ถอดรหัส ‘จิตรกรรมฝาผนัง’ วัดท้ายเกาะใหญ่ ผลงานศิลปินอาสา วาดเพียง 3 วัน
ตามไปชมผลงานของศิลปินกลุ่มฟ้าประทาน นำโดย อลงกรณ์ หล่อวัฒนา กับงานวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังแนวใหม่ที่วัดท้ายเกาะใหญ่ ปทุมธานี ที่นอกจากจะอาสามาวาดด้วยใจถวายเป็นพุทธบูชาแล้ว ยังใช้เวลาวาดได้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน
“โพธิปัญญา” ผลงานจิตรกรรมฝาผนังที่วัดท้ายเกาะใหญ่ ปทุมธานี
เส้นทางสายบุญที่นำศิลปะมาถวายเป็นพุทธบูชา เริ่มต้นจาก มิตรชัย ภักตร์เจริญ ศิษย์เก่าคณะจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เจ้าของธุรกิจร้านอาหารและที่พักริมแม่น้ำเจ้าพระยาขับเรือมาจอดที่ท่าน้ำ วัดท้ายเกาะใหญ่ ต.ท้ายเกาะ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ด้วยความตั้งใจที่จะมาถวายสังฆทาน
แต่หลังจากได้พบกับพระผู้ใหญ่ที่วัดทำให้ทราบว่าโบสถ์เก่าแก่มีความทรุดโทรม จึงเกิดศรัทธาในการบูรณะซ่อมแซม ด้วยความที่ร่ำเรียนมาทางศิลปะจึงได้ชักชวนเพื่อนร่วมรุ่น อลงกรณ์ หล่อวัฒนา ศิลปินร่วมสมัยที่มีชื่อเสียงระดับแนวหน้าของไทย เจ้าของผลงานแนวจิตวิญญาณเชิงสัญลักษณ์ มาร่วมกันสร้างกุศลด้วยการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ
มิตรชัย ภักตร์เจริญ และอลงกรณ์ หล่อวัฒนา สองหัวเรือใหญ่
โดยมิตรชัยรับหน้าที่หาทุนและจัดการซ่อมแซมโบสถ์ให้มีความแข็งแรงปลอดภัย ในขณะที่อลงกรณ์วางแผนงานด้วยการร่างภาพวางแนวคิด แล้วชักชวนศิลปินรุ่นน้อง ธีรวัตน์ นุชเจริญผล, ห่มสวรรค์ อู่ม่านทรัพย์ แต่ละคนก็ชวนลูกศิษย์และเพื่อนๆ ประกอบด้วย พิพัฒน์ ตันติพันธุ์พิพัฒน์, นพดล อากาศ, สุรินทร์ สะมะโน, วิญญู ชัยพงษ์, ปาริชาติ ศุภพันธ์,โอภาส ดวงจิตร, ณเรศ จึง, จิตติพันธ์พชร ธรรมพัฒนกุล, สุรพล หลินมา, พงษ์พิษณุ เทวา, นภัส กังวาลนรากุล, ปภากร สวัสดี, นนทวัฒน์ ป้องศรี และ มุกขรินทร์ สามคูเมือง มาร่วมสร้างบุญด้วยกัน
ศิลปินกลุ่มจิตอาสาฟ้าประสาน ที่มาร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานด้วยใจศรัทธา
“เป็นการรวมตัวกันในนาม กลุ่มจิตอาสาฟ้าประทาน เพราะทุกคนพอได้รู้ข่าวก็มาร่วมงานกันในทันที โดยรับค่าตัวเป็นที่พักกับอาหาร ในชีวิตไม่เคยวาดรูปในโบสถ์ 3 วันเสร็จเลยนะ มีความสุขมาก” อลงกรณ์ เล่าถึงงานวาดภาพที่วัดท้ายเกาะใหญ่ ที่เกิดขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
“ผลงานมีชื่อว่า โพธิปัญญา ผมเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมีปัญญา แต่บางครั้งเราก็หลงใหลไปกับกระแสความงมงายมากกว่าที่จะค้นหาข้อเท็จจริง หรือศึกษาพระธรรม ผลงานชิ้นนี้จึงเปรียบเสมือนเป็นห้องสมุดใหญ่ให้พุทธศาสนิกชนเข้ามาในใจพระธรรมในรูปแบบปริศนาธรรม” อลงกรณ์ บอกกับเรา
“จากการศึกษาพุทธประวัติ ผมได้พบคำตอบว่าต้นไม้ใดๆก็ตามที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ตรัสรู้ ไม่ว่าจะเป็นต้นไทร ต้นไผ่ หรือ ต้นโพธิ์ จะเรียกขานกันว่า โพธิปัญญา
ผมจึงเลือกใช้สีเทาอมฟ้าเป็นพื้นหลัง ใช้สีขาวอมเหลือง สื่อถึงความเป็นกลาง คือ สภาวธรรม สีเทาอมฟ้าขัดฟอกจนขาว สื่อถึงการนำหนทางไปสู่การบรรลุและหลุดพ้น ส่วนสีทองเป็นตัวแทนของศรัทธาแล้วถมด้วยสีอิฐเก่าคล้ายสีกรักของจีวรพระเป็นตัวแทนของพระสงฆ์
จิตรกรรมชิ้นนี้สื่อความหมายหลอมรวมพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ผลงานชิ้นนี้ไม่เพียงเขียนขึ้นเพื่อถวายแด่พระพุทธเจ้าเท่านั้น แต่มีพระธรรมที่ซ่อนอยู่ในเชิงสัญลักษณ์ เพื่อให้พระสงฆ์ได้ใช้ประโยชน์ในการสืบทอดพระพุทธศาสนาให้ครบ 5,000 ปี”
อลงกรณ์ หล่อวัฒนา ลงมือวาดเส้น
ลวดลายด้านบนที่เริ่มต้นมาจากเพดานสีฟ้าอันเป็นตัวแทนของท้องฟ้า
การทำงานเริ่มต้นจากเพดานใช้สีฟ้าอมเทาแทนความหมายของ โดยมีต้นโพธิ์หลักอยู่ที่ด้านหลังพระประธาน แผ่กิ่งก้านออกไปโอบล้อมผนังโบสถ์ทุกด้าน
ศิลปินแบ่งงานกันทำอย่างเป็นระบบ อลงกรณ์ลงมือวาดภาพร่างตามแบบที่ออกแบบเตรียมไว้ล่วงหน้า ส่วนศิลปินจิตอาสาแบ่งทีมงานลงสี ใครลงสีแดง สีขาว สีทอง สีเทาอมฟ้า แบ่งหน้าที่กันไป ทำให้ผลงานเสร็จได้ในเวลาอันรวดเร็ว
เบื้องหลังการทำงาน
“งานนี้มีความสุขตั้งแต่ก่อนลงมือทำ เป็นกิจที่ควรทำในฐานะคนทำงานศิลปะ เราไม่มีเงินไปทำบุญเป็นแสนเป็นล้านแต่เรามีวิชาชีพ ในฐานะที่เรามีสัมมาอาชีวะที่อยู่ในมรรคแปด เราใช้วิชาชีพมาสร้างบุญสร้างกุศลแทนการบริจาคเงินหรือให้ทาน ถือว่าเป็นการสร้างกุศลอีกแบบหนึ่ง ที่สำคัญ คือ งานจิตอาสาสอนให้ใจเป็นสุข ไม่ต้องรอให้รวยแล้วค่อยทำ” อลงกรณ์ กล่าวทิ้งท้ายได้อย่างกินใจ
ลวดลายบริเวณผนังและช่องหน้าต่าง
วัดท้ายเกาะใหญ่เป็นวัดแรกในเส้นทางสายบุญที่มิตรชัยและคณะจิตอาสานำความรู้ความสามารถมาร่วมกันถวายเป็นพุทธบูชาในการบูรณะโบสถ์ วิหาร ในจังหวัดปทุมธานีและอยุธยาที่อยู่ในเส้นทางริมแม่น้ำเจ้าพระยา 30 วัดในช่วงเวลา 3 ปี
ทั้งนี้ผลงานจิตรกรรมฝาผนังมีเพียง 4 วัดได้แก่ วัดท้ายเกาะใหญ่ วัดพิกุลโสคัณธ์ วัดบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และ วัดโพธิ์คอย จ.สุพรรณบุรี ผู้สนใจผลงานจิตรกรรมร่วมสมัยแนวใหม่สามารถติดตามไปชมกันได้
ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในวัดท้ายเกาะใหญ่ที่เสร็จสิ้นลงได้ภายใน 3 วัน
เส้นและสีของโพธิปัญญา
พระอุโบสถวัดท้ายเกาะใหญ่ที่ได้รับการบูรณะให้กลับมางดงามดังวันวาน
สำหรับ วัดท้ายเกาะใหญ่ ตั้งอยู่ ต.ท้ายเกาะ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี เป็นวัดที่อยู่สุดเขตปทุมธานี ภายในมีเจดีย์มอญขนาดใหญ่ที่สุดในปทุมธานี มีกุฎิเก่าทรงไทยฝาประกนและฝาบานเฟี้ยมสองหลังเชื่อมต่อกันเคยเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เมื่อคราวเสด็จประพาสต้นมายังวัดท้ายเกาะใหญ่ ในวันที่ 29 กรกฎาคม 2450
เดิมเป็นพื้นที่ชุกชุมไปด้วยจระเข้ จนชาวมอญในปทุมธานีเรียกขานกันว่า “วังจระเข้”
หมายเหตุ : ภาพบางส่วนจากเฟซบุ๊ก “อลงกรณ์ หล่อวัฒนา”