‘นิทรรศการแอร์เมส’ ชมสาธิตทำเครื่องหนัง เซรามิค และผ้าพันคอในตำนาน
‘แอร์เมส’ (Hermès) ชวนชม ‘นิทรรศการแอร์เมส’ พบเหล่าช่างฝีมือตัวจริงมาสาธิตวิธีทำงานฝีมือทรงคุณค่า ชมอย่างใกล้ชิด ตอบทุกคำถาม ใน ‘Hermès In The Making’ วันนี้ถึง 3 ธันวาคม 2566 ที่ ไอคอนสยาม
แอร์เมส (Hermès) เชิญพบกับเหล่าช่างฝีมือและค้นพบจิตวิญญาณแห่งการสร้างสรรค์และนวัตกรรมผ่านชิ้นงานต่าง ๆ ใน Hermès In The Making วันนี้ถึง 3 ธันวาคม 2566 ณ The Pinnacle ไอคอนสยาม
นิทรรศการแอร์เมส ออกแบบในพื้นที่เปิดโล่ง มีแรงบันดาลใจจากโต๊ะทำงานของช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญ แบ่งออกเป็น 4 ธีมจากพื้นฐานสำคัญแห่งการก่อกำเนิดประวัติศาสตร์ของแบรนด์ ได้แก่ การเก็บรักษาและสืบทอดองค์ความรู้ การให้ความเคารพและคุณภาพของวัสดุ พันธสัญญาในระยะยาว และการวางรากฐานในระดับภูมิภาค
นิทรรศการแอร์เมส
Hermès ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1837 บนถนน Bass-du-Rempart กรุงปารีส โดย Theirry Hermes (1801-1878) เมื่อแรกก่อตั้งนั้นผลิตเครื่องหนังสำหรับอุปกรณ์ขี่ม้าและอุปกรณ์เครื่องหนังสำหรับรถเทียมม้า
ปี 1925 ผลิตอุปกรณ์เกี่ยวกับกีฬากอล์ฟ เช่น กระเป๋า ถุงมือ แจ็คเก็ต นาฬิกา ด้วยวัสดุหนังคุณภาพผนวกกับงานฝีมือ
ปี 1937 ผลิตผ้าพันคอ ซึ่งโด่งดังมากเมื่อแจ็คเกอลีน เคนเนดี้ นำผ้าพันคอผืนเล็กพันพาดบนศีรษะโดยผูกเป็นปมไว้ใต้คาง ซึ่งยุคแรกที่ผลิตผ้าไหมพิมพ์สกรีนนั้นใช้ลายรถเทียมม้า
เวลาต่อมาก็แตกไลน์สินค้ามากมาย เช่น กระเป๋าเคลลี่ (Grace Kelly) เมื่อปี 1956 เสื้อผ้าเรดี้ ทู แวร์ ปี 1967 กระเป๋าเบอร์กิน (Jane Birkin) ปี 1984 เป็นต้น
ขนมในวันเปิดงานนิทรรศการแอร์เมส
ในงานนิทรรศการแอร์เมส ช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญที่เป็นตัวแทนหัตถศิลป์เกือบ 10 แขนงของแอร์เมส เดินทางมาพร้อมกระเป๋าเครื่องมือและวัสดุ เพื่อสาธิตเทคนิคของแต่ละหัตถศิลป์ สามารถเข้าชมอย่างใกล้ชิด สอบถามข้อสงสัย ยังมีกิจกรรมเชิงอินเตอร์แอคทีฟให้ผู้มาชมมีส่วนร่วม และภาพยนตร์สั้น บอกเล่าความเป็นมา
สเตชั่นซิลค์สกรีน
พื้นที่จัดแสดงแบ่งงานหัตถศิลป์ต่าง ๆ อาทิ การแยกสีพิมพ์และการพิมพ์ลายผ้าไหม เริ่มตั้งแต่การออกแบบลายผ้า หลังจากได้ลวดลายจากนักออกแบบแล้วนำไปสร้างไฟล์ดิจิทัลของลายผ้าพันคอผ้าไหมที่แยกตามแต่ละสี ข้อมูลของลวดลาย สี การไล่ระดับสี ฯลฯ นำมาใช้ผลิตบล็อกซึ่งบล็อกหนึ่งชิ้นจะใช้สำหรับการพิมพ์ 1 สีเท่านั้น
สเตชั่นออกแบบลายผ้าก่อนพิมพ์
ดังนั้น โดยเฉลี่ยแล้วการสร้างสรรค์ผ้าพันคอ 1 ผืน จะใช้สีในการพิมพ์ 25-30 สี สำหรับลวดลายที่ซับซ้อนใช้ถึง 48 สี
การสาธิตสกรีนสีลงบนผ้าพันคอได้รับความสนใจมาก ด้วยช่างฝีมือของแอร์เมส เดินทางมาสาธิตการสกรีนสีบนผืนผ้าทีละสี พร้อมอธิบายว่า เมื่อสกรีนเสร็จ 1 สี ต้องรอให้แห้งและตรวจสอบอย่างละเอียดว่าได้สีตามต้องการ ไม่ผิดพลาด สีไม่เลอะ จากนั้นค่อยลงสีต่ออีกทีละ 1 สี จนครบกระบวนการ
ในแต่ละปีผ้าพันคอไหมแอร์เมส แบ่งออกเป็นคอลเลคชั่นต่าง ๆ คอลเลคชั่นละ 8-10 ลวดลาย เพื่อส่งไปจำหน่ายในช็อปของแอร์เมส ซึ่งมีราว 300 สาขาทั่วโลก
การลงสีบนกระเบื้องเคลือบ เป็นอีกหนึ่งสเตชั่นที่ผู้ชมให้ความสนใจ ความเป็นมาเริ่มเมื่อราวศตวรรษที่ 18 ชาวยุโรปค้นพบว่ากระเบื้องเคลือบจากจีนที่มีสีขาว เกิดจากการใช้ดินขาวเป็นหนึ่งในส่วนผสม ต่อมาในฝรั่งเศสค้นพบแหล่งดินขาวใกล้เมืองลิมอจ (Limoges) จึงเริ่มผลิตกระเบื้องเคลือบในประเทศฝรั่งเศสนับแต่นั้น
แอร์เมส พาช่างฝีมือมาแสดงวิธีการลงสี เริ่มด้วยใช้แปรงลงเส้นโครงร่างของลวดลายต่าง ๆ ก่อนจะระบายสีลงบนชิ้นงาน จากนั้นเริ่มลงสีรายละเอียดต่าง ๆ บนลวดลาย ประกอบเทคนิคการใช้แปรงโฟม การเคลือบผิวให้คงทน และเมื่อลงสีแต่ละครั้งก็จะไปเผา ราว 4-5 ครั้ง โดยช่างฝีมือกระเบื้องเคลือบนี้มี 5 คน ทำงานที่บ้าน ในแต่ละเดือนผลิตได้ราว 10 ชิ้น
การทำงานกับหนังสัตว์ มีหลายสเตชั่นที่เกี่ยวกับเครื่องหนัง เช่น การยืดหนัง การทำอานม้าด้วยมือ การทำถุงมือ โดยเฉพาะสเตชั่นกระเป๋า มีผู้สนใจชมมากเป็นพิเศษ เครื่องหนังเป็นความชำนาญอันเอกอุของแอร์เมส การผลิตประณีตหรือ Craftmanship นั้นส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น
เช่น กระเป๋ารุ่น Kelly ประกอบด้วยชิ้นส่วนหนังกว่า 40 ชิ้น การตัดเย็บด้วยเทคนิค saddle stitch รวมถึงเทคนิคต่าง ๆ การเย็บด้วยมือ การสร้างสมดุลระหว่างความแข็งแรง การลงน้ำหนักและความประณีต ฯลฯ
กระเป๋าแอร์เมสทุกใบรังสรรค์ด้วยมือในประเทศฝรั่งเศส ตั้งแต่ปี ค.ศ.2010 เป็นต้นมา มีการจัดเวิร์กชอปเครื่องหนังโดยเฉลี่ย 1 แห่งต่อปี เพื่อส่งเสริมการเติบโตของสายศิลปาชีพนี้ ในแต่ละแห่งได้สรรหาช่างหัตถศิลป์ระหว่าง 250-280 คน
สาธิตและจัดแสดงการออกแบบชิ้นส่วนเพื่อตกแต่งงานต่าง ๆ
ทดสอบ "กลิ่น" ของหนังประเภทต่าง ๆ
แม้กระทั่งการผลิตส่วนประกอบของเครื่องหนังชิ้นเล็กชิ้นน้อย และการซ่อมแซมชิ้นงาน ช่างฝีมือพร้อมสาธิตให้ชม ในแต่ละปีชิ้นงานแอร์เมส มากกว่า 2 แสนชิ้น ได้นำมายังเวิร์กชอปซ่อมแซมชิ้นงาน เพื่อฟื้นฟูสภาพของชิ้นงาน ฝ่ายบริการหลังการขายจะศึกษาสิ่งที่จำเป็นอย่างรอบคอบ ก่อนมอบหมายต่อไปยังมือของผู้เชี่ยวชาญด้านการซ่อมแซมหนังซึ่งทำงานในเวิร์กชอปต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ตามหัวเมืองใหญ่ทั่วโลก
Hermès In The Making นิทรรศการที่บอกเล่าเรื่ององค์ความรู้ที่ยั่งยืนและมีเอกลักษณ์ของ Hermès เวียนมาจัดเป็นครั้งที่ 7 โดยจะจัดหมุนเวียนไปทั่วโลก เริ่มตั้งแต่กรุงโคเปนเฮเกนในเดือนตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา
และต้นปี 2567 Hermès In The Making จะเดินทางไปจัดที่กรุงเม็กซิโกซิตี้ ประเทศเม็กซิโก
ในเมืองไทยเข้าชมฟรี เวลา 12.00 – 20.00 น. ณ ไอคอนสยาม ชั้น 8 ลงทะเบียนเข้าชมที่ HERMES.COM