'รูดี้ คูร์เนียวาน'... 'มือปลอมไวน์' ขั้นเทพพ้นคุกแล้ว 

เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2564 รูดี้ คูร์เนียวาน ถูกเจ้าหน้าที่สหรัฐคุมต้วมาที่สนามบิน Fort Worth International Airport เมืองดัลลัส (Dallas) รัฐเท็กซัส แล้วไปถึงสนามบิน Soekarno-Hatta International Airport กรุงจาการ์ต้า อินโดนีเซีย 

   รูปปัจจุบันของ รูดี้ คูร์เนียวาน

ที่บอกว่าใหญ่ในวงการไวน์เพราะไม่มีใครรับประกันได้ว่า เขาจะกลับมาปลอมไวน์อีกหรือไม่ ? ขณะที่ผู้คร่ำหวอดในวงการไวน์บอกว่า เท่าที่ดูจากพฤติกรรมที่ผ่าน ๆ มาแล้วโอกาสที่เขาจะกลับมาเป็นไปได้สูง อย่างน้อยจากประสบการณ์หลาย ๆ อย่างก็ทำให้เขารู้ช่องทางมากขึ้น อยู่ที่ว่าจะกลับมาด้วยวิธีใด ?

 

     จุกคอร์กและฉลากปลอมถูกทำลาย

รูดี้ คูร์เนียวาน วัย 44 ปีเป็นชาวอินโดนีเซีย-จีน เดินทางเข้าสหรัฐในปี 1998 ในฐานะนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียสเตท พยายามขอวีซ่าถาวรในฐานะผู้ลี้ภัยเพื่อจะอยู่ต่อแต่ไม่สำเร็จ และไม่ยอมกลับอินโดนีเซีย จึงอยู่ในฐานะผู้หลบหนีเข้าเมือง แต่เขาสามารถทุ่มเงินซื้อไวน์ราคาแพงอย่างไม่อั้น จนกระทั่งโด่งดังในวงการไวน์และได้รับฉายาว่า Dr Conti เพราะชื่นชอบ ไวน์โดเมน เดอ ลา โรมาเน กงติ (Domaine de la Romanée-Conti) สุดยอดไวน์แพงของโลกจากเบอร์กันดี ประเทศฝรั่งเศส นอกจากนั้นยังสามารถกู้เงินจากธนาคารเอามาใช้จ่ายได้เป็นล้าน ๆ ใช้ชีวิตราวกับมหาเศรษฐี เครื่องแต่งกายสุดหรู ขับเฟอร์รารี มีอพาร์ตเมนท์สุดหรูในย่านที่พำนักของดาราชื่อดังของฮอลลีวู้ด

 

      ภาพวาดรูดี้ ในวันขึ้นศาล

เรื่องนี้มารู้ในตอนที่เขาถูกจับ เอฟบีไอพบว่ารูดี้มีทะเบียนการค้าแอลกอฮอล์ถึง 2 ใบ ทั้งที่มีฐานะเป็นโรบินฮู้ด ในสหรัฐนั้นการขอใบอนุญาตค้าขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ต้องเป็นพลเมืองอเมริกันหรือมีใบเขียวเท่านั้น อันที่จริงก็ไม่เห็นต้องงงเลย เพราะถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่รู้เห็นเป็นใจคงทำไม่ได้ เรื่องแบบนี้มีเหมือนกันทั่วโลก ซึ่งเอฟบีไอก็รู้..!!

รูดี้ คูร์เนียวาน เริ่มเข้ามาในวงการไวน์ประมาณต้นปี 2006 โดยการใช้เงินเดือนละนับล้านเหรียญซื้อไวน์แพง ๆ และเริ่มธุรกิจซื้อมาขายไปด้วย เน้นที่ไวน์เบอร์กันดีที่หายาก โดยเฉพาะโรมาเน-กงตี (Romanée-Conti) จนได้รับฉายา “ด็อกเตอร์ กงตี” (Dr.Conti) เพราะเขาชื่นชอบไวน์โดเมน เดอ ลา โฮรมาเน กงติ (Domaine de la Romanée-Conti) สุดยอดไวน์แพงของโลกจากเบอร์กันดีนั่นเอง

 

      รูปตอนหนุ่มของรูดี้

หลังจากนั้นเขาพยายามสร้างภาพและแผ่บารมีเข้าไปในแวดวงไวน์ ทั้งในแคลิฟอร์เนีย นิวยอร์ก และฝรั่งเศส จนทุกคนเชื่อถือทั้งในและต่างประเทศ โดยไม่ระแคะระคายแม้แต่น้อยเลยว่าเขาคือมิจฉาชีพตัวแสบ

ปี 2007 เขาจัดงานวันเกิดครบรอบ 60 ปีให้แม่ ด้วยการปิดร้านอาหารที่ซานตาโมนิก้า หนึ่งในแขกผู้ได้รับเชิญคือเฉินหลง หรือแจ๊คกี้ ชาน โดยมีภาพเฉินหลงขึ้นไปยืนบนเก้าอี้ พร้อมยกขวดไวน์ชาโต เปตรุส (Château Pétrus) ขนาด 4.5 ลิตรชูขึ้นพร้อมตะโกนว่า.."รูดี้...นายสุดยอดมาก!"

 

      Lamborghini ของรูดี้ถูกขายทอดตลาด

อย่างไรก็ตามคนที่ทำอะไรไม่บริสุทธิ์มักหลงระเริงตัวเอง คิดว่าไม่มีใครู้ จุดพลาดของเขาเกิดขึ้นในวันที่ 25 เมษายน 2008 บริษัทประมูลไวน์เก่าแก่ Acker Merrall & Condit ได้เปิดประมูลไวน์ในนิวยอร์ก มีไวน์ระดับสุดยอดของโลกจากเบอร์กันดีให้ประมูล เช่น โดเมน อาร์มานด์ ฮรูสโซ (Domaine Armand Rousseau), โดเมน จอร์จส์ ฮรูมิเยร์ (Domaine Georges Roumier) และ โดเมน ปงโซต์ (Domaine Ponsot) จำนวน 268 ขวด ปรากฏว่าไวน์ทั้งหมดมาจากเซลลาร์ของรูดี้

 

     จุกคอร์กไวน์ปลอม

ความแตกเมื่อก่อนการประมูลนาย โลรองต์ ปงโซต์ (Laurent Ponsot) เจ้าของโดเมน ปงโซต์ ที่จะมีไวน์ประมูล 97 ขวด ได้ร้องขอให้ระงับการประมูล เพราะไวน์ที่ฉลากเขียนว่าโดเมน ปงซ์ โคลส์ แซงต์ เดนีส์ ( Domaine Ponsot Clos Saint-Denis) วินเทจ 1945-1971 เป็นไวน์ปลอมแน่นอน เพราะวินเทจ 1945-1971 นั้นเป็นวินเทจที่เขาไม่ได้ผลิต ส่วนอีก 1 ขวดคือ Ponsot Clos de la Roche 1929 ยิ่งปลอมยิ่งกว่าปลอม เพราะไวน์ตัวนี้เริ่มผลิตวินเทจแรกคือ 1934

 

    ไวน์ปลอมกว่า 500 ขวดถูกทุบทิ้ง

ผมรู้จักกับ โลรองต์ ปงโซต์ เจอกันครั้งล่าสุดในงานไวน์ที่ฮ่องกง เขาเล่าให้ฟังว่าในตอนที่เจอรูดี้หลังการขอให้ระงับการประมูลแล้ว พยายามจะเค้นถามรูดี้ว่า เอาไวน์ปลอมพวกนี้มาจากไหน คืออยากรู้ว่าใครเป็นคนปลอม จะได้ไล่ล่าตัวถูก แต่รูดี้ไม่ยอมบอก ได้แต่เพียงเลี่ยง ๆ ว่า ..เนื่องจากเป็น ไวน์เบอร์กันดี ผลิตในจำนวนน้อย ราคาแพง บางครั้งก็อาจจะมีของปลอมรวมเข้ามาด้วย ซึ่งเราก็พยายามทำอย่างดีที่สุดแล้ว...ประมาณนั้น หารู้ไม่คนที่ปลอมคือตัวเขานั่นเอง แสบจริง ๆ  

      ฟอยล์และฉลากไวน์ปลอม

หลังจากมีคดีอื่น ๆ พัวพันอีกมากมายล้วนเป็นเรื่องการขายไวน์ปลอมทั้งสิ้น กระทั่งในวันที่ 8 มีนาคม 2014 เอฟบีไอบุกจับรูดี้ คูร์เนียวาน ถึงในห้องพักที่แอลเอ ทุกคนตกตะลึงกับสิ่งที่ได้เห็น เพราะสภาพภายในห้องคือโรงงานทำไวน์ย่อม ๆ นั่นเอง มีทั้งขวด ครั่ง สี ฉลากไวน์ ทั้งบอร์กโดซ์และเบอร์กันดีหลายพันใบ ชั้นวางไวน์ขนาดยักษ์ที่ปลอมเสร็จแล้วเรียงอยู่จำนวนมาก รวมทั้งไวน์แคลิฟอร์เนียที่เขียนชื่อไวน์ดังของบอร์กโดซ์อีกหลายยี่ห้อเพื่อเตรียมเปลี่ยน ฯลฯ ตอนนั้นเอฟบีไอแถลงว่านี่เป็น อุตสาหกรรมการปลอมไวน์ที่เหนือชั้น และ เป็นการจับตัวการปลอมไวน์ครั้งที่ใหญ่ที่สุด

 

      สื่อมวลชนไปทำข่าวในวันที่ FBI จับรูดี้

เอฟบีไอบอกว่าวิธีการปลอมไวน์ของรูดี้ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะไวน์เบอร์กันดีคือ กว้านซื้อไวน์จากเขตผลิตเดียวกันแต่มีชื่อเสียงน้อยกว่า เอามาใส่ขวดไวน์ที่มีชื่อเสียงในเขตเดียวกัน

รูดี้ คูร์เนียวาน ถูกตัดสินจำคุก 10 ปี ในข้อหาปลอมแปลงไวน์ ค้าขายสินค้าปลอม และคดีอื่นที่เกี่ยวข้องอีกมากมาย โกยเงินจากการปลอมไวน์เข้ากระเป๋าไปนับร้อยล้านเหรียญสหรัฐ 

ในศาลวันนั้นรูดี้ พูดเพียง 3 คำว่า ผมเสียใจ...

    ภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Sour Grapes

เรื่องราวของ รูดี้ คูร์เนียวาน ถูกนำมาสร้างเป็นหนังสารคดีเรื่อง Sour Grapes (2016) หาชมได้ทางสื่อ streaming ระดับ global อย่าง Netflix

เชิญชมกันตามอัธยาศัย แต่ไม่ควรซาบซึ้งถึงขนาดหาไวน์ปลอมมาชิม !!