“เกาะผ้า” Unseen สุดปัง “พังงา” ที่จะลับหรือไม่ลับ ขึ้นอยู่กับธรรมชาติกำหนด

“เกาะผ้า” Unseen สุดปัง “พังงา” ที่จะลับหรือไม่ลับ ขึ้นอยู่กับธรรมชาติกำหนด

“เราเที่ยวด้วยกัน” ก็มาแล้ว ฤดูการท่องเที่ยวก็เปิดแล้ว ได้เวลาเก็บกระเป๋าลง “พังงา” เที่ยว “เกาะผ้า” สุด Unseen แห่งอันดามันที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นมาให้เป็นสวรรค์ของคนรักการเที่ยวทะเล

เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็ชอบไปร้านอาหารลับ คาเฟ่ลับ จะเที่ยวก็ต้องที่ลับๆ ขอบอกว่าต้องเจอที่นี่หน่อย เกาะผ้า จุดเช็คอินสุด Unseen ของ พังงา ที่นอกจากจะสวยปังอลังการ ยังมาพร้อม “ความลับ” ที่ต้องอาศัยธรรมชาติเป็นตัวกำหนด

ประมาณ 40-50 นาทีจากท่าเรือไปยัง “เกาะผ้า” บนผืนน้ำของทะเลอันดามันที่ช่วงนี้คือไฮซีซั่น ฟ้าสวย น้ำใส ไร้ฝน คือระหว่างทางที่ทำให้การเดินทางไปยังเกาะแห่งนี้ไม่น่าเบื่อ

พอใกล้ครบเวลาของการเดินทาง ถ้ามองไปที่หน้าเรือ จะเห็นคล้ายสันทรายโผล่ขึ้นมาทาบทับกับเส้นขอบฟ้า นั่นแหละคือ “เกาะผ้า” เกาะเล็กๆ กำลังเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว เพราะด้วยลักษณะตรงตามสูตร “น้ำใส ทรายขาว” ในระดับที่หลายคนเอาเกาะผ้าไปฟาดฟันกับมัลดีฟส์เลยทีเดียว

“เกาะผ้า” Unseen สุดปัง “พังงา” ที่จะลับหรือไม่ลับ ขึ้นอยู่กับธรรมชาติกำหนด

ลักษณะของ “เกาะผ้า” คล้ายทะเลแหวก คือจะโผล่พ้นน้ำขึ้นมาเป็นสันดอนทรายเฉพาะเวลาที่น้ำทะเลลดลงเท่านั้น ยิ่งน้ำลดมากเท่าไรก็จะมีเนื้อที่เกาะมากเท่านั้น โดยจะเห็นเป็น 3 เกาะขนาดย่อม ในทางกลับกันถ้าน้ำลดไม่มากก็จะเห็นเกาะผ้าได้เพียงเกาะเล็กๆ

ชาวบ้านเล่าว่ามีช่วงที่น้ำลดต่ำที่สุดทั้งสามเกาะจะกลายรวมเป็นผืนเดียวกัน จนกระทั่ง “เกาะผ้า” ในช่วงนั้นจะมีพื้นที่มากถึงเกือบ 1 ตารางกิโลเมตร

“เกาะผ้า” Unseen สุดปัง “พังงา” ที่จะลับหรือไม่ลับ ขึ้นอยู่กับธรรมชาติกำหนด

จะเห็นได้ว่า “เกาะผ้า” ไม่ใช่เกาะที่จะเที่ยวได้ตลอดเวลา นึกจะมาก็ใช่ว่าจะได้เห็น ต้องดูช่วงเวลาน้ำขึ้น-น้ำลง แต่นอกจากธรรมชาติจะกำหนดช่วงเวลาให้มองเห็นแล้ว จุดกำเนิดของเกาะผ้าก็มีธรรมชาติเป็นผู้ทำคลอดด้วยเช่นกัน

“เกาะผ้า” Unseen สุดปัง “พังงา” ที่จะลับหรือไม่ลับ ขึ้นอยู่กับธรรมชาติกำหนด

ในอดีต “เกาะผ้า” เป็นเกาะเล็กๆ เนื้อที่ราว 4-5 ไร่ บนเกาะมีต้นสน ต้นมะพร้าวมากมาย จนถึงปี 2547 ที่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิถล่มหลายจังหวัดแถบชายฝั่งอันดามัน ซึ่ง “พังงา” คือพื้นที่ประสบภัยอย่างหนัก ผลกระทบจากสึนามินอกจากจะเกิดขึ้นบนฝั่งแล้ว ในท้องทะเลก็กระทบ เช่น ที่เกาะผ้าแห่งนี้

คลื่นยักษ์ได้ซัดเอาต้นไม้ทั้งหมดบนเกาะจมหาย ไม่เพียงแค่นั้น เกาะทั้งเกาะก็จมหายไป ไม่ปรากฏบนแผนที่โลกอีกต่อไป หลงเหลือเพียงสันดอนทรายที่จะโผล่ขึ้นมาในช่วงน้ำลงเท่านั้น คล้ายกำลังประกาศว่าฉันเคยอยู่ตรงนี้ แม้จะไม่เหมือนเดิม แต่ตอนนี้ “เกาะผ้า” ได้กลายเป็นสถานที่สุด Unseen ของ “พังงา” ไปแล้ว

“เกาะผ้า” Unseen สุดปัง “พังงา” ที่จะลับหรือไม่ลับ ขึ้นอยู่กับธรรมชาติกำหนด

สำหรับชาวประมงพื้นบ้าน สันทรายที่เรียกว่าเกาะผ้านี้เป็นที่ชินตา จนเกิดเป็นกระแสขึ้นหลังจากมีนักท่องเที่ยวสายดำน้ำมาพบแล้วถ่ายภาพโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย ไวรัลเกาะผ้าจึงได้เริ่มต้นขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่ความแปลกตาเท่านั้น แต่ดีกรีของเกาะผ้าที่ไม่แพ้ใครก็คือความงาม

ทรายบนเกาะผ้ามีเนื้อละเอียดมาก สีขาวนวลทั่วทั้งเกาะ ราบเรียบจนเป็นที่มาของชื่อ “เกาะผ้า” เพราะเรียบเหมือนผืนผ้านั่นเอง นอกจากนี้ยังมีน้ำทะเลใสราวกระจก มองลงไปในน้ำบางทีก็จะได้เห็นปลาตัวเล็กตัวน้อยแหวกว่ายไปมา ซึ่งบริเวณนี้ก็มีจุดดำน้ำสวยๆ ด้วยเช่นกัน

“เกาะผ้า” Unseen สุดปัง “พังงา” ที่จะลับหรือไม่ลับ ขึ้นอยู่กับธรรมชาติกำหนด

จุดดำน้ำของเกาะผ้าจะอยู่รอบๆ ตัวเกาะ บริเวณที่มาความลึกพอสมควร ซึ่งยังมีความอุดมสมบูรณ์ของปะการังและสัตว์น้ำ ที่เป็นเหมือนพระเอกของโซนนี้คือ ปลาการ์ตูน หรือที่หลายคนติดปากว่าปลานีโม่ ใครไม่เคยเห็นปลาการ์ตูนตัวเป็นตามธรรมชาติ ที่นี่คือจุดที่คุณจะมีโอกาสมาใกล้ชิดด้วยตาคุณเอง

“เกาะผ้า” Unseen สุดปัง “พังงา” ที่จะลับหรือไม่ลับ ขึ้นอยู่กับธรรมชาติกำหนด

ตอนนี้ขณะที่ “เกาะผ้า” กำลังเนื้อหอม เป็นทั้ง Check in point เป็นทั้ง Unseen ถึงขนาดบรรจุอยู่ใน "25 Unseen New Series" ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แต่ที่น่าตกใจคือนอกจากธรรมชาติจะสร้างเกาะผ้าขึ้นมา อนาคตมีความเป็นไปได้ว่าการที่ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นจากสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง เกาะผ้าอาจจะจมหายไปอย่างถาวร คาดการณ์กันไว้ว่าอาจภายใน 10 กว่าปีนับจากนี้

การเดินทางไปเกาะผ้า : ขึ้นเรือที่ท่าเรือบ้านน้ำเค็ม มีเรือประมงพื้นบ้านคอยให้บริการ ราคาเหมาลำเริ่มต้น 2,500 บาท โดยสารได้สูงสุด 8 คน

หรือจะใช้บริการผู้ประกอบการเอกชน เช่น Khaolak Wonderland Tours ซึ่งมีความ Exclusive เพิ่มขึ้นก็ได้

(สนับสนุนการเดินทางโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ Hello Phang-nga 365 days)