มาใหม่ Night at The Palace ชมวังยามค่ำ รอบเปิดวัง 2 ก.พ. พระราชวังจันทรเกษม
กิจกรรมใหม่กรมศิลป์ Night at The Palace ย้อนเวลาชมวัง 4 ศตวรรษ เปิดประวัติ ‘พระราชวังจันทรเกษม’ นำชมรอบเปิดวัง 2 ก.พ.2567 แนะนำวิธีแต่งชุดไทยยุครัชกาลที่ 4-6 ชมพระราชวัง สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัง ฉลองเดือนแห่งความรัก ณ วังจันทรฯ พระนครศรีอยุธยา
หลัง ‘กรมศิลปากร’ ประกาศ ขยายระยะเวลาเที่ยวโบราณสถานยามราตรี ที่ วัดไชยวัฒนาราม และ วัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 ซึ่งดำเนินการไปแล้วภายใต้ชื่องาน "ยามค่ำอยุธยา 2567 Ayutthaya Sundown 2024"
พร้อมประกาศเพิ่มการชมโบราณสถานยามค่ำคืนอีก 1 แห่ง ที่ พระราชวังจันทรเกษม กำหนดเริ่มครั้งแรกในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไปนั้น
พระราชวังจันทรเกษม Night at The Palace
ล่าสุด ‘กรมศิลปากร’ โดย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งชื่อกิจกรรมสุดพิเศษชมพระราชวังจันทรเกษมยามค่ำแล้วว่า Night at The Palace ย้อนเวลา ชมวัง 4 ศตวรรษ พระราชวังจันทรเกษม พร้อมด้วยกิจกรรมอีกมากมาย เริ่ม 2 กุมภาพันธ์นี้
นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า ตามที่นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้มอบนโยบายให้กรมศิลปากรส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยเปิดให้ประชาชนเข้าชมโบราณสถานยามค่ำ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
โดยเฉพาะในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นอกจาก วัดไชยวัฒนาราม และ วัดราชบูรณะ กรมศิลปากรได้เปิดให้เข้าชม พระราชวังจันทรเกษม ช่วงค่ำคืนเพิ่มอีกแห่ง ทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 16.30 - 21.00 น. ซื้อบัตรเข้าชมได้ถึงเวลา 20.30 น.
พระราชวังจันทรเกษม Night at The Palace
ทั้งนี้ กรมศิลปากร กำหนดจัดกิจกรรมพิเศษ "นำชม รอบเปิดวัง" ณ พระราชวังจันทรเกษม ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 18.30 น. เป็นต้นไป ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมมากมาย ดังนี้
- กิจกรรมนำชมพระราชวังสุดพิเศษ เฉพาะ 2 ก.พ.2567 18.30 น.
- กิจกรรม “ย้อนเวลาชมวัง” เชิญชวนแต่งชุดไทยเข้าชมพระราชวัง
- กิจกรรม “ชวน ชม ชิม” ฉลองเดือนแห่งความรักที่วังจันทรฯ
- กิจกรรม “ชาววัง ชวนขึ้นหอ” ชมทิวทัศน์อยุธยา บนหอสังเกตการณ์ยุคแรกของสยาม
- กิจกรรม “สายมู ยูต้องมา” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัง
นอกจากนี้ ยังเปิดพื้นที่ภายใน พระราชวังจันทรเกษม ให้หน่วยงาน องค์กร ภาคส่วนต่าง ๆ ร่วมแสดงกิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรม การสาธิต การประดิษฐ์ งานศิลปะ ในช่วงเวลาดังกล่าว
พระราชวังจันทรเกษม Night at The Palace
พระราชวังจันทรเกษม เป็นพระราชวังตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก ปรากฏหลักฐานตามพระราชพงศาวดารสันนิษฐานได้ว่าสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2120 เพื่อเป็นที่ประทับของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ยามเสด็จจากเมืองพิษณุโลกเพื่อมาเฝ้าพระราชบิดาที่กรุงศรีอยุธยา และพระองค์ทรงเคยใช้พระราชวังแห่งนี้เป็นกองบัญชาการรับศึกหงสาวดีเมื่อปี พ.ศ. 2129
นอกจากนี้ยังเคยเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์และพระมหาอุปราชที่สำคัญถึง 8 พระองค์ คือ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ เจ้าฟ้าสุทัศน์ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ขุนหลวงสรศักดิ์ (พระเจ้าเสือ) สมเด็จพระเจ้าท้ายสระ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ และ กรมพระราชวังบวรมหาเสนาพิทักษ์
หลังการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ.2310 พระราชวังจันทรเกษมได้ถูกทิ้งร้างไป
พระราชวังจันทรเกษม Night at The Palace
จนกระทั่งในสมัยรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ซ่อมแซมเพื่อใช้เป็นที่ประทับแปรพระราชฐาน และโปรดพระราชทานนามว่า 'พระราชวังจันทรเกษม' เมื่อวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2436
ต่อมา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานให้เป็น “ที่ว่าการมณฑลเทศาภิบาล”
จนเมื่อ พระยาโบราณราชธานินทร์ ดำรงตำแหน่งสมุหเทศาภิบาลมณฑลกรุงเก่า ได้มีการจัดสร้างอาคารที่ทำการภาคขึ้นใหม่ แล้วย้าย 'ที่ว่าการมณฑล' ไปยังอาคารที่ทำการภาค และได้รวบรวมวัตถุสิ่งของสำคัญในบริเวณกรุงเก่าและบริเวณใกล้เคียงจำนวนมากมาเก็บรักษาไว้ที่พระราชวังจันทรเกษม
พ.ศ. 2445 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงแนะนำให้พระยาโบราณราชธานินทร์ จัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ ที่เรียกว่า 'โบราณพิพิธภัณฑ์' โดยใช้ 'ตึกโรงม้าพระที่นั่ง' เป็นที่เก็บรวมรวม
ในปี พ.ศ. 2447 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายวัตถุต่างๆ จาก 'โรงม้าพระที่นั่ง' เข้ามาเก็บรักษาและตั้งแสดงที่บริเวณอาคารพลับพลาจตุรมุข และต่อเติมระเบียงตามแนวอาคารด้านทิศเหนือและทิศตะวันออก เพื่อจัดตั้งวัตถุ ศิลาจารึก และประติมากรรมต่างๆ ใช้ชื่อพิพิธภัณฑ์ว่า 'อยุธยาพิพิธภัณฑ์'
ต่อมา กรมศิลปากร ได้ประกาศให้ 'อยุธยาพิพิธภัณฑ์' เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ในนาม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2479
พระราชวังจันทรเกษม จึงนับเป็นพิพิธภัณฑ์ส่วนภูมิภาคแห่งแรกของไทย
Night at The Palace ย้อนเวลา ชมวัง 4 ศตวรรษ พระราชวังจันทรเกษม
สำหรับผู้สนใจร่วมแต่งชุดไทยเข้าชม พระราชวังจันทรเกษม ให้สอดคล้องกับยุคสมัยของโบราณสถานหลังได้รับการบูรณะ กรมศิลปากรแนะนำไว้ดังนี้
การแต่งกายสมัยรัชกาลที่ 4-5
- ชาย : นุ่งผ้าม่วงแพรโจงกระเบน สวมเสื้อเปิดอก คอเปิด เสื้อกระบอกแขนยาว หรือเสื้อราชปะแตน
- หญิง : นุ่งผ้าลาย โจงกระเบนหรือจีบหน้านาง เสื้อแขนกระบอก เสื้อแพรลูกไม้ แขนยาวพองฟู มีสายสะพายผ้าแพร
การแต่งกายสมัยรัชกาลที่ 6
- ชาย : นุ่งผ้าม่วงแพรโจงกระเบน สวมเสื้อราชประแตน
- หญิง : นุ่งซิ่น สวมเสื้อแพรโปร่งบาง หรือผ้าพิมพ์ดอก คอกว้าง หรือเสื้อแพรแขนสั้นประมาณต้นแขน
Night at The Palace ย้อนเวลา ชมวัง 4 ศตวรรษ พระราชวังจันทรเกษม
กรมศิลปากรขอเชิญชวนผู้สนใจแต่งชุดไทย เที่ยวชมโบราณสถานยามค่ำ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทุกวันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ เวลา 16.30 - 21.00 น. ตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ - 30 เมษายน 2567
- อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท
- ผู้พิการ และชาวไทยผู้มีอายุมากกว่า 60 ปี เข้าชมฟรี
- สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0 3525 1586
- E-mail : [email protected]