ทีมที่ 'เวิร์ค' หน้าตาเป็นอย่างไร?
เปิดความจริง 10 ประการของการสร้าง "ทีมเวิร์ค" ทำอย่างไรถึงจะให้ทีมสามารถทำงานร่วมกัน มีจุดมุ่งมายร่วมกัน ภายใต้ความกดดันให้เกิดความไว้วางใจซึ่งกันและกัน
บ่อยครั้งในสภาพแวดล้อมใหม่และบริบทที่ซับซ้อน หลายองค์กรต่างเห็นความจำเป็นต้องสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อรองรับโลกที่เปลี่ยนไป ด้วยเงื่อนไขทางธุรกิจที่ต่างอยู่ภายใต้ความกดดันทั้งด้านเวลา ทรัพยากรและความต้องการที่มากขึ้น ทำให้องค์กรดึงเอาคนเก่งจำนวนหนึ่งที่องค์กรฝากความหวังไว้ ต้องมารวมกันเฉพาะกิจทำงานเคียงข้างเพื่อนร่วมงานที่ไม่เคยพบมาก่อน
ทีมรวมการเฉพาะกิจอาจจะเคยเห็นหน้าเห็นตากันมาบ้าง แต่ก็ได้ทำงานใกล้ชิด ไม่คุ้นเคยสไตล์การทำงานกันมาก่อน คนเก่งแต่ละคนมีความถนัด และความสนใจแตกต่างกัน ซึ่งแน่นอนหากผนึกพลังความต่างกันได้ย่อมนำไปสู่ผลสำเร็จ
มารวมตัวกันแรกๆ ได้รู้จักเพื่อนใหม่ก็สนุกตื่นเต้นดี พอเวลาผ่านไประยะหนึ่ง เมื่อต้องทำงานร่วมกัน ตัดสินใจร่วมกัน เจอปัญหาที่ต้องจัดการร่วมกัน คนเก่งที่ถูกปล่อยให้เวิร์คกันเองก็เริ่มเจอความขัดแย้ง เครียด เหนื่อยล้า
เริ่มหาว่า “ใครผิด” และเกิดคำถามในหัวมากมาย “ทำไมๆๆๆ” จนถึง “ทำไมต้องเป็นเราที่ต้องมาทำภารกิจนี้” บรรยากาศเริ่มไม่สนุกเหมือนตอนรวมตัว สุดท้ายสมาชิกในทีมเริ่มเดินกลับไปหานาย ขอถอนตัวด้วยเหตุผลว่าขอโฟกัสงานประจำให้ดีก่อนและต่างหมดหวังกับการช่วยกันสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น สุดท้ายโครงการใหม่ๆ ที่องค์กรหวังว่าคนเก่งเหล่านี้จะผลักดันให้สำเร็จก็ไปไม่ถึงฝัน
ความจริง 10 ประการของการสร้างทีมที่ “เวิร์ค” กล่าวคือ ทีมที่ทำงานร่วมกัน จุดมุ่งมายร่วมกัน ภายใต้ความกดดันให้เกิดความไว้วางใจซึ่งกันและกัน
1. ทีมจะเวิร์คหรือไม่ ขึ้นกับผู้นำทีม วัฒนธรรม ทัศนคติ ความสัมพันธ์ และการร่วมแรงร่วมใจของลูกทีม
2. หากคุณอยากเป็นหัวหน้าทีมที่ดี จงเริ่มจากการเป็นลูกทีมที่ดีก่อน
3. การเป็นลูกทีมที่ดี เริ่มจาก "คิดบวก” ที่คิดบวกไม่ใช่เพราะโลกมันสวย แต่เพราะรู้ว่างานที่ต้องอาศัยทีมมันไม่ง่ายเหมือนทำคนเดียว จึงต้องเริ่มจากเชื่อมั่นใจตัว เชื่อมั่นในคนอื่น เชื่อมั่นในเป้าหมายร่วมกัน
4. เลิกคิดจะไปเปลี่ยนคนอื่น เพราะขนาดตัวเองยังเปลี่ยนยากเลย ถ้าจะเปลี่ยน ให้เริ่มต้นที่ตัวเองก่อน
5. หากคุณเป็นซูเปอร์สตาร์ จงจำไว้ว่า คุณไม่จำเป็นต้องเป็นซูเปอร์สตาร์ตลอดเวลา บางสถานการณ์คุณอาจเป็นซูเปอร์สตาร์ แต่บางสถานการณ์คุณอาจต้องช่วยให้ลูกทีมคนอื่นได้เป็นซูเปอร์สตาร์
6. หากคุณเป็นซูเปอร์สตาร์ จงจำไว้ว่า ทีมไม่ได้สนที่คุณเป็นซูเปอร์สตาร์ แต่สนว่าคุณทำอะไรให้ทีมในฐานะซูเปอร์สตาร์
7. คนๆ เดียวไม่สามารถสร้างทีมได้ แต่คนๆ เดียวสามารถทำลายทีมได้
8. คนเก่งที่สุด ไม่ได้แปลว่าจะเป็นทีมที่ดีที่สุด และคนเก่งที่สุดสามารถพ่ายแพ้ทีมที่แข็งแกร่งได้
9. ทีมที่แข็งแกร่งไม่ได้แปลว่าสมาชิกทุกคนต้องรักกัน แต่สมาชิกทุกคนต้องมีเป้าหมายร่วมกัน ร่วมแรงร่วมใจเพื่อพาทีมไปสู่ความเป็นเลิศ
10. ทีมยิ่งแข็งแกร่งยิ่งใส่ใจ ใส่ใจต่อเป้าหมาย ใส่ใจต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ใส่ใจต่อเพื่อนร่วมทีม ใส่ใจต่อผลงาน
ผู้นำที่สร้างทีมเวิร์ค จึงไม่ใช่ผู้นำที่ปล่อยให้ทีมไปเวิร์คกันเอง บริษัท สลิงชอท กรุ๊ป จำกัด ศึกษาวิจัยคุณลักษณะของผู้นำองค์กรที่สร้างทีมที่เวิร์คเรียกว่า Synergistic Winner พบว่าผู้นำองค์กรต้องรู้จักวิธีใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ภายในองค์กรให้เกิดประโยชน์ร่วมกันสูงสุด
นอกจากนี้ ยังต้องสร้างความสัมพันธ์ภาพทั้งภายในและภายนอกองค์กร และกระจายอำนาจการตัดสินใจและความเป็นผู้นำในทุกระดับ