำติดตัวไปชงกาแฟดีๆ ดื่มเองขณะเดินทางท่องเที่ยว
- ฮาริโอะ คาเฟ่ กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ที่โชคชัย 4, ซอย 39 ลาดพร้าว, เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 06.00-24.00 น. โทร.08 5480 2920