3 ข้อสรุปกรณีรื้อย้าย 9 ปืนใหญ่โบราณวัดพระมหาธาตุ ไม่แจ้งสำนักศิลปากร 12
อธิบดีกรมศิลปากร เผย 3 ข้อสรุป พร้อมกำชับ ‘สำนักศิลปากรที่ 12 นครศรีธรรมราช’ กำกับดูแลโครงการอนุรักษ์โบราณสถาน วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช ส่งนักวิทยาศาสตร์ฯ ดำเนินการอนุรักษ์ปืนใหญ่โบราณก่อนนำจัดแสดงตามหลักวิชาการ
ตามที่ปรากฏข่าวผู้รับเหมาทุบรื้อ ปืนใหญ่โบราณ ภายในบริเวณ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช อ้างเพื่อการเป็น มรดกโลก ได้สร้างความไม่สบายใจและเสียงวิพากย์วิจารณ์ในหมู่ประชาชนและผู้พบเห็นไปต่างๆ นานา
นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยเมื่อวันที่ 15 ก.ค.2566 ว่า ในเรื่องนี้ ‘สำนักศิลปากรที่ 12 นครศรีธรรมราช’ ได้เข้าตรวจสอบและรายงานว่า วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช มีหนังสือลงวันที่ 5 เมษายน 2566 ขออนุญาตซ่อมแซมปรับปรุงวิหารในวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร จำนวน 5 หลัง ได้แก่
- วิหารพระม้า วิหารโพธิ์ลังกา วิหารพระแอด และวิหารสามจอม (วิหารพระเจ้าศรีธรรมโศกราช)
ปืนใหญ่โบราณที่ถูกรื้อถอน
พร้อมกับแจ้งว่า งานจัดทำเอกสารนำเสนอการเป็นมรดกโลกฉบับสมบูรณ์ (Nomination Dossier) ใกล้แล้วเสร็จ คงเหลือเฉพาะงานแก้ไขซ่อมแซมปรับปรุงวิหาร 5 หลัง ซึ่งอยู่ในสภาพชำรุด และมีวัสดุแปลกปลอมติดตั้งอยู่
โดยรายการรื้อย้าย แท่นปืนใหญ่ 9 ชุด เพื่อปรับพื้นปูหินอ่อนตามเดิมบริเวณรอบ ‘วิหารพระแอด’ อยู่ในรายการขออนุญาตในครั้งนี้ด้วย
แท่นปืนใหญ่โบราณถูกรื้อถอนเพื่อปรับพื้นบริเวณรอบ ‘วิหารพระแอด’
ทั้งนี้ กรมศิลปากร ได้อนุญาตให้ดำเนินการซ่อมแซมปรับปรุงตามแบบรูปรายการได้ โดยใช้ช่างฝีมือที่มีความชำนาญและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลร่วมกันระหว่าง ‘สำนักศิลปากรที่ 12 นครศรีธรรมราช’ และ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร
แต่เมื่อ ‘สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช’ เสนอขอความเห็นชอบโครงการฯ ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และดำเนินการจัดจ้าง รวมทั้งการขอเข้าทำงานของผู้รับจ้าง กลับไม่ได้มีการแจ้งให้ ‘สำนักศิลปากรที่ 12 นครศรีธรรมราช’ ทราบ แต่อย่างใด
หารือมาตรการรื้อถอนและอนุรักษ์ปืนใหญ่โบราณ
‘สำนักศิลปากรที่ 12 นครศรีธรรมราช’ จึงได้ สั่งให้ผู้รับจ้างหยุดงานไว้ก่อนจนกว่าจะได้รับอนุญาต และได้นัดประชุมร่วมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ผู้แทนวัดที่ได้รับแต่งตั้ง ผู้ควบคุมงาน สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 12 นครศรีธรรมราช และผู้รับจ้าง ได้ข้อสรุปดังนี้
- มอบหมายให้ผู้แทนสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช ควบคุมการปฏิบัติงานของผู้รับจ้าง โดยจะต้องดำเนินการ ติดตั้งป้ายโครงการฯ เพื่อชี้แจงการปฏิบัติงานต่อสาธารณชนให้เรียบร้อยโดยด่วน รวมทั้งให้ผู้รับจ้าง เสนอแผนการทำงาน เสนอคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ และผู้ควบคุมงานพิจารณาก่อนดำเนินการ
- พระธรรมวชิรากร เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร สั่งการให้เคลื่อนย้ายปืนใหญ่ที่รื้อถอนแท่นฐานจากบริเวณวิหารพระแอด ไป จัดเก็บรักษาภายในพิพิธภัณฑ์วัด ซึ่งกรมศิลปากรจะส่งนักวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ดำเนินการอนุรักษ์ปืนใหญ่ ก่อนการติดตั้งแท่นฐานและจัดแสดงตามหลักวิชาการต่อไป
- การเข้าปฏิบัติงานของ ‘ผู้รับจ้าง’ ตามสัญญาจ้าง จะต้องแจ้ง ต่อวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช และสำนักศิลปากรที่ 12 นครศรีธรรมราช ทราบล่วงหน้าทุกครั้ง รวมทั้งจะต้อง ไต้รับอนุญาต จากวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ก่อนการเข้าปฏิบัติงานภายในวิหารแต่ละหลัง
ทั้งนี้ กรมศิลปากร ได้สั่งการให้ ‘สำนักศิลปากรที่ 12 นครศรีธรรมราช’ ติดตาม กำกับดูแลการปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิด และรายงานให้ทราบเป็นระยะต่อไป