‘Tasty Congee’ ร้านนี้มีเชฟเยอะ
ร้าน “โจ๊กฮ่องกง” และ “บะหมี่เกี๊ยว” ชื่อดังจากฮ่องกง “Tasty Congee and Noodle Wantun” เปิดร้านแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ “สยามพารากอน” เป็นร้านที่ได้ชื่อว่ามีเชฟหลายคน...
ผู้บริหารร้าน Tasty Congee & Noodle Wantun (เทสตี้ คอนจี แอนด์ นูเดิ้ล หวั่นทั้น) บอกว่า กว่าเชฟจะมาครบเข้าประจำแต่ละครัวก็ผ่านมาหลายเดือน สาเหตุจากติดโควิด-19 (เปิดเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2563) ซึ่งถ้าเปิดครัวครบจริง ๆ น่าจะใช้เชฟราว 8 คน เชฟแต่ละคนเชี่ยวชาญอาหารแต่ละอย่าง ปัจจุบันมีเชฟจากฮ่องกง 3 คน จากจีนใหญ่ 5 คน อาหารเน้นรสชาติสไตล์ฮ่องกง ได้แก่ เชฟติ่มซำ, เชฟเป็ดย่าง, เชฟหมูแดง, เชฟทำโจ๊ก, เชฟครัวผัด, เชฟบะหมี่ ฯลฯ จากความพิถีพิถันใส่ใจในอาหาร และเป็นเหตุผลที่ทำให้ร้านนี้มีชื่อเสียงโด่งดัง ใครไปฮ่องกงต้องแวะชิม
ตอนนี้ไปฮ่องกงไม่ได้ แต่ก็มีรสชาติของฮ่องกงมาให้หายคิดถึง ตอนนี้ เทสตี้ คอนจี แอนด์ นูเดิ้ล หวั่นทั้น เสิร์ฟอาหารครบแทบทุกอย่างตามร้านต้นตำรับ โดย Ho Koon Ming ทายาทรุ่นที่ 2 ผู้มาสืบสานตำนานความอร่อยสไตล์กวางตุ้ง ยังคงรักษาสูตรและกรรมวิธีการปรุงแบบดั้งเดิมตลอดระยะเวลากว่า 24 ปี นับแต่เปิดบริการครั้งแรก จนได้มิชลิน บิบ กูร์มองด์ (Michelin Bib Gourmand) จากฮ่องกง รางวัลที่มอบให้แก่ร้านอาหารที่นำเสนออาหารคุณภาพในราคาสมเหตุสมผล
แต่แรกเริ่มนั้นมาจาก Ho Hong Kee ร้าน บะหมี่เกี๊ยว เก่าแก่เจ้าดัง การันตีคุณภาพและรสชาติด้วยมิชลินสตาร์ 1 ดาว เปิดมานาน 74 ปี โดยเริ่มต้นจากคุณปู่ Ho Chiu Hung เปิดร้านบะหมี่เกี๊ยวเล็ก ๆ ที่กวางโจว ต่อมาลูกชาย Ho Wing Fong ไปฝากตัวร่ำเรียนวิชาทำบะหมี่และเกี๊ยวเพิ่มเติมจากปรมาจารย์ทำเกี๊ยวและเส้นบะหมี่ในฮ่องกง จนเมื่อปี 1946 เขากับภรรยาได้เปิดร้าน Ho Hung Kee ขึ้นที่ฮ่องกง
ต่อมา Ho Koon Ming รับช่วงกิจการต่อจากผู้เป็นพ่อ และเปิดให้บริการในชื่อใหม่ เทสตี้ คอนจี แอนด์ นูเดิ้ล หวั่นทั้น เพื่อให้ผู้คนสามารถเข้าถึงอาหารที่ปรุงอย่างใส่ใจ ในแนว Comfort Food ที่ปรุงตามตำรับดั้งเดิม โดยเฉพาะ เกี๊ยว ต้องผ่านคุณสมบัติ 3 ด้าน คือ เส้นบะหมี่ น้ำซุป และตัวเกี๊ยว ที่ต้องได้ขนาดพอดีคำและไส้มีสัดส่วนระหว่างเนื้อกุ้งและหมูในสัดส่วน 7:3 ขนาดของชิ้นเนื้อกุ้งก็สำคัญ และเส้นบะหมี่ที่เรียกว่า Jook Sing ก็ผลิตเองตามสูตรของร้าน
บะหมี่เกี๊ยว เป็นพระเอก ยังมีนางเอกคือ โจ๊กฮ่องกง ที่สั่งเครื่องเคียงได้หลากหลาย เช่น เนื้อปลา เนื้อสไลซ์ ลูกชิ้น หมูเค็ม ไข่เยี่ยวม้า ตับหมู เซี่ยงจี๊ ไส้หมู และไข่ไก่ บางคนชอบสูตรออริจินัลคือ โจ๊กรวมสไตล์กวางโจว ที่เสิร์ฟโจ๊ก 1 ถ้วย กับเนื้อสัตว์ต่าง ๆ แยกมาเป็นเครื่องเคียง ซึ่งล้วนมาชิ้นโต ๆ กินเต็มปากเต็มคำ เชฟประจำครัวโจ๊กบอกว่า
“กว่าจะเป็นโจ๊กเบื้องต้นต้องคัดวัตถุดิบที่ดีก่อน เช่น โจ๊กใช้ข้าวญี่ปุ่นเมล็ดกลม ต้มเคี่ยวนาน 2-3 ชม. เคล็ดลับคือต้องคนตลอดเวลา น้ำซุปก็เคี่ยวให้หอมด้วยปลาตาเดียว และน้ำซุปเคี่ยววันต่อวัน ตอนนี้มีโจ๊กเครื่องใน โจ๊กหมู โจ๊กตับ และโจ๊กเนื้อ”
เชฟบอกว่าอยากทำโจ๊กปลากับไข่เยี่ยวม้า และเมนูที่ปรุงจากปลา แต่เนื่องจากยังหาวัตถุดิบที่ตรงตามต้องการไม่ได้ นักชิมโปรดรอ...
เมนูยอดนิยมนอกจากโจ๊กก็คือ บะหมี่ เพราะเส้นทำเอง ได้แก่ บะหมี่แห้งเกี๊ยวกุ้ง (260.-) บะหมี่แห้งเนื้อตุ๋นซอสจูโห่วสไตล์ฮ่องกง (300.-) บะหมี่แห้งขาหมูตุ๋น (300.-) บะหมี่น้ำใส่ตับหมู (280.-) เกี๊ยวน้ำกุ้งเห็ดหูหนูดำหน่อไม้จีน (250.-) บะหมี่น้ำเนื้อสันนอก (280.-) ฯลฯ บะหมี่ของชาวฮ่องกงมีมากกว่าที่คิดจริง ๆ
ร้านนี้มีเมนูติ่มซำหลากหลาย ตั้งแต่ฮะเก๋า ซาลาเปาไส้หมูแดง, ไส้ไข่เค็มลาวา, ห่ามโส่ยโกะ (ฮะเก๋าไส้กุ้ง) ขาไก่นึ่งเต้าซี่ ขนมผักกาด ฟองเต้าหู้ห่อกุ้งทอด ก๋วยเตี๋ยวหลอดเนื้อ ก๋วยเตี๋ยวหลอดปาท่องโก๋ ฯลฯ (ราคาเริ่มต้นที่ละ 120 บาท)
จานบาร์บีคิว ได้แก่ หมูแดงอบซอสน้ำผึ้ง หมูกรอบ เป็ดย่าง (ไซส์เล็ก 380.-) จะสั่งรวมมิตรกับไก่ซีอิ๊วก็ได้เรียกว่า “บาร์บีคิว” 2 หรือ 3 อย่าง ร้านเทสตี้ คอนจีฯ มีไซส์ให้เลือกตั้งแต่ที่เล็กจนถึงเป็ดย่างทั้งตัว เปิดโอกาสให้ชิมอย่างหลากหลาย
ส่วนเมนูผัดรับหน้าที่โดย เชฟเหลียง เว่ย เจียง เพิ่งมาประจำการไม่นานมานี้ จัดสารพัดผัด เช่น เส้นใหญ่ผัดแห้งฮ่องกงเนื้อ (360.-) บะหมี่ผัดแห้งฮ่องกง (280.-) ก๋วยเตี๋ยวหลอดผัดซอสเอ็กซ์โอ (280.-) ข้าวผัดฝูโจว (480.-) คะน้าผัด (220.-) ผัดเปรี้ยวหวานกุ้ง (380.-) ฯลฯ
ของหวานสไตล์เวรี่ฮ่องกง เช่น เห็ดหูหนูขาวตุ๋นมะละกอ (ร้อน/เย็น), สาลี่ตุ๋นกับเมล็ดแอพริคอท (ร้อน/เย็น), ซุปเม็ดบัวเย็น, เยลลี่ดอกหอมหมื่นลี้กับถั่วแดง (ราคาเริ่มต้นที่ละ 90 บาท)
คิดถึงฮ่องกง...ตรงไปที่ เทสตี้ คอนจี แอนด์ นูเดิ้ล หวั่นทั้น ชั้น G สยามพารากอน FB และ IG: @tastycongeebkk