7 เรื่องน่ารู้จากนิทรรศการพระพุทธรูปสำคัญในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ

รวมเรื่องน่ารู้จากนิทรรศการพิเศษ พระพุทธรูปสำคัญในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ที่จะช่วยให้คุณเข้าชมนิทรรศการได้อย่างมีอรรถรส ระหว่างวันที่ 9 มิถุนายน - 10 กันยายน 2566 ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร
1. มหาบุรุษลักษณะ
พระพุทธรูปปางลีลา ศิลปะสุโขทัย พุทธศตวรรษที่ 19-20 จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สวรรควรนายก จ.สุโขทัย
พระพุทธรูปสร้างขึ้นภายใต้แนวคิดว่าพระพุทธเจ้าทรงเป็นมนุษย์ มิใช่เทพเจ้า โดยถ่ายทอดมาจากคติมหาบุรุษลักษณะของบุคคลที่เพียบพร้อมในการตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า อาทิเช่น พระรัศมีเบื้องบนพระอุตมังคสิโรตม์ (เกตุมาลา) พระอุษณีษะ (พระเศียรเบื้องบนโป่ง) ขมวดพระเกศาเวียนทักษิณาวรรต มีอุณาโลม (ขนระหว่างพระขนง) พระกรรณยาว พระศอกลม พระกายท่อนบนผึ่งผาย พระกรงามดุจงาช้าง พระเพลากลมงาม พระชงฆ์รี สั้นพระบาทยาว พระบาทราบเสมอกัน
2. “ปาง” บอกเล่าเหตุการณ์
เดิมคำว่า “ปาง” หมายถึง ครั้งคราว หรือ เหตุการณ์ในช่วงเวลาหนึ่ง แตกต่างจากอิริยาบถ อาสนะ และมุทรา ปัจจุบัน “ปาง” ใช้ในการสื่อความหมายถึงเหตุการณ์ตอนใดตอนหนึ่งของพุทธประวัติ รวมถึงพระพุทธรูปที่แสดงอิริยาบถต่างๆ ได้แก่ นั่ง นอน ยืน เดิน
พระพุทธรูปสมัยแรก นิยมสร้างพระปางสำคัญรวม 8 ปาง ได้แก่ ปางประสูติ ปางตรัสรู้ ปางปฐมเทศนา ปางปรินิพพาน ปางแสดงยมกปาฏิหาริย์ ปางเสด็จลงจากดาวดึงส์ ปางทรมานช้างนาฬาคีรี และปางรับบาตรจากพญาวานร
3. ปางแสดงธรรมทั้งสองพระหัตถ์
พระพุทธรูปปางแสดงธรรมที่พบในอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นิยมแสดงปางด้วยพระหัตถ์ซ้ายหรือขวาเพียงข้างเดียว การแสดงปางด้วยสองพระหัตถ์ในลักษณะสมมาตร นับเป็นรูปแบบเฉพาะที่พบในวัฒนธรรมทวารวดี หรือในประเทศไทย เมื่อราว 1,200-1,300 ปีมาแล้ว โดยมีลักษณะที่สืบต่อมาจากการเลียนแบบศิลปะอินเดียในระยะแรก และวิวัฒนาการดัดแปลงจนมีรูปแบบท้องถิ่น
4. ปางลองหนาว
พระพุทธรูปทรงจีวรคลุมพระวรกาย ทดลองความหนาว สะท้อนเหตุการณ์ขณะพระพุทธเจ้าทรงหาข้อสรุปว่าจะให้พระสงฆ์ครอบครองจีวรได้กี่ผืน เนื่องจากในช่วงเวลาหนึ่งมีการสะสมจีวรมากเกินควร พระองค์จึงทรงลองห่มผ้าจีวรในเวลากลางคืนที่มีอากาศหนาวเย็นเพื่อหาคำตอบว่ามีกี่ผืนถึงจะอุ่นพอดี จึงเป็นที่มาของพระไตรจีวร
พระปางลองหนาวนี้พบไม่มากนัก ในพ.ศ. 2453 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โปรดให้สร้างพระพุทธรูปปางนี้เป็นพระพุทธรูปประจำพระชนมพรรษาของพระองค์
5. ปางฉันสมอ
พระพุทธรูปปางฉันสมอเป็นพระปางที่พบไม่มากนักในประเทศไทย พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระเพลากลางพระหัตถ์มีภาชนะบรรจุสมอ พระหัตถ์ขวาวางทอดลงบนพระชงฆ์หงายพระหัตถ์ถือผลสมอ
แสดงพุทธประวัติในสัปดาห์ที่ 7 หลังตรัสรู้เป็นเวลา 49 วัน และยังมิได้เสวยพระกระยาหาร พระอินทร์จึงถวายผลสมอมาเป็นโอสถก่อนเสวยภัตตาหาร เนื่องจากผลสมอมีสรรพคุณทางยา เป็นยาระบาย บรรเทาอาการท้องผูก ท้องร่วง รักษาอาการเจ็บคอ ขับเสมหะ และช่วยให้ชุ่มคอ
6. คติมหายาน
พระพุทธเจ้าตามคติพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน นับถือว่าพระพุทธเจ้าในอดีตปัจจุบันและอนาคตมีอยู่เป็นจำนวนมากเปรียบได้กับเม็ดทรายในท้องสมุทร เป็นคติที่ได้รับความนับถืออย่างแพร่หลายในวัฒนธรรมเขมรในช่วงพุทธศตวรรษที่ 18
พระพุทธรูปปางมารวิชัยในซุ้มเรือนแก้วองค์นี้ สะท้อนความเชื่อดังกล่าวได้เด่นชัด ดังจะเห็นได้จากยอดซุ้มลายใบไม้ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดเล็กจำนวนมาก
ด้วยความงดงามทางสุนทรียะในเชิงช่าง พระพุทธรูปองค์นี้ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในโบราณวัตถุที่เป็นสมบัติชิ้นสำคัญของชาติในหนังสือที่กรมศิลปากรจัดพิมพ์ ปีพ.ศ. 2551
7 . หลวงพ่อเพชร
หนึ่งในพระพุทธรูปที่ได้รับการกล่าวขานในเรื่องสุนทรียะที่งดงามโดดเด่นและเป็นที่ศรัทธาของประชาชน ที่มาของชื่อ “หลวงพ่อเพชร” เนื่องมาจากประทับนั่งในท่าขัดสมาธิเพชรแสดงพระชงฆ์ไขว้กันเกือบเป็นรูปกากบาท
ลักษณะโดยรวมคล้ายศิลปะล้านนา แต่มีข้อสังเกตที่แสดงลักษณะเฉพาะของช่างสุโขทัย กล่าวคือ พระถันที่พระอุระด้านซ้ายทำให้เห็นชัดเจน และมีเส้นจีวรคาดใต้พระชานุสองเส้น เป็นรูปแบบที่ไม่มีในพุทธศิลป์ล้านนา จึงจัดเป็นพระพุทธรูปขัดสมาธิเพชรในศิลปะสุโขทัย ที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างพระพุทธรูปสุโขทัยหมวดใหญ่และพระพุทธรูปล้านนา
ตามประวัติกล่าวว่าเดินเป็นพระปูนปั้น ครั้นเมื่อปูนกะเทาะออกจึงได้พบพระพุทธรูปสำริดอยู่ภายใน ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระบรมธาตุวรวิหาร จ.ชัยนาท เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดพระบรมธาตุวรวิหาร ทรงอัญเชิญมาประดิษฐานที่กรุงเทพฯ
ภายหลังเมื่อเสด็จสวรรคต จึงได้อัญเชิญกลับมาประดิษฐานที่วัดดังเดิมก่อนมอบให้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชัยนาทมุนีเก็บรักษาไว้เป็นสมบัติของชาติต่อไป
หมายเหตุ : เรียบเรียงจากบทสัมภาษณ์ ยุทธนาวรากร แสงอร่าม ภัณฑารักษ์ชำนาญการ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และ บทความกำเนิดพระพุทธรูป โดย เด่นดาว ศิลปานนท์ ภัณฑารักษ์เชี่ยวชาญ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
ที่มา : นิทรรศการพิเศษ พระพุทธรูปสำคัญในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
จัดขึ้นเนื่องในมหามงคลสมัยสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ทรงเจริญพระชนมายุครบ 8 รอบ 96 พรรษา และครบรอบ 112 ปี กรมศิลปากร ในปี 2566
กรมศิลปากรจึงจัดพิมพ์หนังสือพระพุทธรูปสำคัญในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ โดยคัดเลือกพระพุทธรูปจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทั่วประเทศจำนวน 112 องค์ พร้อมกับอัญเชิญพระพุทธรูป 81 องค์ มาจัดแสดงในนิทรรศการพิเศษ พระพุทธรูปสำคัญในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
ระหว่างวันที่ 9 มิถุนายน - 10 กันยายน 2566 ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร เวลา 9.00-16.00 น. (ปิดวันจันทร์และวันอังคาร) โทร. 0 2224 1333