7 ร้านอร่อยสุดชิคใน "มหานคร อีทเทอรี่" สั่งกินได้ในโต๊ะเดียวกัน
คิง เพาเวอร์ มหานคร เปิดโซนอาหารคอนเซตป์ใหม่ มหานคร อีทเทอรี่ (Mahanakhon Eatery) ในอาคารมหานคร คิวบ์ รวม 7 ร้านอาหารอร่อยระดับพรีเมียมมาไว้ในพื้นที่เดินทะลุถึงกัน ให้บริการแบบนั่งร้านไหนสั่งเมนูร้านอื่นมากินด้วยได้ คิดเงินเสร็จในบิลล์เดียวกัน
โซนอาหารสุดเทรนดี้แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ เวลานี้ สายกิน สายแฟ(แฟชั่น) สายแชะแอนด์แชร์ กำลังทยอยไปเช็คอินรัวๆ ที่ มหานคร อีทเทอรี่ (Mahanakhon Eatery) โซนร้านอาหารแห่งใหม่ในตึก มหานคร คิวบ์ อาคารระฟ้าสุดเท่ย่านสีลม-สาทร
โซนอาหารแห่งใหม่นี้ประกอบด้วยร้านรวงประเภท ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขนมหวาน ร้านไวน์ รวมแล้ว 7 ร้านระดับพรีเมียม ทุกร้านนำเสนออาหารและเมนูที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่เป็นเอกลักษณ์เพื่อ มหานคร อีทเทอรี่ โดยเฉพาะ แต่ละร้านยังตกแต่ง เลือกใช้โต๊ะเก้าอี้สำหรับรับประทานอาหารตามสไตล์ของตัวเอง ทำให้ “มหานคร อีทเทอรี่” มีบรรยากาศน่านั่งแตกต่างกันถึง 7 สไตล์
อีกหนึ่งความพิเศษของโซนนี้ คือการให้บริการแบบ Cross-Kitchen Dining เมื่อเลือกบรรยากาศร้านที่อยากนั่งได้แล้ว คุณสามารถสั่งอาหารจากร้านอื่นอีก 6 ร้านมารับประทานที่โต๊ะได้ด้วย เช่น เมื่อกินไก่อบออร์แกนิคของร้านนี้จบแล้ว ก็สามารถสั่งมูสชีสเค้กจากร้านขนมหวานขึ้นชื่ออีกร้านมาเสิร์ฟได้ที่โต๊ะ หรือสั่งกาแฟสูตรเอ็กซ์คลูซีฟจากร้านกาแฟอีกร้านมาชิมที่โต๊ะได้เหมือนกัน โดยไม่ต้องย้ายไปร้านกาแฟ
เหมาะมากสำหรับการไปเป็นครอบครัวและกลุ่มเพื่อน ใครชอบอาหารจากร้านไหน ก็สามารถสั่งมาร่วมกันรับประทานแบ่งกันชิมได้ในโต๊ะเดียวกัน เลี้ยงรับรองงานธุรกิจก็ยังได้ บริกรให้บริการด้วยมาตรฐานระดับภัตตาคารด้วยเครื่องแบบสะอาดเรียบร้อย
และเมื่อถึงเวลาคิดเงิน ทุกรายการอาหารจากทุกร้านที่คุณสั่งมาชิม ก็รวมอยู่ในใบเสร็จเดียวกัน ไม่ต้องแยกจ่ายหลายใบเสร็จ ตามสโลแกน “สั่งครบ จบ และจ่ายในที่เดียว” ของ มหานคร อีทเทอรี่
คราวนี้มาดูกันว่า มหานคร อีทเทอรี่ (Mahanakhon Eatery) มีร้านอร่อยบรรยากาศชิคๆ ร้านใดบ้าง
ร้าน "เอวรีล กูร์เมต์ แอนด์ บอร์ดิเยร์ ซีเล็กชั่น"
Pate en croute with foie gras
เอวรีล กูร์เมต์ แอนด์ บอร์ดิเยร์ ซีเล็กชั่น (Avril Gourmet & Bordier Selection)
ร้านนี้เป็นศูนย์รวมวัตถุดิบคุณภาพพรีเมียมจากแหล่งผลิตชั้นยอดในประเทศฝรั่งเศสและยุโรป มีประสบการณ์ในธุรกิจอาหารมายาวนาน ได้รับความไว้วางใจจากร้านอาหารและโรงแรมชั้นนำในไทยให้เป็นผู้จัดหาวัตถุดิบคุณภาพสูงจากแหล่งผลิต อาทิ ไส้กรอก แฮม เนื้อสัตว์ น้ำมันมะกอก แยม โดยเฉพาะ เลอ เบอร์ บอร์ดิเยร์ (le beurre bordier) เนยชื่อดังระดับโลกจากแคว้นบริตตานี ประเทศฝรั่งเศส
เมนูที่ได้ชิมคือ Pate en croute with foie gras (299 บาท) ปาเตโฮมเมด มีส่วนผสมอันลงตัวของตับห่านฝรั่งเศส เป็ด อกไก่ เนื้อหมู สอดไส้ด้วย พิสตาชิโอและแครนเบอร์รี่เชื่อมในบรั่นดี ห่อด้วยแป้งอบฉ่ำเนย กินแนมกับแตงกวาฮอลแลนด์ดอง ชูรสเพิ่มด้วยมัสตาร์ดโฮมเมด
อาหารประเภท ชาร์กูเตอรี (Charcuterie)
ร้านนี้ยังมีความโดดเด่นของอาหารประเภท ชาร์กูเตอรี (Charcuterie) สามารถเลือกได้ตามความชอบ ในแพลตเตอร์ที่ได้ชิม เชฟเลือก ไอเบอริโก เลอ บีลอตตา (iberico de bellota 2017) สไลซ์ด้วยมือ, พาร์มาแฮม, โชริโซ (chorizo) ไส้กรอกสเปนเนื้อหมูไอเบอริโกหมักเครื่องเทศและพริกปาปริกา, มอร์ตาเดลลา (mortadella) ไส้กรอกอิตาลีขนาดใหญ่ ทำจากเนื้อหมูบดผสมเกลือพริกไทยและไขมันหมูก้อนเล็กๆ จากคอหมู
กินแกล้มกับเนยแข็ง 4 ชนิด คือ ทรัฟเฟิล เกาดา (truffle gouda) ชีสนมวัวที่มีส่วนผสมของทรัฟเฟิลอิตาเลียน กินง่ายสำหรับคนไม่ถนัดกินชีส, กองเต้ (comte) เป็นชีสเลื่องชื่อของฝรั่งเศสอีกหนึ่งชนิด ตัวนี้บ่มปี 2018, บรี (brie) ชีสฝรั่งเศสยอดนิยม และ บลู (blue cheese) สำหรับคนหอมกลิ่นชีสโดยเฉพาะ
ร้าน "อิซาเบลลา อิตาเลียน โรติสเซอรี บาย อันเดรีย"
อิซาเบลลา อิตาเลียน โรติสเซอรี บาย อันเดรีย (Isabella Itatian Rotisserie by Andreas)
ร้านอาหารอิตาเลียนแห่งใหม่ของ เชฟอันเดรีย โบนิฟาโช เจ้าของร้านอาหารอิตาเลียนชื่อดังของเมืองหัวหิน (อันเดรีย อิตาเลียน เรสเตอรองท์ แอนด์ กริลล์) ร้านใหม่นี้มาในคอนเซปต์ Hot Table (Tavola Calda) กับสูตรอาหารต้นตำรับขึ้นชื่อ ทั้งพิซซ่า โฮมเมดพาสต้า
เชฟอันเดรียให้ความสำคัญกับการคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพในการประกอบอาหาร เพื่อให้นักชิมอิ่มเอมไปกับรสชาติอาหารอิตาเลียนตำรับดั้งเดิม
ไก่ออร์แกนิคอบสไตล์อิตาเลียน
เมนูที่ได้ชิมวันนั้นคือ Italian style whole roasted organic chicken (980 บาท) ไก่ออร์แกนิคตัวเมีย น้ำหนักราว 1.4 กิโลกรัม สดใหม่จากฟาร์มในพื้นที่เขาใหญ่ ยัดไส้ด้วยผักประจำฤดูกาล หมักด้วยเครื่องเทศอิตาเลียนข้ามคืนจนเข้าเนื้อ จากนั้นนำไก่ทั้งตัวอบในเครื่อง Rotisol มูลค่านับล้านบาท นำเข้าพิเศษจากประเทศฝรั่งเศส เครื่องจะค่อยๆ หมุนให้ไก่สุกทั่วทั้งตัวเท่าๆ กัน ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง ได้ไก่อบหอมสมุนไพร หนังบางกรอบ เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ อร่อยสมคำร่ำลือ เลือกได้แบบครึ่งตัวและทั้งตัว
เครื่องอบนี้ น้ำมันจากตัวไก่จะค่อยๆ หยดลงบนมันฝรั่งที่เชฟเตรียมไว้ในถาดด้านล่าง ทำให้มันฝรั่งสุกไปพร้อมกัน แน่นอนในจานเสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งอบในน้ำมันจากตัวไก่ เพิ่มสลัดผักในน้ำมันมะกอกและบัลซามิก กับซอสโฮมเมดอีกสามชนิด คือ บาร์บีคิวซอส เกรวี่ไก่ และน้ำจิ้มแจ่ว
Rib-Eye Khaojee E-Sarn ร้าน มีท แอนด์ สไปซ์
Salmon Confit in Snow Ocean
มีท แอนด์ สไปซ์ บาย อนาเธอร์ ฮาวด์ คาเฟ่ (Meat & Spice by Another Hound Café)
ร้านอาหารแบรนด์น้องใหม่ของ อนาเธอร์ ฮาวด์ คาเฟ่ ครั้งนี้มาในคอนเซปต์ “เวสเทิร์น ไทย ทวิสต์” เกิดจากการผสมผสานระหว่างอาหารตะวันตกเข้ากับความเผ็ดร้อนในแบบไทย ได้มาเป็นเมนูสุดโมเดิร์น รสชาติจัดจ้านในแบบฉบับ “มีท แอนด์ สไปซ์ บาย อนาเธอร์ ฮาวด์ คาเฟ่”
เมนูที่ได้ชิมคือ Rib-Eye Khaojee E-Sarn (1,150 บาท) เนื้อออสเตรเลียส่วนริบอาย ย่างมาสุกระดับมีเดียมกำลังนุ่มพอดี เสิร์ฟพร้อมข้าวจี่ไส้ปลาร้าสูตรเฉพาะของร้านที่ผ่านการมูนกับน้ำกะทิ แล้วนำไปจี่ในกระทะให้กรอบนอกนุ่มใน เหมาะมากสำหรับคนชอบปลาร้า เสิร์ฟกับน้ำพริกมะเขือเทศรสจัดและมีความเผ็ด มะเขือเทศเถาวัลย์สดผ่านความร้อน กัดแล้วน้ำมะเขือเทศกระจายในปากให้ความสดชื่น และเกลือ Maldon จากประเทศอังกฤษ กินกับเนื้อก็เข้ากัน แตะข้าวจี่ก็ได้รสที่แหลมขึ้น
อีกหนึ่งจานที่อร่อยมากคือ Salmon Confit in Snow Ocean (450 บาท) หรือแซลมอนกงฟีต์ซอสต้มข่า ในจานรูปใบบัวมีสเต็กแซลมอนฟิเลชิ้นโต ปรุงโดยนำไปผ่านความร้อนในน้ำมันอุณหภูมิต่ำจนสุกแต่พอดี เท็กซ์เจอร์นุ่ม เนื้อชุ่มฉ่ำ ไม่แห้งกระด้าง เสิร์ฟกับซอสต้มข่าเคี่ยวผสมเหล้าเบอร์เบินชั้นเยี่ยม เป็นซอสต้มข่าที่รสชาติชัดเจนเปรี้ยวเผ็ด แต่มีความเบา ไม่มันหนักด้วยกะทิ แต่มีความมันด้วยน้ำมันผักชีและมันกุ้งหยดเล็กๆ ให้สมกับที่เป็นต้มข่า โรยหน้าด้วยขาเห็ดภูฐานทอดกรอบ ไข่ปลาแซลมอน รสชาติเข้ากันทั้งจานจนอยากสั่งเป็นจานที่สอง
ร้าน เอล มาร์
หอยนางรมนำเข้าที่ร้าน เอล มาร์
เอล มาร์ (el mar)
ชื่อร้านเป็นภาษาสเปน แปลว่า “ทะเล” เป็นร้านที่มีทั้งอาหารทะเลและเนื้อวัวคุณภาพย่างในคอนเซปต์สบายๆ สไตล์บิสโตรแบบฝรั่งเศสที่เรียบง่าย ตัวร้านสะดุดตาด้วยการจำลองบรรยากาศอู่ต่อเรือเก่าในหมู่บ้านชาวประมง
ร้านนำเสนออาหารทะเลเกรดพรีเมียมสดใหม่จากทั่วโลก อาทิ หอยนางรมสด หอยแมลงภู่ ล็อบสเตอร์ และอาหารกินเล่นพอดีคำ อาทิ เมนู Chilled Seafood Platter (2,770 บาท)
Fried Oysters หอยนางรม Kirishima
Chorizo Oysters
เมนูที่ได้ชิมคือ Fried Oysters (520 บาท) หอยนางรม Kirishima จากญี่ปุ่นชุบแป้งทอด ท็อปด้วยแตงกวาดองฝาน รองด้วยซอสมาโยทาร์ทาร์โฮมเมด และเมนู Chorizo Oysters (220 บาท) หอยนางรม ฟิน เดอ แคลร์ สดจากฝรั่งเศส ในซอสเครื่องเทศโฮมเมดรสเปรี้ยวนิดๆ ไม่กลบความสดตามธรรมชาติของฟิน เดอ แคลร์
ในส่วนของเนื้อแดง มีเมนู prime cut steak เสิร์ฟสไตล์โมเดิร์นยูโรเปียน ย่างบนเตาพิเศษ josper charcoal เก็บกักความฉ่ำของอาหารได้เป็นอย่างดี เพิ่มลูกเล่นและความสนุกให้นักชิมด้วย “ครัวเปิด” สามารถชมกรรมวิธีการปรุงจากเชฟผ่าน open-kitchen ได้อย่างใกล้ชิด
ไวน์เลาจน์ "เมซอง ดู แวง" (Maison du Vin)
เมซอง ดู แวง (Maison du Vin)
ไวน์เลาจน์แห่งแรกในไทยโดยบริษัท เดอะ ไวน์ เมอร์แชนท์ ผู้นำและผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดจำหน่ายและนำเข้า ไวน์ ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าชั้นนำมากมาย บรรยากาศไวน์เลาจน์ได้รับการออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์ในสไตล์โรงบ่มไวน์ฝรั่งเศส
ภายในไวน์เลาจน์นำเสนอไวน์ชั้นเลิศจากหลากหลายประเทศ รวมถึงไวน์หายากจากกว่า 100 ไวน์เนอรี่ชั้นนำจากทั่วทุกมุมโลก ให้บริการทั้งแบบเปิดขวด และ wine by glass
“คอนเซปต์ไวน์บาร์เน้นให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง จัดกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับไวน์ อาทิ ไวน์เทสติ้ง ไวน์แพร์ริ่ง ให้บริการและพูดคุยกับลูกค้าโดยซอมเมอลิเยร์ เรามีไวน์คุณภาพบริการในราคาสมเหตุสมผล ไม่มีการตั้งราคาสูงแล้วมาลดราคาหรือลดล้างสต็อคภายหลัง เรายังมีแก้วไวน์พรีเมียมนำเข้า เป็นแก้ว zalto จากออสเตรียสำหรับบริการด้วยอีก” โอ๊ต-อิสรงค์ ใบสีทอง ซอมเมอลิเยร์ประจำร้าน กล่าว
เมซอง ดู แวง มีไวน์บริการใน 3 กลุ่ม คือ กลุ่มพรีเมียม เป็นไวนที่มีชื่อเสียง ค่อนข้างมีราคา, กลุ่มไวน์ทางเลือก ได้แก่ไวน์ราคาไม่แรง แต่คุณภาพใกล้เคียงกับไวน์กลุ่มพรีเมียม และกลุ่มที่สามคือ ไวน์นอกกระแส คือผลิตจากพันธุ์องุ่นที่ไม่คุ้นหู ผู้ดื่มไวน์อาจไม่คุ้นชินกับรสชาติและสีของไวน์ จำเป็นหรืออาจต้องฟังเรื่องราวของไวน์จากซอมเมอลิเยร์เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน
อีซี่ (ICI) ร้านขนมหวาน
My Cheese
อีซี่ (ICI)
ร้านขนมหวานและเบเกอรี่โดย เปเปอร์-อริสรา จงพาณิชกุล เชฟขนมหวานชื่อดังของไทย ถ่ายทอดเรื่องราวของขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศสให้ออกมาดูน่ารักและสนุกสนาน สามารถเข้าถึงได้ง่ายสำหรับทุกคน สมชื่อร้านที่ออกเสียงว่า “อีซี่”
แต่จริงๆ แล้วชื่อร้าน ICI เป็นภาษาฝรั่งเศส มีความหมายว่า “ที่นี่” ที่ซึ่งมีขนมอร่อย ทำด้วยหัวใจของเชฟ ผ่านความคิดสร้างสรรค์และเทคนิคพิเศษมากมาย เพื่อให้ทุกเมนูสวยงามทั้งหน้าตาและอร่อยในรสชาติ เสมือนงานศิลปะร่วมสมัยที่รับประทานได้
ขอบอกว่าเมนูหมดเร็วมาก ไปถึงบ่ายๆ วันนั้นได้ชิม My Cheese (215 บาท) ตัวบิสกิตด้านบนและด้านล่างผสมเชดด้าชีส ประกบครีมชีสเค้กมูสเนื้อละมุน ตกแต่งด้วยเมอแรงก์รูปตัวหนูน่ารักน่าชัง ทำจากไข่ขาวผสมน้ำตาลฝรั่งเศส กินแล้วละลายหายไปในปากอย่างง่ายดาย ตัวเมอแรงก์รสหวานน้อยเข้ากับรสเค็มของบิสกิตรสเค็มของเชดด้าชีสพอดี
ร้านกาแฟ ออเทอร์ คาเฟ่ (Other Café)
กานต์นิธิ กุลธีรพัฒนสิน กับเครื่องชงแบบ "อันเดอร์ เคาน์เตอร์"
ออเทอร์ คาเฟ่ (Other Café)
ร้านกาแฟสุดชิคแบรนด์ดังจากซอยรางน้ำ มาพร้อมคาแรคเตอร์โดดเด่นในสไตล์มินิมอลแบบ “ร้านกาแฟชุมชน” ที่มีความ simple yet special (เรียบง่ายแต่พิเศษ) คือเข้าใจและใส่ใจในรสชาติรสสัมผัสของกาแฟจากทั่วทุกมุมโลก โดยมี บาริสต้า ของร้านเป็นผู้ช่วยที่จะทำให้เรื่องกาแฟที่ซับซ้อนสามารถเข้าใจและเข้าถึงได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
ส่งผ่านเอกลักษณ์รสชาติกาแฟโดยเครื่องชงกาแฟแบบ “อันเดอร์ เคาน์เตอร์” คิดค้นและประดิษฐ์โดยวิศวกรเครื่องบิน มูลค่าเครื่องชงกาแฟอีกสองหมื่นจะครบหนึ่งล้านบาท
แก้วนี้ชื่อ The Cloud
ออเทอร์ คาเฟ่ แนะนำให้ชิมเมนู The Cloud (เดอะ คลาวด์, 160 บาท) เครื่องดื่มในแก้วมีฟองครีมสีขาวด้านบน ตัดกับน้ำสีน้ำตาลเข้มด้านล่าง เครื่องดื่มแก้วนี้ได้แนวคิดจากตึกมหานคร ชั้นกาแฟด้านล่างเป็นเหมือนตึกมหานคร ส่วนด้านบนที่เป็นครีมฟองสีขาวเป็นเหมือนก้อนเมฆ คือตึกมหานครที่มีก้อนเมฆอยู่ด้านบน และมีรสชาติที่แตกต่างกัน
“ด้านบนมีความนุ่มละมุนคล้ายขนม มีความครีมมี่ ด้านล่างคือส่วนผสมของน้ำแอปเปิ้ล โฮมเมดไซรัปเฮเซลนัท กาแฟเบสเข้มจากกาแฟไทย มีความเป็นช็อกโกแลตหน่อยๆ กาแฟลาว มีความเป็นคาราเมลและความเป็นช็อกโกแลตหนักกว่ากาแฟไทย กับกาแฟบราซิล มีความหอมของถั่ว เบลนด์เข้าด้วยกัน เป็นกาแฟที่สู้นมได้ดี” กานต์นิธิ กุลธีรพัฒนสิน บาริสต้าและผู้จัดการร้าน ออเทอร์ คาเฟ่ กล่าวและว่า The Cloud เหมาะกับคนที่ไม่ชอบความเปรี้ยวของกาแฟ แนะนำให้ยกดื่มมากกว่าคนให้เข้ากัน จะค่อยๆ ได้รสสัมผัสจากความนุ่มของครีม กลิ่นหอมเตะจมูก พอยกแก้วสูงขึ้น ส่วนผสมของกาแฟจากด้านล่างจะค่อยๆ ขึ้นมามาผสมกับฟองครีม ก็จะ ได้รับรสชาติที่ค่อยๆ ผสานกันระหว่างความเข้มข้นกับฟองครีม
The CUBE
เครื่องดื่มแก้วต่อไปที่ได้ชิมคือ The CUBE (เดอะ คิวบ์, 160 บาท) คุณกานต์นิธิบอกแก้วนี้เหมาะสำหรับคนต้องการพลังงาน มีความหวานเค็มจากนมที่ผสมเกลือทะเลกับคาราเมล เทลงบน “คิวบ์” หรือก้อนน้ำแข็งรูปสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ทำจากน้ำกาแฟ พูดไปก็คือกาแฟเย็นใส่นมนั่นเอง แต่เป็นกาแฟเย็นที่ไม่ธรรมดา
“เวลาเราสั่งกาแฟเย็น น้ำแข็งละลายจะยิ่งจืด แต่ตัวนี้ต่างกันเลย ยิ่งคิวบ์ละลายยิ่งเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ คิวบ์ตัวนี้เราทำด้วยวิธี cold brew ส่วนมากใช้วิธีแช่ 12-24 ชั่วโมงแล้วนำมากรอง แต่ที่ร้านใช้วิธีเค้นและรีดไขมันในกาแฟออกมาด้วย ทำให้กาแฟมีรสสัมผัสที่ดีขึ้น รสชาติคล้ายคลาสสิกคอฟฟี่ท้อฟฟี่”
กาแฟที่ใช้ทำเมนู เดอะ คิวบ์ เป็น กาแฟไทยบนดอยผาตั้ง คุณกานต์นิธิเล่าว่า ถ้านับไปประมาณ 3-4 ปีก่อน ดอยผาตั้งเป็นดอยเดียวที่ส่งกาแฟไปประกวดระดับมาตรฐาน SCA หรือ Specialty Coffee Association (สมาคมกาแฟพิเศษ) และกาแฟดอยนี้ได้คะแนน 82.4 ซึ่งเป็นเกรดสเปเชียลตี้ตัวแรกในไทย
นอกจากเครื่องดื่มประเภทกาแฟ ร้านออเทอร์ คาเฟ่ยังมีเครื่องดื่มประเภทม็อคเทล อิตาเลียนโซดา ชาเขียว เป็นมัทฉะจากเมืองอุจิ (Uji) ที่นิยมใช้สำหรับพิธีชงชาของญี่ปุ่น ทางร้านใช้กรรมวิธีชงแบบเย็นเพื่อให้มัทฉะแสดงคุณสมบัติที่มีอยู่อย่างดีที่สุด และช็อกโกแลตเบลนด์จากหลายประเทศทางยุโรป จึงมีเมนูเครื่องดื่มรวมกันกว่า 60 รายการ ทุกเมนูผ่านการชิมซ้ำๆ ปรับจนเข้ากับคาแรคเตอร์ของร้าน
มหานคร อีทเทอรี่ ทางเข้าเมื่อลงบันไดเลื่อนจากทางเชื่อมรถไฟฟ้า สถานีช่องนนทรี
มหานคร อีทเทอรี่ (Mahanakhon Eatery) ตั้งอยู่ที่ชั้น G อาคารมหานคร คิวบ์ แบ่งพื้นที่เป็น 2 ชั้น ชั้นล่าง 543 ตารางเมตร จำนวน 6 ร้าน คือ เอวรีล กูร์เมต์ แอนด์ บอร์ดิเยร์ ซีเล็คชั่น, เอล มาร์, อีซี่, อิซาเบลลา อิตาเลียน โรติสเซอรี บาย อันเดรีย, มีทแอนด์สไปซ์ บาย อนาเธอร์ ฮาวด์ คาเฟ่ และ ออเทอร์ คาเฟ่ จำนวน 182 ที่นั่ง ชั้นลอย พื้นที่ 163 ตารางเมตร จำนวน 1 ร้าน คือ เมซอง ดู แวง จำนวน 42 ที่นั่ง เปิดบริการทุกวัน เวลา 07.00-22.00 น. โทร.0 2677 8721
หมายเหตุ : ภาพโดย ศุกร์ภมร เฮงประภากร
ไอเบอริโก ร้าน เอวรีล กูร์เมต์ แอนด์ บอร์ดิเยร์ ซีเล็กชั่น
เนยแข็งหลายประเภทของร้าน เอวรีล กูร์เมต์ แอนด์ บอร์ดิเยร์ ซีเล็กชั่น
ตู้รักษาอุณหภูมิโคลด์คัต ร้าน "เอวรีล กูร์เมต์ แอนด์ บอร์ดิเยร์ ซีเล็กชั่น"
เครื่องชงกาแฟแบบ อันเดอร์ เคาน์เตอร์ ร้าน Other Cafe
เคบินเก็บไวน์ภายใน "เมซอง ดู แวง" (Maison du Vin)
บรรยากาศภายในร้าน ICI