“รู้ใจ ไซคลิ่งทีม” ทีมจักรยานไทยที่จะไปเวิลด์ทัวร์
เปิดตัวได้ไม่นาน แต่ "รู้ใจ ไซคลิ่งทีม" เป็นหนึ่งในทีมจักรยานไทยที่มีเลือดผสม แต่มีอุดมการณ์แรงกล้าที่จะพาวงการจักรยานไทยไปสู่นานาชาติให้ได้
ตั้งแต่วงการ จักรยาน ของไทยกลับสู่สภาวะปกติ ความนิยมในกีฬานี้ก็เข้าที่เข้าทาง คือเปลี่ยนจากสถานะกีฬาแฟชั่นมาเหลือเพียงตัวจริงและคนที่มีใจรักในสองล้อถีบ
ส่วนแวดวงจักรยานระดับแข่งขัน ทีมจักรยานไทย ก็ยังมีไปโลดแล่นตามสนามแข่งขันทั้งในและนอกประเทศ แต่ที่เรียกได้ว่าเป็นโปรทีมกลับมีไม่มาก หนึ่งในนั้นคือ รู้ใจ ไซคลิ่งทีม (ROOJAI Cycling Team)
“รู้ใจ ไซคลิ่งทีม” แม้จะเริ่มต้นจากการเป็นทีมจักรยานเล็กๆ แถวพัทยา แล้วไต่เต้ามาสู่รายการแข่งขันมาตรฐานของสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ทยอยเก็บคะแนนพร้อมกับสร้างความแข็งแกร่งของทีมมาตลอด จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้ว (2564) ทีมรู้ใจฯ ได้เข้าสู่การแข่งขันของสหภาพจักรยานระหว่างประเทศ (UCI) ในฐานะทีมจักรยานอาชีพเป็นครั้งแรก โดยเริ่มจากเอเชียนทัวร์
ซีเคียง โล Team Manager และนักแข่งของทีม เล่าว่านักกีฬาของ “รู้ใจ ไซคลิ่งทีม” จะมาจากฝั่งอินโดนีเซีย 4 คน และจากฝั่งไทย 6 คน เนื่องจากได้จดแจ้งการตั้งทีมร่วมกับประเทศอินโดนีเซีย โดยมีผลงานโดเด่นตั้งแต่สนามแรกที่ลงแข่งคือในรายการ Tour of Thailand 2020 ได้อันดับที่สนามประเภทเจ้าภูเขา (KOM – King of Mountain) และได้ติดอันดับ Top 10 ในหลายสเตจ หลังจากนั้นทีมได้ก้าวสู่เส้นทางแข่งขันในหลายรายการที่ใหญ่ขึ้น
“เฉพาะปีนี้ เราไปแข่งที่ดูไบ, มาเลเซีย, Tour of Thailand และหลังจากนั้นช่วงกลางปีเราจะไปเก็บตัวที่ตุรกีและแข่ง One Day Race กับ Stage Race ที่นู่น ต่อด้วยไปแข่งที่อินโดนีเซีย ซึ่งมีรายการแข่งประมาณ 3-4 ทัวร์ ตารางการแข่งเราจะชัดเจนมากกว่าปีที่แล้ว และปีนี้เรามีนักแข่งมาเลเซียเข้ามาเสริมทีมรู้ใจ เราจะได้ประสบการณ์ของเขามาช่วยทำให้ทีมพัฒนาไปข้างหน้าอีก”
ถึงแม้ “รู้ใจ ไซคลิ่งทีม” จะประกอบด้วยนักกีฬาทั้งไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย แต่ขาหลักของทีมคือ Based on Thailand ซึ่งการตั้งทีมร่วมกับอินโดนีเซียก็มีเหตุผล คือ กฎเกณฑ์ของสมาคมจักรยานแห่งประเทศไทยฯ อาจยังไม่เอื้อให้เกิดโปรทีมง่ายๆ การจับมือกันระหว่างสองชาติจึงเป็นช่องทางที่ทั้งเจ้าของทีมอย่าง รู้ใจ.com รวมถึง ปีเตอร์ พูลี่ย์ จะผลักดันทีมรู้ใจให้ไประดับสากลได้
ปีเตอร์ พูลี่ย์ กล่าวในฐานะผู้อำนวยการทีมว่า สมาคมจักรยานแห่งประเทศไทยฯ มีทีมอาชีพของสมาคมเอง ซึ่งในงานแข่งระดับนานาชาติ จะเชิญทีมแข่งจากแต่ละชาติ ชาติละหนึ่งทีม นี่จึงเป็นสาเหตุให้ทีมรู้ใจต้องมีความเป็นลูกครึ่ง เพื่อจะได้ไม่ต้องแย่งโควต้าดังกล่าว เป็นการพัฒนาทีมอาชีพไปด้วยกัน
“อินโดนีเซียมีรายการแข่งเยอะ 70 เปอร์เซ็นต์ของเอเชียทัวร์ตลอดทั้งปี พอทีมรู้ใจไปอยู่ที่อินโดนีเซีย เราจะมีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมดได้ง่ายขึ้น ทำให้ทีมได้ฝึกฝนและได้มีตารางซ้อมที่ชัดเจนมากขึ้น”
ทั้งการตั้งทีมที่เอื้อต่อการส่งทีมร่วมแข่งขันรายการใหญ่ กับความพร้อมในฐานะทีมจักรยานอาชีพ ทำให้ทีมรู้ใจมองว่าปีนี้ “หวังผล” ได้ในระดับหนึ่ง เนื่องจากปัจจุบันทีมมีค่อนข้างครบองค์ประกอบ ทั้งเลือดใหม่ที่พร้อมขึ้นมาไล่บดขยี้ทีมคู่แข่ง และมีรุ่นใหญ่มากประสบการณ์ที่พร้อมถ่ายทอดมุมมองและเทคนิค ด้วยเป้าหมายเดียวกันคือดัน “รู้ใจ ไซคลิ่งทีม”
“ถึงเราจะมีทั้งความเป็นทีมไทยและอินโดนีเซีย แต่เราวาง Priority หลักๆ ที่ไทย และเราต้องการส่งเสริมนักกีฬาไทยที่มีความสามารถด้วย เช่นที่ทีมรู้ใจมีการเปิดรับสมัครนักกีฬาเพิ่มเติม ที่ผ่านมาก็มีรับสมัครที่เชียงใหม่ ให้คนที่สนใจติดต่อเข้ามาที่ทีมรู้ใจได้โดยตรง เรามีการทดสอบความสามารถต่างๆ ซึ่งในการเปิดรับสมัครที่เชียงใหม่นั้นเราได้นักกีฬาสามคนที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรก แล้วพอจบการทดสอบทั้งหมด เราก็ได้นักกีฬาจากเชียงใหม่มาเพิ่มหนึ่งคนซึ่งจะเข้าร่วมทีมอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนมิถุนายนนี้” ผู้จัดการทีมรู้ใจกล่าว
ด้านปีเตอร์ พูลี่ย์ พูดถึงเป้าหมายนี้ว่าช่วง 2-5 ปีนี้ ทีมรู้ใจต้องการนักกีฬาชาวไทย หรืออย่างน้อยคือชาวอาเซียน แบบครบทีม เพื่อเป็นทีมไทย (ที่อาจจะมีชาติอาเซียนรวมด้วย) ในระดับสากล ซึ่งเป็นเป้าหมายร่วมกันกับพาร์ทเนอร์หลักคือ รู้ใจ.com ที่มองไปในทางเดียวกันคืออยากพัฒนาทีมไทยให้ไปได้ไกลในเอเชียนทัวร์และเวิลด์ทัวร์
อีกความแตกต่างระหว่างทีมจักรยานอื่นๆ ซึ่งส่วนมากจะเป็นการได้รับสปอนเซอร์จากแบรนด์สินค้า จึงมีโอกาสที่การสนับสนุนอาจจะตกร่องได้ไม่ว่าจะเพราะผลงาน ผลประกอบการ หรือแม้กระทั่งช่วงไม่มีการแข่ง ขณะที่ทีมรู้ใจ หลังจากวางตัวเป็นทีมจักรยานอาชีพ หมายความทุกคนมีเงินเดือน และได้รับการสนับสนุนไม่ว่าจะช่วงซ้อม แข่งขัน หรือช่วงที่รายการงดแข่งขันเพราะสถานการณ์โควิด-19
“การไปทัวร์หรือแข่งที่ต่างๆ ในต่างประเทศ เราค่อนข้างเสี่ยง แต่ทางรู้ใจไม่เคยลังเลที่จะสนับสนุนตรงนี้ ผมพยายามหาโอกาสให้ทีมได้เข้าร่วมแข่งขันมากที่สุดเพราะเป็นการช่วยทีมพัฒนาความสามารถ
เมื่อเทียบกับโปรทีมระดับนานาชาติ ถ้าในเอเชีย เรื่องการสนับสนุนเราเทียบได้เป็น Top 5 ของเอเชียเลย ที่เหนือกว่าเราคือทีมของมาเลเซียกับญี่ปุ่น นอกจากนี้ รู้ใจ ไซคลิ่งทีม ยังได้รับการสนับสนุนจากผลิตภัณฑ์ที่เป็น Thai Industry เข้ามาเรื่อยๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการที่ได้รับการสนับสนุนมากแบบนี้ ต้องมีผลตอบแทนคือลำดับในการแข่งที่ต้องดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทีมก็พยายาม เพราะเราคือทีมอาชีพ การแข่งคืออาชีพ ยิ่งเรามีทัวร์นาเมนต์การแข่งเยอะ สปอนเซอร์ก็จะเข้ามาเพิ่มขึ้น เราก็พยายามหาทางเพื่อเข้าแข่งได้มากที่สุด เพื่อโชว์ศักยภาพของทีม
ไม่ใช่แค่เรื่องผลการแข่งขัน แต่เรื่องการประพฤติตัวของนักกีฬาก็ต้องเป็นตัวอย่างที่ดี เพราะเราคือตัวแทนของคนไทย ของเอเชีย ทีมรู้ใจอยากเป็นตัวแทนให้คนที่ชื่นชอบการขี่จักรยาน หรือคนที่มีความฝันที่จะเป็นนักจักรยานอาชีพ อยากให้เชื่อว่าเราเป็นคนไทยก็ก้าวไปสู่ระดับสากลได้ ทีมรู้ใจจะโชว์ให้ทุกคนเห็นว่าเราทำความฝันให้เป็นความจริงได้ อยากให้มีความเชื่อว่าเราจะทำได้”