ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ หวังเห็นแก้ 'ปัญหาโลกร้อน' ใน MOU 'ก้าวไกล'
ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ขอแค่เรื่องโลกร้อน ความหลากหลาย สิ่งแวดล้อม ปรากฏอยู่ใน MOU 'ก้าวไกล' ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีมากแล้ว พร้อมแชร์ต้นเหตุปัญหาโลกร้อน แม้แต่ฝุ่น ขยะ น้ำเสีย ระบบนิเวศเสื่อมโทรม ภัยพิบัติ ก็เป็นปัญหาระดับประเทศที่รุนแรงขึ้นทุกที
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร วันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค.2566 ผลปรากฏในวันจันทร์ที่ 15 พ.ค. ว่า พรรคก้าวไกล ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ความเปลี่ยนแปลงย่อมเกิดขึ้นหลายด้านตามนโยบายที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ประกาศไว้ช่วงการหาเสียง
โดยเฉพาะนโยบายด้าน สิ่งแวดล้อม หัวหน้าพรรคก้าวไกลประกาศเอาจริงกับ ปัญหาโลกร้อน โดยระบุว่า "ปัญหาโลกร้อนเป็นภัยความมั่นคงของยุคปัจจุบัน นี่คือศัตรูตัวจริงของรัฐบาล ไม่ใช่ความมั่นคงทางทหารแบบเดิมอีกต่อไป" พร้อมกับประกาศนโยบายเชิงรุกและเชิงรับ ไว้จำนวน 29 หัวข้อ
โอกาสแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักสมุทรศาสตร์และผู้เชี่ยวด้านนิเวศทางทะเล ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์จริงของปัญหาด้าน สิ่งแวดล้อม ของโลกและประเทศไทยผ่านเฟซบุ๊ก ThonThamrongnawasawat ไว้ดังนี้
"โลกร้อน ความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นประเด็นสำคัญสุดๆ ในเวทีโลกยุคปัจจุบันและเกี่ยวพันไปถึงเศรษฐกิจ สังคม
ฝุ่น ขยะ น้ำเสีย ระบบนิเวศเสื่อมโทรม ภัยพิบัติ เป็นปัญหาระดับประเทศที่รุนแรงขึ้นทุกที
ก้าวไกล มีนโยบายชัดเจนในเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่อง โลกร้อน นั่นเป็นเรื่องที่ดีและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะปรากฏใน MOU
ก้าวไกล บอกว่าประเทศไทยยังลดก๊าซเรือนกระจกน้อยไป ถูกจัดอยู่ในอันกับน่าเป็นห่วงมาก (ร้อนเพิ่ม 4 องศา) ข้อมูลดังกล่าวเป็นขององค์กรติดตามเรื่องโลกร้อนระดับสากลครับ
เมื่อมีปัญหาต้องเผชิญ จึงมีหลายนโยบายที่กำหนดออกมา เช่น เลิกถ่านหินทั้งหมด 2580 เร่งโซลาร์ประชาชน ขนส่งสาธารณะ สนับสนุนปลูกป่า/ปลูกต้นไม้ ฯลฯ
สำหรับผม พวกนั้นเป็นแนวคิดที่ดี แต่หากจะให้ลดเป็นกอบเป็นกำ ต้องให้ความสำคัญกับการกักเก็บคาร์บอน การกักเก็บมี 2 แบบ
- หนึ่งคือโดยมนุษย์ เป็นระบบ CCS (carbon capture & storage) หลายประเทศกำลังเร่งเรื่องนี้ เมืองไทยก็เริ่มบ้างแล้ว เราคงเป็นผู้นำไม่ได้ แต่ตามให้ทันและนำมาใช้อย่างเหมาะสม ตรงนี้จำเป็นครับ
- อีกเรื่องสำคัญมากคือ Nature Based ใช้ระบบนิเวศเป็นตัวดูดซับ ความสำคัญจึงกลับไปอยู่กับการดูแล ฟื้นฟูทั้งทะเลทั้งป่า
เรื่องการฟื้นฟูป่า ต้นไม้ พอเห็นในนโยบาย แต่เรื่องการดูแลรักษาระบบนิเวศ ตรงนี้
สำคัญมาก
หวังว่าจะเห็นนโยบายที่จริงจังกับการเพิ่มศักยภาพในการดูแลระบบนิเวศทั้งป่าทั้งทะเล โดยเฉพาะสนับสนุนคนดูแลให้มีความพร้อมและกำลังใจในการทำงาน
ก้าวไกลยังมีอีกนโยบายตามมาคือด้าน ความหลากหลายทางชีวภาพ เรื่องนี้สำคัญเช่นกัน และทั้ง 2 เรื่องจะเกี่ยวข้องกับการดูแลระบบนิเวศโดยตรง
ยังรวมถึง สัตว์หายาก ที่จะเป็นประเด็นสำคัญในแหล่งทุนระหว่างประเทศ โดยเฉพาะสัตว์ทะเลหายากทั้งหลาย (เรื่องโลมากับสะพานเป็นตัวอย่างที่ดีครับ)
ในเรื่อง ฝุ่น ขยะ food waste น้ำเสีย ปรากฏอยู่ในนโยบายบ้าง แต่ยังมีอีกหลายจุดที่น่าทำ ซึ่งในอนาคตอาจปรากฏ เช่น เพิ่มศักยภาพรีไซเคิลขยะ/บำบัดน้ำเสีย (ทั้ง 2 เรื่องนี้ไทยยังทำได้แค่ 30-40%)
สุดท้ายคือ ภัยพิบัติ ก้าวไกลกล่าวถึงระบบป้องกัน เตือนภัยน้ำท่วม ซึ่งนั้นดีครับ หวังว่าในอนาคตจะต่อยอดไปถึงภัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น น้ำจืดลงทะเล พายุ ฯลฯ
ยังมีอีกหลายเรื่อง แต่ทราบดีว่าตอนนี้เพิ่มเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลง จะทำอะไรมันต้องใช้เวลา ขอแค่เรื่องโลกร้อน/ความหลากหลาย/สิ่งแวดล้อม ปรากฏอยู่ใน MOU ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีมากแล้ว
ความเปลี่ยนแปลงนำพามาซึ่งความหวังใหม่ๆ แต่เราคงหวังอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องช่วยกัน
เพราะจะอย่างไร นี่คือประเทศไทยของเรา และเรารักประเทศไทยครับ"
credit photo: ศูนย์ภาพเนชั่น, เฟซบุ๊ก ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์
