เชฟมือหนึ่ง ผู้สร้างตำนาน สตรีทฟู้ดที่จากไป ปี 2564

 

ข้าวต้มบวร โดย เฮียเซี๊ยะ (หรือเสี่ยโข่ง, เสี่ยเซี๊ยะ)

คุณากร สวัสดิ์ธนาโรจน์ ร้านข้าวต้มข้างวัดบวรฯ อันโด่งดัง ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2495 โดยเตี่ยของเฮียเซี๊ยะ เป็นชาวจีนแต้จิ๋วมาจากซัวเถา ยุคแรกเมื่อเกือบ 70 ปีก่อนนั้นขายข้าวต้มถ้วยละ 20 สตางค์ พร้อมกับข้าวสารพัดอย่าง ลูกค้าก็คือชาวบางลำพูที่มากินข้าวต้มเป็นอาหารเย็นเพราะร้านเปิดสี่โมงเย็น

    เป็ดพะโล้ ร้าน ข้าวต้มบวร (ขอบคุณภาพจาก FB: ข้าวต้มบวร)

      ผักบุ้งไฟแดง

    เฮียเซี๊ยะ (ภาพจาก FB: ข้าวต้มบวร)

ร้าน “ข้าวต้มพุ้ย” ที่ถือว่าเป็นเจ้าแรกของ วัฒนธรรมสตรีทฟู้ด ในยุคที่คำนี้ยังไม่เกิดขึ้น อาหารที่ถูกใจนักกินตอนดึก อีกอย่างสมัยก่อนย่านบางลำพู มีไนต์คลับและสถานที่เที่ยวกลางคืน จึงเป็นที่ฝากท้องก่อนกลับบ้าน และเป็นต้นกำเนิดของ ผักบุ้งไฟแดง จนตอนนี้ใครไปกินข้าวต้มรอบดึกก็ต้องสั่งเมนูนี้ ผักบุ้งผัดร้อน ๆ ไฟทะลุ ผักสดกรอบเค็ม ๆ มัน ๆ เข้ากันดีกับข้าวต้มร้อน ๆ ยังมีเมนูน่ากินอีกหลากหลาย เช่น เป็ดพะโล้ คากิพะโล้ กุ้งอบเกลือ ปูดอง ผัดผักชนิดต่าง ๆ หมูแผ่นทอด หมูกรอบ ต้มมะระ ต้มฟักน่องไก่ จับฉ่าย หมูสับนึ่งไข่เค็ม ไช้โป๊วผัดไข่ ผัดหอยลาย ผัดใบปอ ยำไข่เค็ม ยำกุนเชียง ฯลฯ

   คากิพะโล้ (ภาพ FB: ข้าวต้มบวร)

แม้ยุคนี้ ย่านบางลำพูไม่ใช่แหล่งเที่ยวกลางคืนแบบยุคก่อน แต่ลูกค้าก็มักแวะเวียนไปกิน “ข้าวต้มพุ้ย” กับกับข้าวปรุงสด บริการเป็นกันเอง ราคาย่อมเยา น่าเสียดายที่ เฮียเซี๊ยะ จากโลกนี้ไปด้วยโควิด-19  โดยเมื่อวันที่ 20 ก.ค.64 ผู้ใช้เฟซบุ๊ค  Apirat Jayankura Na Ayudhya (อภิรัตน์ ชยางกูร ณ อยุธยา) เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารโครงการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้แจ้งข่าวเศร้าการจากไปของ “เสี่ยเซี๊ยะ”  หรือ “เฮียเซี๊ยะ”  คุณากร สวัสดิ์ธนาโรจน์ เถ้าแก่เจ้าของร้านข้าวต้มวัดบวร ซึ่งเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 จากนั้นก็มีลูกค้าและแฟนร้านข้าวต้มบวร เข้าไปแสดงความเสียใจกล่าวไว้อาลัยแก่เฮียเซี๊ยะ

    ผัดหอยลาย (ภาพ FB: ข้าวต้มบวร)

ปัจจุบัน ร้านข้าวต้มวัดบวร ตรงข้ามวัดบวรนิเวศน์วิหาร ยังเปิดกิจการโดยลูกหลาน เป็นหนึ่งในเส้นทางสายกินของผู้ชอบอาหาร สตรีทฟู้ด ปกติเปิดเวลา 17.00 – 03.00 น. (เช็คเวลาเปิด-ปิดตามมาตรการของภาครัฐ) สอบถามที่ FB: ข้าวต้มบวร (โทร.0 2629 1739)

 

    เย็นตาโฟหม้อไฟ ร้าน เจ๊จุกเย็นตาโฟปากน้ำ (ภาพ FB: เจ๊จุกเย็นตาโฟปากน้ำ)

เจ๊จุก เย็นตาโฟปากน้ำ

เป็นร้านดังในสมุทรปราการ เปิดมานานกว่า 30 ปี โดย เจ๊จุก - บุญสี ซื่อตรง ชาวจังหวัดสมุทรปราการ เปิดร้านขาย ข้าวขาหมู, ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ ได้รับความนิยม มีลูกค้าแวะเวียนมากินไม่ขาด

ต่อมาขยายร้านออกเป็นสองสาขา และเพิ่มเมนูอาหารหลากหลายขึ้น เช่น ขนมจีบ, อาหารจานเดียว, ส้มตำ, อาหารอีสาน ฯลฯ แต่เมนูเด่นคงเป็น เย็นตาโฟหม้อไฟ ใส่เครื่องแน่น ข้าวขาหมูไข่ต้มยางมะตูม ขนมจีบ และลูกชิ้นปิ้ง เมื่อเกิดสถานการณ์โควิด ร้านเจ๊จุก ก็เปิดบริการเดลิเวอรี่และเทคโฮม

    เจ๊จุก (ภาพ FB: เจ๊จุกเย็นตาโฟปากน้ำ)

เมื่อวันที่ 8 พ.ค. เฟซบุ๊คชื่อ Wariyada Plubnim ซึ่งเป็นหลานของคุณยายจุก ได้โพสต์ข้อความไว้อาลัยต่อการจากไปของคุณยายจุก ด้วยอาการติดเชื้อที่ปอดจากโควิด-19 ซึ่งเสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังข้อความนี้มีลูกค้าหลายคนเข้าไปแสดงความเสียใจต่อการจากไป หลายคนบอกว่าเจ๊จุก เป็นคนใจดี บางทีก็ให้เกี๊ยวกรอบมากินฟรี บางคนบอกว่าเป็นลูกค้าตั้งแต่เรียนหนังสือ จนตอนนี้ทำงานแล้วก็ยังแวะเวียนไปกินเย็นตาโฟร้านเจ๊จุกอยู่บ่อย ๆ

    ข้าวขาหมู (ภาพ FB: เจ๊จุกเย็นตาโฟปากน้ำ)

    เกี๊ยวกรอบร้านเจ๊จุก

เจ๊จุก เสียชีวิตในวัย 69 ปี จากการติดเชื้อโควิด-19 เมื่อกลางเดือนเมษายน แรกเริ่มนั้นเจ๊จุก พร้อมลูกหลานในครอบครัวราว 7-8 คน พบว่าติดเชื้อโควิดและเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ แต่สำหรับเจ๊จุกตรวจไม่พบเชื้อ (วันที่ 23 เม.ย.) ต่อมาวันที่ 29 เม.ย. เจ๊จุก มีอาการไอและหายใจไม่สะดวก ลูกหลานจึงได้ส่งตัวไปตรวจซ้ำที่โรงพยาบาลสมุทรปราการเป็นรอบที่สอง วันที่ 30 เม.ย. โรงพยาบาลโทรแจ้งผลตรวจว่า เจ๊จุก ติดเชื้อโควิด-19 และส่งรถโรงพยาบาลมารับตัวไปรักษา แต่เมื่อผ่านไป 2-3 วัน เชื้อลงปอดทำให้เสียชีวิต

ร้านเย็นตาโฟ เจ๊จุก ยังคงเปิดขายโดยลูก ๆ หลาน ๆ (สาขา 1 ตรงข้ามศาลเจ้าพ่อหลักเมือง, สาขา 2 ถ.นารายณ์ปราบศึก) สอบถามที่ FB: เจ๊จุกเย็นตาโฟปากน้ำ @jaejookyentafopaknam โทร.09 4331 4928

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

     อาม่าสี่ (เจ๊สี่) ร้าน จี่เซ่งเฮง เป็ดพะโล้เยาวราช (ภาพจาก FB: เป็ดพะโล้เยาวราช ร้านจี่เซ่งเฮง)

 

จี่เซ่งเฮง เป็ดพะโล้เยาวราช

ร้านเป็ดพะโล้สูตรแต้จิ๋ว ตลาดเก่าเยาวราช จากรุ่นอากงสมัยเข้ามาตั้งรกรากในชุมชนตลาดเก่า ‘เล่งบ๊วยเอี๊ยะ’ พร้อมนำเป็ดพะโล้แสนอร่อยมาจากเมืองจีน สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ปัจจุบันคือรุ่นที่ 4 และผู้สืบทอดมรดกความอร่อย ความสุขและรอยยิ้มที่ได้ชิมเป็ดพะโล้สูตรเด็ดคือ ‘เจ๊สี่’ หรือที่ทุกๆ คนเรียกกันติดปากว่า “อาม่า” หรือ “อาม่าสี่”

กิจการเป็ดพะโล้ “จี่เซ่งเฮง” ไม่มีหน้าร้านนั่งกินมาแต่ไหนแต่ไร เพราะอากงต้ม เป็ดพะโล้สูตรแต้จิ๋ว ไก่ต้ม หมูสามชั้นต้ม เพื่อขายเป็น “ชุดไหว้เจ้า” ขายดิบขายดี หลังๆ ต้องสั่งจองกันล่วงหน้า สืบทอดจนมาถึง “อาม่าสี่”

เป็ดพะโล้จี่เซ่งเฮงมีชื่อเสียงเลื่องลือตรงความนุ่มของเนื้อเป็ดและกลิ่นหอมตามแบบฉบับต้นตำรับสูตรเป็ดพะโล้แต้จิ๋ว สีสวยน่ากิน ไม่มีกลิ่นสาบ เป็ดตัวใหญ่ เนื้อไม่มัน เนื้อแน่น จัดเต็มเครื่องยาจีน อาทิ อบเชย กุ้ยพวย พริกหอม พริกเสฉวน เต็งเฮีย  ชวงเจีย หล่อฮังก้วย น้ำมันงา ฯลฯ รสชาติเค็มๆ หวานๆ หอมหวานเค็มกำลังดี

อาม่าสี่ ต้มเป็ดสดใหม่ทุกวัน ขายวันต่อวันเท่านั้น เพื่อคงความอร่อย สะอาดสดใหม่ โดยเลือกใช้เป็ดน้ำหนักหลังจากนำเครื่องในออกหมดแล้ว 2 กิโลกรัมขึ้นไปเล็กน้อย ใส่เกลือไว้ในท้องเป็ดเพื่อดับกลิ่นคาว ทาเกลือให้ทั่วตัวเป็ดอีกครั้งแล้วจึงต้มพร้อมถุงเครื่องยาจีนที่เตรียมไว้

การต้มเป็ดพะโล้คืออีกหนึ่งเคล็ดลับสำคัญที่สืบทอดจากอากงสู่อาม่าสี่ ต้องสังเกตขนาดเป็ด ควบคุมความแรงของไฟที่ใช้ต้มพะโล้ ระดับความสุกของเป็ด ต้องสุกพอดีเนื้อเป็ดจึงจะนุ่ม สุกเกินไปเนื้อเป็ดนุ่มก็จริง แต่ความหวานของเนื้อเป็ดจะถ่ายเทออกไปอยู่ในน้ำพะโล้จนหมด

อีกหนึ่งของอร่อยสูตรเด็ดของ ‘จี่เซ่งเฮง’ คือ เป็ดพะโล้ทอด ลูกค้าส่วนใหญ่เข้าใจว่า เป็ดที่นำมาทอดคือเป็ดที่ต้มเสร็จแล้วนำมาทอดเลย แต่ความจริง ‘อาม่าสี่’ เมื่อ ต้มเป็ดเสร็จแล้วต้องนำเป็ดต้มมาสับแล้วหมักอีกรอบเพื่อให้รสชาติอร่อยเข้มข้นและหอมกลิ่นเครื่องเทศมากยิ่งขึ้น ให้สมกับเป็นเมนูเป็ดทอดสูตรเด็ดของอาม่า เวลาทอดเป็ด เสียงทอดฟู่ฟ่ามาก ทอดในน้ำมันเป็ด ยิ่งทำให้กลิ่นหอม ทอดเสร็จแล้วเนื้อเป็ดทอดนุ่ม่ไม่เหนียว สีสันน่ารับประทาน เห็นแล้วท้องร้องหนักมาก

อีกหนึ่งความเด็ดของ ‘จี่เซ่งเฮง’ คือ น้ำจิ้ม ที่มีสามสูตรด้วยกัน คือ น้ำจิ้มพริกแดง น้ำจิ้มเต้าเจี้ยว น้ำจิ้มซีฟู้ด

วงการอาหารอร่อยเมืองไทยสูญเสียครั้งใหญ่เมื่อ อาม่าสี่ หรือคุณ ลัดดา แซ่ตั้ง ต้องจากไปก่อนวัยอันควรด้วยโรคโควิด-19 ‘เฟซบุ๊กเป็ดพะโล้ เยาวราช ร้านจี่เซ่งเฮง’ โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2564 ความว่า

“กราบเรียนลูกค้าที่รักของอาม่า สืบเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา อาม่ามีอาการไอและเวียนหัว ทางครอบครัวจึงตัดสินใจพาอาม่าส่งโรงพยาบาลตรวจร่างกาย ผลจากแพทย์แจ้งว่า อาม่าได้รับเชื้อ Covid-19 จึงได้กักตัว โดยอยู่ในความดูแลของแพทย์และพยาบาล และในวันนี้ทางแพทย์แจ้งว่า อาม่าอาการทรุดหนัก จำเป็นต้องย้ายไปทำการรักษาที่ห้องไอซียู อีกทั้งต้องการพลาสมาจำนวนมาก”

     เป็ดพะโล้ (ภาพ FB: เป็ดพะโล้เยาวราช ร้านจี่เซ่งเฮง)

จากนั้นวันรุ่งขึ้น 1 พฤษภาคม ก็ได้โพสต์แจ้งข่าวการจากไปของ ‘อาม่าสี่’ ว่า “ขอขอบคุณลูกค้าอาม่าทุกคนที่เป็นห่วงและช่วยแชร์ ตอนนี้อาม่าเสียแล้วค่ะ” และโพสต์อีกครั้งเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมแจ้งว่า ‘อาม่าสี่’ เสียชีวิตจากการติดโควิด-19 จากพี่สาวซึ่งเสียชีวิตไปก่อนหน้าไม่นาน

ความอร่อยของ “จี่เซ่งเฮง เป็ดพะโล้เยาวราช” ยังคงได้รับสืบทอดต่อโดยทายาท สอบถามที่ FB: เป็ดพะโล้เยาวราช ร้านจี่เซ่งเฮง

    เย็นตาโฟ ร้าน เย็นตาโฟฮ่องเต้ ศรีย่าน (ขอบคุณภาพจาก FB : เย็นตาโฟฮ่องเต้ ศรีย่าน)

เฮียติ๊กอู๋ เย็นตาโฟฮ่องเต้ ศรีย่าน 

เย็นตาโฟฮ่องเต้ หนึ่งในที่สุดของตำนานร้านเย็นตาโฟเจ้าอร่อยของกรุงเทพฯ ปักหลักที่ ‘ตลาดศรีย่าน’ มาไม่ต่ำกว่า 50 ปี กล่าวได้ว่าคอก๋วยเตี๋ยวถ้าตั้งใจไปกินก๋วยเตี๋ยวศรีย่าน ก็ต้องนึกถึงเย็นตาโฟร้านนี้เป็นอันดับต้น ๆ เรียกกันว่าเย็นตาโฟศรีย่าน

เอกลักษณ์ของ “เย็นตาโฟฮ่องเต้” คือใส่เครื่องก๋วยเตี๋ยวมาแน่นจนแทบจะล้นชาม เนื่องจากหั่นชิ้นใหญ่มาก ตามความตั้งใจของ เฮียติ๊กอู๋ ผู้ก่อตั้งร้าน ที่ตั้งใจหั่นเครื่องก๋วยเตี๋ยวชิ้นใหญ่ให้ดูเหมือนเป็นอาหารสำหรับ ‘ฮ่องเต้’ และเป็นที่มาของชื่อร้าน ‘เย็นตาโฟฮ่องเต้’

    เมนูร้านเย็นตาโฟฮ่องเต้ ศรีย่าน

ในชามมีทั้งลูกชิ้นปลา ฮื่อก้วย เกี๊ยวปลา หมึกกรอบ  เลือด เกี๊ยวกรอบ โดยเฉพาะเครื่องก๋วยเตี๋ยวซิกเนเจอร์ของร้าน คือ ลูกชิ้นหมูทอดกรอบ หมูสับปรุงรสเองทอดเอง ลูกโต-กรอบนอกนุ่มในมีรสพริกไทยติดปลายลิ้นได้ใจ และที่เป็นสุดยอดซิกเนเจอร์ ไส้หมูยัดไส้ ไส้หมูล้างสะอาดอย่างดี ไม่มีกลิ่นคาว ยัดไส้ด้วยหมูสับผสมไข่ปรุงรสแล้วนำไปนึ่งให้สุก กินแล้วนุ่มคล้ายไข่ตุ๋น

ทั้ง ‘ลูกชิ้นหมูทอดกรอบ’ กับ ‘ไส้หมูยัดไส้นึ่ง’ เป็นเครื่องก๋วยเตี๋ยวทีเด็ดมากๆ มีคนชอบถึงขนาดที่ทางร้านต้องจัดใส่จานให้สั่งเพิ่มต่างหาก เพราะกินเป็นเครื่องก๋วยเตี๋ยวก็อร่อย แยกกินจิ้มกับน้ำจิ้มสูตรเฉพาะของทางร้านเป็นของกินเล่นก็แซ่บ

     ลูกชิ้นหมูทอดกรอบ, ไส้หมูยัดไส้นึ่ง (ภาพ FB: เย็นตาโฟฮ่องเต้ ศรีย่าน)

น้ำก๋วยเตี๋ยวเป็น น้ำซุปจีน แบบ ‘เช็งเช็ง’ ใครชอบกินแบบไม่ปรุงรสก็จะได้กลิ่นหอมและรสชาติน้ำซุปกลมกล่อมคลาสสิก ส่วน ซอสเต้าหู้ยี้ สำหรับทำเย็นตาโฟ ปรุงรสเข้มข้นแต่ไม่เผ็ด ไม่ต้องใส่เครื่องปรุงก็ได้ แต่ใครชอบกินรสอะไรนำรสอะไรตามก็เติมเครื่องปรุงกันได้ตามสะดวก ถ้าสั่งต้มยำ ทางร้านปรุงรสให้เผ็ดพอประมาณ ไม่เผ็ดมาก คนชอบเผ็ดเติมพริกได้เองตามชอบ

เฮียติ๊กอู๋ จากไปด้วยโรคโควิด-19 โดยเฟซบุ๊กเย็นตาโฟฮ่องเต้ ศรีย่าน โพสต์ข้อความเมื่อวันพุธที่ 21 กรกฎาคม 2564 ว่า

“ทางร้านขอขอบคุณทุกกำลังใจจากทุกท่านเรื่องการจากไปของอากง อากงได้จากไปด้วยโรคโควิด-19 อากงเป็นผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งอากงได้ติดเชื้อจากผู้ดูแล หลังจากตรวจพบเชื้อ อากงได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่เนื่องจากเป็นผู้สูงอายุ เชื้อจึงลงปอดเร็วและได้จากไปอย่างสงบ”

     เฮียติ๊กอู๋ (ขอบคุณภาพจาก FB: เย็นตาโฟฮ่องเต้ ศรีย่าน)

เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน (ก.ค.2564) และร้านอยู่ในจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม เพื่อความปลอดภัยของลูกค้าทุกท่าน ร้าน เย็นตาโฟฮ่องเต้ จึงให้พนักงานทุกคนทยอยตรวจโควิดด้วยวิธี RT-PCR โดยผลของพนักงานออกมาไม่พบเชื้อโควิด-19 ทางร้านยังได้ทำการฆ่าเชื้อภายในร้านเพื่อความปลอดภัยอีกทางหนึ่ง ทางร้านขออนุญาตปิดร้านเพิ่มเติม

ส่วนวันเปิดที่แน่นอน ทางร้านจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าทางเพจอีกครั้ง ดูที่ FB: เย็นตาโฟฮ่องเต้ ศรีย่าน

 

    เฮียอ้วน แห่ง ก๋วยจั๊บอ้วนโภชนา สตรีทฟู้ดเจ้าดังแห่งเยาวราช

ก๋วยจั๊บอ้วนโภชนาเยาวราช

ก๋วยจั๊บอ้วนโภชนาเป็น “ก๋วยจั๊บน้ำใส” เส้นเหนียวนุ่มกำลังดีไม่เหมือนใคร โดดเด่นที่น้ำซุปรสกลมกล่อมหอมกรุ่นเผ็ดร้อนไปด้วยพริกไทย เป็นร้านก๋วยจั๊บน้ำใสในตำนาน  เคียงคู่โรงหนังไชน่าทาวน์รามา มานานกว่า 50 ปี  บอกเลยว่า “ก๋วยจั๊บ” ร้านนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรสชาติเผ็ดร้อน

เนื่องจากเฮียอ้วน ใส่พริกไทยตรามือแบบทุ่มสุดตัว แค่เดินผ่านหน้าร้านก็ได้กลิ่นพริกไทยโชยมากับน้ำซุป ไม่ต้องพูดถึงว่า ถ้าได้ซดน้ำซุปจะสะใจเพียงใด เรียกได้ว่า ซดคำแรกคอจมูกโล่งโปร่งสบายกันเลยทีเดียว สำหรับเครื่องที่ใส่ลงไปใน “ก๋วยจั๊บ” ไม่ว่าจะเป็น กระเพาะหมู ตับ ปอด ต้มจนเปื่อยนุ่ม ไม่มีกลิ่นคาว คาดว่าทางร้านมีเคล็ดลับในการล้างให้สะอาด  ความพิเศษที่สั่งได้ก็คือ “ก๋วยจั๊บใส่ไข่ต้ม”  เคี้ยวกับปาท่องโก๋จิ๋วกรุบกรอบ ร้านนี้ได้รางวัล ‘Michelin Bib gourmand ปี 2019’ และเป็น สตรีทฟู้ด เจ้าดังแห่งเยาวราช 

เฮียอ้วน เจ้าของตำนานก๋วยจั๊บน้ำใส เสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา ด้วยการติดเชื้อโควิด-19 ทั้งๆ ที่ฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าแล้ว 1 เข็ม เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา 

    ก๋วยจั๊บน้ำใสรสเผ็ดร้อน ร้าน ก๋วยจั๊บอ้วนโภชนา

ก๋วยจั๊บอ้วนโภชนา พร้อมเปิดบริการอีกครั้งโดย “เฮียตี๋” ลูกชาย ณ ที่เดิม หน้าโรงหนังไชน่าทาวน์รามา ถ. เยาวราช เปิด. 18.00-03.00 น. โทร.08 2693 2329

 

    ขาหมู ร้าน ขาหมูเฮียตึ๋ง ร้านเจริญแสงสีลม (ขอบคุณภาพจาก ม.ล.ภาสันต์ สวัสดิวัตน์)

ขาหมูเฮียตึ๋ง ร้านเจริญแสงสีลม  

เมื่อทราบข่าวการเสียชีวิตของ “เฮียตึ๋ง” - บัญชา บรรเจิดประยูร จากการระบาดของโควิด-19 รู้สึกเศร้าใจเป็นยิ่งนัก เนื่องจาก "เฮียตึ๋ง" เป็นทายาทรุ่นที่ 2 ของร้านขาหมูชื่อดังระดับตำนาน ขายมาไม่ต่ำกว่า 60 ปี ( พ.ศ.2502) แม้ว่าขณะที่มีชีวิตอยู่ เขามีทายาทรุ่นที่ 3 ก็คือ ลูกสาวมาช่วยสานต่อ ทว่าเฮียตึ๋งยังไม่วางมือเสียทีเดียว มาคอยช่วยกำลับดูแลการผลิต และธุรกิจอยู่เสมอ

     หน้าร้านขาหมูพะโล้ เจริญแสงสีลม

ผู้ที่ชื่นชอบ ขาหมูพะโล้ ไม่มีใครไม่รู้จักร้าน เจริญแสงสีลม เดิมเปิดเป็นเพิงตรงตรอกข้างสีลมสโตร์ ใกล้โรงพยาบาลเลิดสิน ร้านนี้จึงเป็นที่รู้จักกันในอีกนามหนึ่งก็คือ “ขาหมูเลิดสิน”แรกต่อมาย้ายมาขายในตึกแถว ตรงข้ามสเตททาวเวอร์ (State Tower) ได้ใบรับรองจากเชลล์ชวนชิมเมื่อปี พศ. 2511 ทำให้ยิ่งเป็นที่รู้จักในตอนนั้น และเมื่อไม่นานนี้ คศ.2018 ทางร้านได้รับรางวัล “บิบกูร์มองด์” (Bib Gourmand) จากมิชลิน ถือว่าเป็นร้านอาหารที่อร่อยคุ้มค่าราคาย่อมเยา อีกด้วย

จุดเด่นของ “ขาหมูพะโล้” ร้านนี้ก็คือ  มีขาหมูหลากหลายชิ้นส่วนพร้อมเครื่องในหมูสารพัดชนิด ทว่าขายเป็นชุด ไม่ใช่อาหารจานเดียว “ข้าวขาหมู”  ทว่าเราต้องสั่งเป็นชุด และข้าวเปล่าแยกต่างหาก เช่น “เนื้อ-หนัง” หรือ “คากิ”  และ “เครื่องใน” ซึ่งจะมีทั้ง ตับ ไส้ ลิ้น หัวใจ รสชาติของ “ขาหมูพะโล้” ร้านนี้จัดจ้าน เค็มนำหวานตาม กลิ่นเครื่องพะโล้ไม่รุนแรงมาก รับประทานกับ “น้ำส้มพริกเหลืองตำ” เข้ากันเป็นยิ่งนัก

หม่อมหลวงภาสันต์ สวัสดิวัตน์ ได้โพสต์อาลัยการจากไปของเฮียตึ๋งในเพจ “ภาสันต์ สวัสดิวัตน์” ว่า

 เฮียตึ๋ง เถ่าชิ่วแห่งร้านขาหมู "เจริญแสงสีลม" (ภาพ : ม.ล.ภาสันต์ สวัสดิวัตน์)

ร้านขาหมู “เจริญแสงสีลม” ปัจจุบันดูแลโดยทายาทรุ่นที่ 3  เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา  07.30-13.00 น. ร้านอยู่ในซอยตรงข้ามสเตททาวเวอร์ ถนนสีลม บางรัก กรุงเทพฯ 10500 (เข้าซอยเจริญกรุง 49 ก็ได้) โทร.0 2234 4602,  0 2234 8036

 

     ก๋วยเตี๋ยวเรือป๋ายักษ์ (ภาพ FB: ก๋วยเตี๋ยวเรือป๋ายักษ์ อนุสาวรีย์ชัยฯ)

ป๋ายักษ์ ก๋วยเตี๋ยวเรืออนุสาวรีย์ชัยฯ

สำหรับคนที่ชอบกิน ก๋วยเตี๋ยวเรือ ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิมีให้เลือกหลายร้าน อาทิ ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือพระนคร ร้านก๋วยเตี๋ยวเรืออนงค์ บ้านก๋วยเตี๋ยวเรือทอง และป๋ายักษ์

ทุกร้านที่กล่าวมาจะเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือชามเล็ก ๆ คีบไม่กี่คำก็หมดชาม ส่วนใหญ่มีให้เลือกทั้งก๋วยเตี๋ยวหมูและเนื้อ ส่วนร้าน ป๋ายักษ์ก๋วยเตี๋ยวเรือ เป็นร้านหนึ่งที่ได้รับความนิยม เปิดบริการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 เปิดมากว่า 40 ปี ขายตั้งแต่ชามละ 2 บาท จากนั้นค่อย ๆ ขยับขึ้น ปัจจุบันราคาชามละ 12 บาท

ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2564 อำนาจ นนทภักดี หรือ ป๋ายักษ์ เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเรือระดับตำนาน ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เสียชีวิตด้วยโรคโควิด ปัจจุบันร้านอาหารแห่งนี้อยู่ในความดูแลของ ศิริวรรณ นนทภักดี ทายาทรุ่นที่สอง

     ป๋ายักษ์ (ภาพ FB: ก๋วยเตี๋ยวเรือป่ายักษ์ อนุสาวรีย์ชัยฯ)

ป๋ายักษ์ ผู้สร้างตำนานก๋วยเตี๋ยวเรือ จัดเป็นร้านแรก ๆ ที่เปิดบริการในห้องกระจกมีเครื่องปรับอากาศ เมื่อสั่งก๋วยเตี๋ยวแล้วนั่งรอไม่นาน เพราะบริการอย่างรวดเร็ว จะกินกี่ชามควรสั่งรวดเดียว นอกจากนี้ยังสั่งกากหมูและเกี๊ยวทอดเพิ่มได้

ส่วนใหญ่เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ มักจะช่วงชิงลูกค้าด้วยรสชาติที่จัดจ้าน อร่อยจนต้องกินชามที่ 2 และ 3...เพราะชามเล็กมาก  ซึ่ง ร้านนี้มีเสน่ห์ที่รสชาติถูกปากลูกค้า เพราะเครื่องปรุงทำเองเกือบทุกอย่าง

ป๋ายักษ์ ก๋วยเตี๋ยวเรืออนุสาวรีย์ ยังไม่เปิดบริการในช่วงล็อกดาวน์ สอบถามเพิ่มเติมที่ FB: ก๋วยเตี๋ยวเรือป๋ายักษ์ อนุสาวรีย์ชัยฯ โทร.08 9921 3378 และ 08 5227 7955