เจาะ 2 ธุรกิจบันเทิง “หนึ่ง จักรวาร” ก่อน “ดราม่า” แสดงความรักต่อ “ลูกสาว”
เปิดตัว 2 ธุรกิจบันเทิง “หนึ่ง จักรวาร” บ.จักรวาล ลัคซูรี่ฯ รายได้ล่าสุดปี 63 กว่า 20 ล้าน กำไรจิ๊บ ๆ 1.6 ล้าน บ.เดอะ ไคลแม็กซ์ฯ รายได้ 1.1 ล้าน กำไร 4.7 แสน ก่อน “ดราม่า” แสดงความรักต่อ “ลูกสาว”
กลายเป็นประเด็น “ดราม่า” อย่างหนักในสังคม พลันที่ “หนึ่ง จักรวาร” หรือนายจักรวาร เสาธงยุติธรรม โปรดิวเซอร์และนักแต่งเพลงชื่อดัง โพสต์คลิปแสดงความรักต่อลูก โดยแกล้งจับพุง จับก้น “ลูกสาว” ตัวเองลงบนโซเชียลมีเดีย ทำให้มี "ทัวร์ลง" หลายคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม จนเจ้าตัวต้องโพสต์ขอโทษในเวลาต่อมา
มาดูในมุมธุรกิจของเจ้าตัวกันบ้าง?
กรุงเทพธุรกิจ ตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2564 พบว่า “หนึ่ง จักรวาร” เป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 2 แห่ง มีรายได้รวมปี 2563 จำนวน 21,535,482 บาท กำไรสุทธิรวม 2,122,133 บาท ดังนี้
1.บริษัท จักรวาล ลัคซูรี่ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2560 (วันเดียวกับบริษัท เดอะ ไคลแม็กซ์ แบนด์ จำกัด) ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท แจ้งประกอบธุรกิจกิจกรรมการผลิตภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ตั้งอยู่ที่เดียวกับบริษัท เดอะ ไคลแม็กซ์ แบนด์ จำกัด
ปรากฏชื่อนายจักรวาร เสาธงยุติธรรม และนางเบญจรรณ เสาธงยุติธรรม (ภรรยา) เป็นกรรมการ
แจ้งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2563 นายจักรวาร ถือหุ้นใหญ่สุด 59% นางเบญจวรรณ ถือ 40% และนายวสันต์ กอนทรา ถือ 1%
แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2563 มีสินทรัพย์รวม 25,911,368 บาท มีหนี้สินรวม 16,251,437 บาท มีรายได้รวม 20,425,316 บาท รายจ่ายรวม 18,437,907 บาท เสียภาษีเงินได้ 341,953 บาท กำไรสุทธิ 1,645,455 บาท
2.บริษัท เดอะ ไคลแม็กซ์ แบนด์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2560 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท แจ้งประกอบธุรกิจการจัดการแสดงทางธุรกิจและการแสดงสินค้า ตั้งอยู่ที่ 112/222 ม.2 ต.ไทรม้า อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี
ปรากฏชื่อนายจักรวาร เสาธงยุติธรรม และนางเบญจรรณ เสาธงยุติธรรม (ภริยา) เป็นกรรมการ
แจ้งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2563 นายจักรวาร เสาธงยุติธรรม ถือหุ้นใหญ่สุด 59% นางเบญจวรรณ เสาธงยุติธรรม ถือ 40% และนายวสันต์ กอนทรา ถือ 1%
แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2563 มีสินทรัพย์รวม 4,636,896 บาท หนี้สินรวม 244,535 บาท มีรายได้รวม 1,110,166 บาท รายจ่ายรวม 599,502 บาท เสียภาษีเงินได้ 33,986 บาท กำไรสุทธิ 476,678 บาท