วงการไวน์ ‘ช็อก!’ เมื่อเจ้าของ ‘ชาโต อังเฌลุส’ ถูกจับกรณีจัดอันดับชั้นไวน์
ก่อนจะครบรอบการจัดบัญชีไวน์ใหม่ในปี 2022 เกิดข่าวใหญ่ปรากฏในสื่อทั่วโลก เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2021 ทำให้วงการไวน์ถึงกับช็อก! เมื่อ “อูแบรต์ เดอ โบอาร์ด” แห่ง “ชาโต อังเฌลุส” ถูกตัดสินว่ามีความผิดกรณีการจัดชั้น “ไวน์แซงเตมิยอง”
ดังพาดหัวข่าวในนิตยสารไวน์ฉบับหนึ่ง และฉบับอื่น ๆ ก็พาดหัวข่าวประมาณนี้ว่า....Hubert de Boüard odf Château Angélus Convicted in St.-Emilion Classification Case. - อูแบรต์ เดอ โบอาร์ด แห่ง ชาโต อังเฌลุส ถูกตัดสินว่ามีความผิด กรณีการจัดชั้นไวน์แซงเตมิยอง
สื่อบางแห่งบอกว่านี่เป็น การคอรัปชั่น ที่น่าละอายที่สุด
ความผิดของ อูแบรต์ เดอ โบอาร์ด หรือชื่อเต็ม อูแบรต์ เดอ โบอาร์ด เดอ ลาฟอเฮรส์ (Aubert de Bouard de Laforest) คือ ใช้ตำแหน่งหน้าที่เอื้อประโยชน์ต่อชาโตอื่นในการจัดชั้นไวน์ ในขณะที่เขาเป็นผู้บริหารใน National Institute of Origin and Quality (INAO) และเป็นประธานคณะกรรมการคัดเลือก ไวน์กรองด์ ครู ของแซงเตมิยอง ODG St.-Emilion จากความผิดครั้งนี้เขาจะถูกปรับเป็นเงิน 40,000 ยูโร
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 ข่าวใหญ่... Pavie and Angelus promoted in new St Emilion Classification…เป็นข่าวใหญ่ไม่เฉพาะในฝรั่งเศสแต่เป็นข่าวดังระดับโลกของวงการไวน์ ข่าวชิ้นนี้เกิดขึ้นหลังการประกาศ บัญชีแซง เตมิยอง 2012 (St.-Emilion Classification 2012) เหมือนเป็นการปลดล็อก เพราะบัญชีก่อนหน้านั้นมีปัญหา
การปรับบัญชีไวน์ของตำบลแซง เตมิยอง (St.-Emilion Classification) เมืองบอร์กโดซ์ (Bordeaux) มีการปรับเกรดทุก ๆ 10 ปี ไม่นำไปรวมกับบัญชี เมด็อค 1855 (Medoc Classification 1855) ซึ่งไม่เคยมีการปรับ (ยกเว้นปี 1973 ที่ชาโต มูตอง ร็อธชิลด์ ได้ขึ้นมาชั้น 1)
ก่อนจะประกาศ บัญชีแซง เตมิยอง 2012 นั้นต้องย้อนกับไปบัญชีปี 2006 ซึ่งเป็น บัญชีที่เละเทะที่สุด เท่าที่มีการปรับกันมา จนมีการฟ้องร้องถึงโรงถึงศาล ฟ้องร้องกันอยู่กว่า 2 ปี สาเหตุสำคัญเพราะกรรมการบางคนเป็นเจ้าของไวน์ที่ได้รับการปรับเกรดขึ้นมา ก็ต้องมาไล่สืบสวนสอบสวนเรื่องราวกันอีก
Chateau Cheval Blanc 2015
ครั้งนั้นเมื่อมีการประกาศบัญชี St.-Emilion Classification 2012 ออกมา มีน้องใหม่ขยับขึ้นมาชั้นสูงสุด เปรอะมิเยร์ กรองด์ ครูส์ คลาสเซ กลุ่ม A (Premiér Grand Crus Classés Group A) อีก 2 ชาโตคือ ชาโต ปาวี (Chateau Pavie) และ ชาโต อังเฌลุส (Chateau Angelus) รวมเป็น 4 ตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี
นับตั้งแต่จัดทำบัญชีมาตั้งแต่ปี 1950 นั้น เปรอะมิเยร์ กรองด์ ครูส์ คลาสเซ กลุ่ม A ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มสุดยอด มี 2 ตัวที่ครองบัลลังก์อยู่อย่างเหนียวแน่นคือ ชาโต เชอวาล บลอง และ ชาโต โอโซน (Chateau Ausone) แต่แล้วเมื่อมีการประกาศบัญชี St.-Emilion Classification 2012 ออกมาหลายคนช็อก ขณะที่หลายคนแสดงความยินดี เพราะในวงการรู้กันอยู่ว่าอะไรเป็นอะไร ?
เมื่อเป็นข่าวช็อกวงการไวน์ที่เหมือนการ “คอรัปชั่น” นั้น Aubert de Bouard เป็นคนที่ทรงอิทธิพลคนหนึ่งในวงการไวน์ฝรั่งเศส โดยเฉพาะวงการไวน์บอร์กโดซ์ นอกจากจะมีตำแหน่งในสมาคมต่าง ๆ แล้วยังเป็นหุ้นส่วนและเจ้าของไวน์ดัง ๆ อีกหลายแห่ง เช่น St.- dEmilion Jurade, BVS บริษัทพ่อค้าคนกลางแห่งบอร์กโดซ์ ที่มีไวน์ในเครือ 4 แห่ง และเป็นผู้บริหารใน INAO (Institut National des Appellations d’Origine หรือ National Institute of Origin Appellations) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรของฝรั่งเศส เป็นผู้ดูแลเรื่องการติดสัญลักษณ์ AOC บนสินค้า โดยสินค้าที่สามารถติดสัญลักษณ์ AOC ได้จะต้องผ่านการตรวจสอบจาก INAO ก่อน ทั้งในเรื่องกระบวนการผลิตสินค้า การควบคุม และการทดสอบคุณภาพสินค้าว่าได้มาตรฐานตามหลักเกณฑ์ที่ INAO กำหนดไว้หรือไม่
มีคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะช่วงสิ้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีข่าวที่สร้างความตระหนกตกใจให้กับผู้คนในวงการไวน์ เมื่อ ชาโต เชอวาล บลอง และ ชาโต โอโซน ได้ประกาศว่าจะไม่เข้าร่วมการจัดชั้นในปี 2022 นี้
ที่ผ่านมาปกติชื่อของ ชาโต อังเฌลุส ก็โด่งดังชนิดที่แทบจะกู่ไม่กลับอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ขึ้นชั้นมาอยู่ แซงเตมิยอง กรองด์ ครู คลาสเซ กลุ่ม B จนขึ้นมาเป็น 1 ใน 4 ของกลุ่ม A
หลังจากที่เซ็นสัญญากับผู้สร้างหนังระดับโลกเพื่อเป็นสปอนเซอร์แล้ว ชาโต อังเฌลุส 1982 ก็ปรากฏในฉากหนัง เจมส์ บอนด์ ตอน Casino Royale แม้เพียงไม่กี่นาทีก็ตาม ซึ่งฉายในเมืองไทยในปี พ.ศ.2549 เป็นฉากในตู้เสบียงบนรถไฟที่จะเดินทางไปยัง Casino Royale คาสิโนชื่อดังและอลังการ เมื่อ เจมส์ บอนด์ แสดงโดย Daniel Craig ดินเนอร์กับ Vesper Lynd รับบทโดย Eva Green เป็นการเปลี่ยนโฉมใหม่ของเจมส์ บอนด์ ที่ก่อนหน้านั้นจะต้องดื่มแชมเปญ Bollinger ในตอน Live and Let Die โดยก่อนหน้านั้นดื่ม Dom Pérignon 1953 ในตอน Dr.No
ชาโต อังเฌลุส จะหมดสัญญากับ เจมส์ บอนด์ ในตอนสุดท้ายคือ No Time To Die : 007 พยัคฆ์ร้ายฝ่าเวลามรณะ ที่แดเนียล เครก ยุติบทบาทของสายลับ 007 เช่นกัน ซึ่งตอนนี้เป็นชาโต อังเฌลุส วินเทจ 2005
อย่างที่กล่าวในตอนแรก Aubert de Bouard เป็นคนที่ทรงอิทธิพลคนหนึ่งในวงการไวน์ฝรั่งเศส นอกจากชาโต อังเฌลุส เขายังเป็นเจ้าของชาโตอื่น ๆ เช่น La Fleur de Bouard, Ch. de Francs (50 % กับ Dominique Hebrard อดีตเจ้าของ Ch.Cheval Blanc) Anwilka ในแอฟริกาใต้ (หุ้นกับ Bruno Prats อดีตเจ้าของ Ch. Clos d”Estiuenel และ Lowell Jooste แห่ง Klein Constantia)
นอกจากนี้ยังเป็นที่ปรึกษาให้กับชาโตต่าง ๆ 7-8 แห่ง เช่น Ch.Pichon Baron, Ch.La Pointe, Ch.Chantegrive, Ch.de Fieuzal, Ch.La Commanderie, Ch.Haut Corbin, Domaine Jean Massoud, Bodegas Ostatu ในเลบานอน คือ Massaya เป็นต้น
ปฏิเสธไม่ได้ว่าความสำเร็จของชาโต อังเฌลุส เป็นฝีมือของชายผมขาวอารมณ์ดีคนนี้ หลังจากที่รับหน้าที่ดูแลธุรกิจของครอบครัวในทศวรรษที่1980 นับเป็นทายาทรุ่นที่ 7
ชาโต อังเฌลุส ซื้อมาโดย Comte Maurice de Boüard ในปี 1921 ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกองุ่น 23.4 เฮกตาร์ ปลูก Merlot 51%, Cabernet Franc 47% และ Cabernet Sauvignon 2% ขึ้นมาอยู่ Premier grand cru classé B ตั้งแต่ปี 1996 ผลผลิตประมาณ 10,000 ลังต่อปี ส่วนไวน์ฉลากสอง Carillon d’Angélus ผลิตประมาณ 1,000 ลังต่อปี
ก่อนปี 1990 ชาโต อังเฌลุส มีชื่อว่า ชาโต ลังเจสุล ( Château L'Angélus) เรียกสั้น ๆ ว่า L'Angélus อยู่ในบัญชี Saint-Émilion Grand Cru ธรรมดา ก่อนขึ้นมาอยู่ Saint-Émilion Grand Cru Classé กลุ่ม B ในการปรับบัญชีปี 1996 และขยับมาอยู่ Saint-Émilion Grand Cru Classé กลุ่ม A ในปี 2012 จนถึงปัจจุบันดังกล่าว
สำหรับบัญชี St Emilion Classification 2012 เฉพาะ Premiers Grands Crus Classés (A) และ (B) มีดังนี้ (ที่มีเครื่องหมาย * คือไวน์ที่ได้รับการปรับชั้นขึ้นมาใหม่ ตามบัญชี 2012)
Premiers Grands Crus Classés (A)
Château Ausone
Château Cheval Blanc
Château Angélus*
Château Pavie*
Premiers Grands Crus Classés (B)
Château Beauséjour (héritiers Duffau-Lagarrosse)
Château Beau-Séjour-Bécot
Château Bélair-Monange
Château Canon
Château Canon la Gaffelière*
Château Figeac
Clos Fourtet
Château la Gaffelière
Château Larcis Ducasse*
La Mondotte*
Château Pavie Macquin
Château Troplong Mondot
Château Trottevieille
Château Valandraud*
หลังจากนี้คงต้องจับตาการ ปรับบัญชี 2022 ว่าจะออกมาในรูปแบบใด ที่แน่ ๆ เมื่อโหมโรงด้วยข่าวคราวแบบนี้ น่าจะมีอะไรที่เหนือความคาดหมายแน่นอน เพราะทุกอย่างล้วนเป็น ผลประโยชน์ !
