‘เนื้อออสซี่’ ฝีมือ ‘เชฟแพม-พิชญา อุทารธรรม’
"เชฟแพม-พิชญา อุทารธรรม" แบรนด์แอมบาสเดอร์ True Aussie Beef ประจำประเทศไทย งานนี้คนรักเนื้อ ต้องหลงเสน่ห์ “เนื้อออสซี่” พร้อมทั้งแนะนำเมนูยั่วน้ำลายสูตรเด็ด ทำได้ง่ายๆที่บ้าน
ก่อนแนะนำเมนูยั่วน้ำลาย สูตรเด็ดจาก เชฟแพม-พิชญา อุทารธรรม มาดูว่าทำไม เนื้อออสซี่ จึงเป็น เนื้อวัวออสเตรเลีย ที่ได้รับการยอมรับจากบรรดาเชฟ และนักชิมอาหารทั่วโลก เป็นเพราะคุณสมบัติเนื้อที่มีไขมันต่ำ แถมยังมีความชุ่มฉ่ำ เนื้อสัมผัสนุ่มนวล ทว่ารสชาติกลับเข้มข้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งความลับที่ทำให้เนื้อวัวออสเตรเลีย มีรสเลิศ เกิดจากการเลี้ยงดูวัวในสภาพแวดล้อมธรรมชาติที่ดีทุ่งหญ้าอุดมสมบูรณ์ อากาศบริสุทธิ์ ผสานกับมรดกทางภูมิปัญญาที่ตกทอดกันมารุ่นสู่รุ่นในกระบวนการทำฟาร์มปศุสัตว์บนแนวคิดยั่งยืน โดยใช้ผ่านกระบวนการแปรรูปเนื้อวัวให้น้อยที่สุดและปราศจากการเติมสารปรุงแต่งใด ๆ ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์เนื้อวัวที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวและรสเข้มข้นตามธรรมชาติ
ทั้งหมดนี้ก็คือมรดกทางภูมิปัญญาในการทำฟาร์มปศุสัตว์ของออสเตรเลีย เพื่อการผลิตเนื้อวัวมีคุณภาพดี และปลอดภัย ให้แก่นักชิมทั่วโลกได้สัมผัส ทำให้ออสเตรเลียกลายเป็นแหล่งผลิตเนื้อวัวเกรดพรีเมียมในอุดมคติ โดย Meat & Livestock Australia (MLA) องค์กรซึ่งก่อตั้งโดยกลุ่มผู้ผลิต ได้ดำเนินการวิจัยและพัฒนา รวมถึงทำการตลาดเพื่อสร้างความสำเร็จระยะยาวแก่อุตสาหกรรมเนื้อแดงออสเตรเลีย MLA ยังทำหน้าที่นำเสนอสาระข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อแดงออสเตรเลีย เพื่อให้ผู้บริโภคและเชฟทั่วโลกมีความเข้าใจที่มากยิ่งขึ้นถึงองค์ประกอบที่ทำให้เนื้อออสเตรเลียกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมไปทั่วโลกอีกด้วย
เชฟแพม-พิชญา อุทารธรรม แบรนด์แอมบาสเดอร์ True Aussie Beef ประจำประเทศไทย สาธิตวิธีการปรุง “เนื้อออสซี่” ให้อร่อยผ่านทาง แอพริเคชั่น Zoom พร้อมกับส่งอาหารมาให้ชิมฝีมือถึงบ้าน “หมูหวาน” ได้ชิม 3 เมนูก็คือ True Aussie Carpaccio ,Yuzu, Musclun Salad (Wagyu Topside MB) ถัดมาเป็นเมนู True Aussie Beef Sando, House Mustard Mayo,Chilli,Sauce,House Kyototsu Sauce (Oyster Blade MB 6/7) ใครชอบเนื้อเปื่อย คงต้องกดไลค์เมนูนี้ Slow Smoked True Aussie Beef Ribs , Grilled Vegetables, Mash Potatoes ,Beef.Jus (Beef Ribs MB) ซึ่งหมูหวานชอบเมนูนี้มาก
เชฟแพมกล่าวถึงเมนู Beef Sando, House Mustard Mayo, Chili Sauce, House Kyokotsu Sauce ว่าใช้เนื้อส่วนใบพาย (Oyster Blade) MB 6/7* เป็นวัตถุดิบ โดยเนื้อใบพายคือกล้ามเนื้อที่อยู่ข้างใต้หัวไหล่ของวัว ซึ่งต้องใช้ส่วนนี้เพราะเมื่อปรุงแล้ว เนื้อเยื่อเกี่ยวพันจะละลายคอลลาเจนเข้าไปในเนื้อ ทำให้เนื้อย่างมีรสชาติหอมเข้มข้นและนุ่ม เนื้อส่วนใบพายยังสามารถนำมาหั่นทอดในกระทะเพื่อปรุงเป็นสเต็กหรือหั่นเป็นลูกเต๋าแล้วตุ๋นโดยใช้เวลานานได้
หลายคนอาจสงสัยว่า เนื้อ MB คืออะไร ? MB (Marbling) คือระดับชั้นไขมันลายหินอ่อนที่แทรกในชั้นกล้ามเนื้อของวัวตามธรรมชาติ ซึ่งชั้นไขมันลายหินอ่อนจะช่วยเพิ่มความชื้นและรสชาติให้กับเนื้อวัว เมื่อปรุงแล้วจะช่วยให้เนื้อมีความชุ่มฉ่ำมากยิ่งขึ้น ยิ่งเนื้อวัวเกรดสูงจะยิ่งมีชั้นไขมันลายหินอ่อนแทรกตัวอยู่หนาแน่นมาก เนื้อจากออสเตรเลียจะถูกแบ่งเกรดจากระบบการประเมินชั้นไขมันลายหินอ่อนโดย AUS-MEAT ตั้งแต่ระดับ 0 (ปราศจากชั้นไขมันลายหินอ่อนที่มองเห็นได้) ไปจนถึงระดับ 9 (ปรากฏชั้นไขมันลายหินอ่อนหนาแน่น) หากเราใช้เนื้อที่มีชั้นไขมันลายหินอ่อนมากปรุงอาหาร ก็จะได้เมนูเนื้อที่มีรสชาติที่เข้มข้นขึ้นด้วยการปรุงเมนู Beef Sando, House Mustard Mayo, Chili Sauce, House Kyokotsu Sauce (ด้วยเนื้อใบพายหรือ Oyster Blade MB 6/7*) ว่าแล้วไปลองทำอาหารจาก เนื้อออสซี่ กันดีกว่า
วัตถุดิบ: คัตสึซอส
ขิง 50 กรัม, กระเทียม 60 กรัม, น้ำตาลทรายแดง 20 กรัม, ซอสมะเขือเทศ 200 กรัม,วูสเตอร์ซอส 160 กรัม,น้ำผึ้ง 12 กรัม,ซอสถั่วเหลืองสูตรลดเกลือ 12 กรัม และ เกลือ 4 กรัม เนื้อวัว เนื้อใบพายแฟลตไออ้อนจากออสเตรเลีย MB 6/7* หนัก 1 ½ ปอนด์ (หั่นเป็นชิ้นละ 6 ออนซ์ 4 ชิ้น), เกลือ 1 ½ ช้อนชา แยกไว้, พริกไทย 1 ช้อนชา แยกไว้, แป้ง½ ถ้วย,ไข่ไก่ 1 ฟอง (ตอกไว้ให้เรียบร้อย),นม ¼ ถ้วย,เกล็ดขนมปัง 1 ½ ถ้วย,กระเทียมผง ¼ ช้อนชา,น้ำมันกาโนลาสำหรับผัด 2 ถ้วย และ ขนมปังโทสต์หั่น 8 ชิ้น
ขั้นตอนการปรุง
ขั้นตอน 1: ค่อย ๆ ใช้ค้อนทุบเนื้อแฟลตไออ้อนแต่ละชิ้นให้เหมาะสมขนาดของขนมปัง โดยทุบให้แต่ละชิ้นหนาประมาณ ½ นิ้ว ปรุงรสเนื้อสเต็กด้วยเกลือ 1 ช้อนชา และพริกไทย ½ ช้อนชา สามารถลอกขอบขนมปังออกได้ตามความชอบ
ขั้นตอน 2: เตรียมทำขนมปังโดยใช้ชาม 3 ใบ ชามใบแรกใช้ผสมแป้งกับเกลือและพริกไทยที่เหลือ ชามใบที่สองตีไข่ผสมกับนม ส่วนชามใบที่สามใส่เกล็ดขนมปังเตรียมไว้
ขั้นตอน 3: คลุกเนื้อสเต็กกับแป้ง เขย่าเศษแป้งส่วนเกินออก จุ่มลงในไข่ที่ตีไว้ แล้วคลุกเนื้อสเต็กบนเกล็ดขนมปังให้ทั่วทั้งสองด้าน พักสเต็กแฟลตไออ้อนบนตะแกรง ช่วงที่รอหันไปเตรียมซอส
ขั้นตอน 4: ผัดขิงกับกระเทียมให้ส่งกลิ่นหอม เติมส่วนผสมที่เหลือลงไปและเคี่ยวให้ข้น
ขั้นตอน 5: อุ่นน้ำมันในกระทะก้นลึก (เหมือนหม้อแบบดัตช์หรือกระทะเหล็กหล่อขนาดใหญ่) เมื่อน้ำมันร้อนถึง 375°F วางเนื้อสเต็กลงไป 2 ชิ้น ทอดด้านละ 90 วินาทีหรือจนกว่าเนื้อสเต็กจะเป็นสีน้ำตาลทองและให้อุณหภูมิในชิ้นเนื้อสูงถึง 130°F จะให้ความสุกระดับ medium-rare นำสเต็กขึ้นพักบนตะแกรง 5 นาทีก่อนเสิร์ฟ