หมอไอติม เผยเคล็ดลับ ‘ความงาม’ แบบยั่งยืน
หน้าใสปิ๊ง “ความงาม” ที่ใครๆก็ต้องการ ”หมอไอติม” เผยว่า ช่วงวัยรุ่นควรดูแลผิวพรรณ ใช้ครีมบำรุงผิว ครีมกันแดด ดื่มน้ำเยอะๆ รับประทานผัก ผลไม้ ให้ครบ 5 หมู่ หากไม่ทันแล้วสุดจะยื้อ มีตัวเลือกคือ พึ่งพา นวัตกรรมแสง “เลเซอร์” "นวัตกรรมความงาม" จาก “เยอรมัน”
“ความงาม” เป็นสิ่งจำเป็น หมอไอติม ธีรารักษ์ สิทธิชัยวิเศษ Medical Director ประจำ “อาร์ พลัส คลินิกเวชกรรม” หรือ R PLUS CLINIC (ลาดพร้าว 41)กล่าวว่า
ปัจจุบันมี นวัตกรรมแสง “เลเซอร์” จาก “เยอรมัน” นวัตกรรมความงาม เป็นตัวช่วยโดยไม่ต้องศัลยกรรมดึงหน้า เครื่องมือเหล่านี้ได้ถูกพัฒนามาเรื่อยๆ จนถึงทุกวันนี้มีเครื่องมือที่ชื่อ
อัลตร้าฟอร์เมอร์ (Ultraformer) ช่วยยกกระชับหน้า ถือว่าเป็นเทคโนโลยีล่าสุด มี Micro Focus Ultrasound 6 หัว ช่วยกันทำงานเช่น กำจัดเหนียง ลดไขมัน ยกกรอบหน้า มีหัว 4.5 ลงลึกเหมือนแพทย์กำลังผ่าตัดดึงหน้า กระตุ้นคอลลาเจนชั้นกลาง เพื่อสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่
ในเรื่อง ความงาม นั้น หมอไอติม ธีรารักษ์ สิทธิชัยวิเศษ แพทย์ประจำ R PLUS CLINIC กล่าวว่า หากมาฟื้นฟูผิวหน้าด้วยนวัตกรรมแสง “เลเซอร์” ใหม่ล่าสุดจาก “เยอรมัน” นวัตกรรมความงาม เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
หลังการรักษาจะเห็นผลเมื่อเวลาผ่านไป 1-3 เดือน และจะอยู่ยาวไปจนถึง 1 ปี เพราะอะไรจึงเห็นผลช้าขนาดนั้น หมอไอติม อธิบายว่า
“ต้องรอให้ร่างกายเราสร้างคอลลาเจนอันใหม่ที่มีคุณภาพ เราใช้เทคโนโลยีเข้าไปกระตุ้นการทำงาน เพื่อให้เขาออกลูกออกหลาน ทุกๆครั้งที่ทำการกตระตุ้นคอลลาเจนก็จะเพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์
จากนั้นเราก็ช่วยร่างกายด้วยการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะโปรตีน เช่นปลาทะเลน้ำลึก ถ้าโปรตีนไม่พอก็จะไม่มีสารตั้งต้นไปสร้างคอลลาเจน ถ้าเป็นไปได้ สารอาหารที่มาจากธรรมชาติดีที่สุด ถ้าเรามีเวลากินนะคะ สำหรับคนไม่มีเวลา ค่อยกินอาหารเสริมก็ได้”
หมอไอติม ธีรารักษ์ สิทธิชัยวิเศษ แพทย์ด้าน ความงาม ประจำ R PLUS CLINIC อธิบายต่อไปว่า หากรักษาโดยใช้ นวัตกรรม “เลเซอร์” ดังกล่าว สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ เช่นกำลังกายกลางแจ้ง ฯลฯ
“ทำเสร็จอาจจะรู้สึกแค่เมื่อยๆหน้าเล็กน้อย หนึ่งถึงสองวันหลังทำ สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ ไม่ทำให้หน้าบาง ไม่ทำให้มีปฏิกริยากับแสงแดด เลเซอร์ก็มีอยู่หลายชนิด ขึ้นอยู่กับปัญหาของผิวแต่ละคน
เลเซอร์ยุคใหม่ไม่จำเป็นต้องหลบแดดเหมือนสมัยก่อน สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่แนะนำว่าเวลาทาครีมกันแดด ก็ต้องทา 2 ข้อนิ้ว เช่นทารอบหนึ่งรอให้แห้ง แล้วทาอีก 1 รอบ ถ้าทานิดเดียว SPF อาจจะเหลือแค่ครึ่งเดียว”
เทคโนโลยีดังกล่าวไม่ใช่ของใหม่ เนื่องจากเข้ามาในเมืองไทยประมาณ 5 ปีแล้ว ทว่ามีการพัฒนาไปเรื่อยๆ จนกระทั่งปัจจุบันคนไข้ไม่รู้สึกเจ็บ ไม่บวมหลังการรักษา ไปจนถึง Micro Focus Ultrasound ส่งพลังงานก้อนใหญ่มากยิ่งขึ้น เจ็บน้อยลง ยกหางคิ้ว แก้ไขปัญหาหนังตาตก ฯลฯ ได้อีกด้วย
เรื่องของ ความงาม ปัจจุบันไม่ใช่เฉพาะผู้หญิงเท่านั้น ผู้ชายก็เริ่มหันมาสนใจดูแลตัวเองมากขึ้น เพราะเกี่ยวข้องกับเรื่องของบุคลิกภาพที่ดี บางคนเกิดฝ้าเนื่องจากออกกำลังกายกลางแจ้ง แต่ผู้ชายเกิดฝ้ายากและรักษาง่ายกว่าผู้หญิง เนื่องจากไม่มีฮอร์โมนเพศหญิง ยุคนี้ผู้ชายหันมาพึ่ง นวัตกรรมความงาม ด้วยเช่นกัน
หมอไอติม เล่าว่า “เรียนแพทย์จากรามาธิบดี ไปทำงานใช้ทุนที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น แล้วกลับมาเรียนด้านผิวหนัง ที่สถาบันโรคผิวหนัง สังกัดกรมการแพทย์ เรียนมาทั้งหมด 10 ปี เรียนต่อไปเรื่อยๆทุกวันนี้ก็ยังเรียนอยู่ เพราะสนใจเรื่องความงามมาก
ไม่เฉพาะเรื่องของความงามเท่านั้น ยังสนใจโรคผิวหนังด้วย เพราะการที่ผิวหนังเราแสดงออกมาว่าเป็นผื่น เป็นเม็ด ตุ่มแดง หรือเป็นขุย มันบ่งบอกถึงภายว่า ภายในเรามีการอักเสบไหม มีโรคอะไรหรือเปล่า เช่นผิวหนังบางชนิดสื่อออกมาทำให้เรารู้ว่า คนนี้มีโอกาสเป็นมะเร็งนะ ใช้แค่การมอง การสังเกต ก็สามารถรู้ได้”
ความงาม แบบยั่งยืนนั้น หมอไอติม แนะนำว่า ควรดูแลตัวเองตั้งแต่ยังวัยรุ่น ทาครีมบำรุงสม่ำเสมอ หลังอาบน้ำภายใน 3 นาที และเริ่มทาครีมกันแดดตั้งแต่วัยรุ่น เพื่อป้องกันกระ และฝ้า อนาคตไม่ต้องพึ่งเลเซอร์ การป้องกันไว้ดีที่สุด สิ่งสำคัญควรดื่มน้ำเยอะๆ ออกกำลังกาย
และรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะผักและผลไม้ ก็จะช่วย ยืดเวลาการพึ่งพาเทคโนโลยี เหล่านี้ได้ แต่หากต้องพึ่งพาจริงๆ ก็ต้องมาดูแลกันที่ต้นเหตุ อย่างเช่น นวัตกรรมแสง ‘เลเซอร์’ จาก ‘เยอรมัน’ ULTRAFORMER เพราะจะช่วยเข้าไปกระตุ้น การสร้างคอลลาเจนแบบยั่งยืน