‘โมฮำมัด’ ร้านเครื่องเขียนปลายรัชกาลที่ 5 ในโลกที่เปลี่ยนไป แต่มีคนตามหา
ย้อนความทรงจำ ร้านเครื่องเขียนปลายรัชกาลที่ 5 ‘โมฮำมัด’ อายุกว่า 100 ปี ทายาทรุ่นที่ 3 รับช่วง และยังดำเนินกิจการต่อ เพียงแต่ย้ายร้าน
ต้องบอกก่อนว่า โมฮำมัด ร้านเครื่องเขียนที่ตั้งขึ้นสมัย ปลายรัชกาลที่ 5 บนถนนเจริญกรุง ยังไม่เลิกกิจการ เพียงแค่ย้ายร้านไปแถวพุทธมณฑลสาย 2 หากใครตามหาเครื่องเขียนยุคเก่า คงมีร้านนี้ร้านเดียวที่เป็นของเก่าเก็บ
ปัจจุบันทายาทรุ่นที่ 3 ปรียา โมราศิริ รับช่วงกิจการต่อ เพราะยังรักสิ่งที่ปู่และพ่อทำมา 100 กว่าปีตั้งแต่พ.ศ. 2466 โดยสถานที่ตั้งร้านแห่งใหม่กำลังจัดของให้เข้าถึงเข้าทาง คงใช้เวลาอีกหลายเดือน
ก่อนจะเล่าถึงเรื่องราวสยาม 100 ปีที่แล้ว เราถามไปว่า ทำไมยังเก็บเครื่องเขียนเก่าๆ พวกนี้ไว้ ปรียา บอกชัดว่า เห็นมาตั้งแต่เด็กและรักสิ่งเหล่านี้ เพราะพ่อและปู่สร้างมา
พู่กันยุคเก่าทำจากขนสัตว์ (เครดิตภาพ : becommon.co)
“เรารักของทุกอย่างในร้าน สิ่งของเหล่านี้เหมือนญาติเรา โตมากับของเหล่านี้ ซึมซับมาจากพ่อ เราต้องออกมาจากบ้านหลังเก่า เมื่อปี 2559 จากนั้นไปๆ มาๆ จนย้ายมาแถวพุทธมณฑลสาย 2”
- โมฮำมัด เริ่มจากโรงพิมพ์
คุณปู่ของเธอ ฮะซันอาลี ชาวอินเดียที่นับถือศาสนาอิสลาม เดินทางมาตั้งรกรากในสยามตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ตั้งร้านโมฮำมัดก็ปลายรัชกาลแล้ว โดยเริ่มจากทำโรงพิมพ์ ไม่ได้เริ่มจากนำเข้าเครื่องเขียนจากอังกฤษและเยอรมนีที่ขนส่งทางเรือมาขาย
“ก่อนหน้านี้คุณปู่เป็นลูกจ้าง เงินเดือนๆ ละ 20 บาท ทำงานโรงพิมพ์สมัยรัชกาลที่ 5 ย่านถนนราชบพิธ ตอนนั้นคุณปู่รับเย็บสมุดให้โรงพิมพ์ ได้วิชาความรู้มาตั้งโรงพิมพ์โมฮำมัด และยุคแรกๆ ยังไม่มีเครื่องเขียน”
ร้านเครื่องเขียนที่มีแต่ของรุ่นเก่า น้ำหมึกรุ่นต่างๆ ในร้านโมฮำมัด
คุณปู่ของเธอก็ไม่ต่างจากคนจีนที่เดินทางมาสยาม มีแค่เสื่อผืนหมอนใบเข้ามาปักหลักสร้างเนื้อสร้างตัวย่านสะพานถ่าน ถนนตีทอง
สมัยนั้นเธอบอกว่า คุณปู่เข้ามาจับจองตึกร้าง รับสมุดมาเย็บด้วยมือ จนตั้งเป็นร้านโมฮำมัด ใกล้สี่แยกเฉลิมกรุง ไม่ไกลจากศาลาเฉลิมกรุง ถนนสายนั้น เรียกว่าเจริญกรุง
“คุณปู่นั่งเรือมาเป็นเดือนๆ กว่าจะมาถึงสยาม เมื่อตั้งตัวได้ก็นำลูกและภรรยามาสยาม ตอนนั้นมีโรคระบาดเยอะ พวกเขาจึงเสียชีวิต ปู่จึงแต่งงานใหม่กับย่าที่เป็นแขกมอญ ปทุมธานี"
เธอเล่า และบอกว่ากิจวัตรประจำวันของคุณปู่คือ เดินไปทำงาน เมื่อผ่านโรงพิมพ์เก่าที่คุณหลวงเป็นเจ้าของ และไม่ต้องการทำกิจการต่อ เพราะลูกๆ เติบโตหมดแล้ว จึงอยากขายกิจการให้คุณปู่
ทายาทรุ่นที่ 3 ปรียา โมราศิริ เจ้าของร้านโมฮำมัด ปัจจุบันย้ายไปพุทธมณฑลสาย 2 (เครดิตภาพ : becommon.co)
“คุณปู่บอกไปว่าไม่มีเงิน ตอนนั้นคุณหลวงต้องการขายตึกสองชั้นรุ่นเก่าคล้ายๆ ตึกย่านถนนท่าช้างให้ในราคาห้าพันบาท เพราะเห็นว่าคุณปู่มีประสบการณ์ทำโรงพิมพ์ มีเครื่องมือตีเส้นสมุด”
แม้ไม่มีเงิน คุณปู่ของเธอก็ค่อยๆ ผ่อนชำระ จนเป็นเจ้าของกิจการโรงพิมพ์มูฮำมัด จากนั้นขยายกิจการเพิ่มเครื่องเขียนในร้าน มีสมุด ดินสอ ปากกา หมึก ไม้บรรทัด ฯลฯ สั่งตรงจากเยอรมนีและอังกฤษ
“ตอนนั้นคุณปู่ให้คนพิมพ์ดีดสั่งสินค้าส่งมาทางเรือ กว่าจะมาถึงก็หลายเดือน ปัจจุบันเครื่องเขียนดั้งเดิมยังมีอยู่ เพียงแต่ย้ายมาแถวพุทธมณฑล "
ร้านโมฮำมัด ถนนเจริญกรุง (เครดิตภาพ : becommon.co)
- เครื่องเขียนสั่งตรงจากต่างประเทศ
เรื่องเล่าสมัยคุณปู่ในการตั้งร้านเครื่องเขียนโมฮำมัด ปัจจุบันได้กลายเป็นตำนาน ปรียา เล่าว่า เมื่อคุณปู่เอาเครื่องเขียนมาขาย วิธีการขายของคุณปู่ตอนนั้นเดินไปเสนอขายตามห้างร้าน กระทรวง เหมือนเซลแมนยุคนี้ จนกระทั่งลูกค้ารู้จัก จึงเดินเข้ามาซื้อใน โมฮำมัด ที่เป็นทั้งร้านเครื่องเขียน โรงพิมพ์ และชื่อคุณพ่อ
"สมัยก่อนเป็นตึกสองชั้นแบบนีโอคลาสสิค สวยงามมาก กระทั่งถูกปรับเปลี่ยนเป็นตึกสี่ชั้น กิจการเครื่องเขียนยุคคุณปู่และคุณพ่อขายดี ส่วนโรงพิมพ์เลิกกิจการไป 50-60 ปี
พอมาถึงรุ่นที่ 3 ช่วงแรกธุรกิจยังพอไปได้ ปัจจุบันเราแทบไม่มีเครื่องเขียนใหม่ๆ เข้ามาเลย แต่เราก็ยังขายต่อไป เพราะที่อื่นไม่มีเครื่องเขียนแบบเรา
ตอนเด็กๆ จะมีคนมาซื้อสมุดบัญชีที่เย็บเล่มเองจากร้านเรา ส่วนปากกาและที่เสียบปากกา เรามีทั้งด้ามไม้ธรรมดาและด้ามไม้สายรุ้ง (หนึ่งอันหนึ่งลาย)
ถ้าเป็นปากกาที่ใช้วาดการ์ตูน รุ่นคุณพ่อสั่งหัวปากกาแบบญี่ปุ่นที่เป็นโลหะรุ่นใหม่เข้ามาด้วย และมีหัวปากกาคอแร้งที่โลหะรุ่นเก่าของอังกฤษและเยอรมนี มีทั้งรุ่นที่ใช้เขียนภาษาไทยและภาษาอังกฤษ "
ปากกาจุ่มหมึกรุ่นเก่าที่ไม่เห็นในยุคนี้แล้ว (เครดิตภาพ : becommon.co)
โมฮำมัด ร้านเครื่องเขียน 100 ปี
แม้การขายเครื่องเขียนยุคเก่าไม่ได้ขายดีเหมือนรุ่นคุณปู่และคุณพ่อ แต่เธอบอกว่า ยังมีลูกค้าตั้งแต่เด็กวัย 8 ขวบจนถึงนักศึกษาศิลปะ
"รู้จักไม้บรรทัดทำจากไม้ไหม...มีทั้งของเยอรมันและไทย ถ้าเป็นไม้บรรทัดไทยจะบางกว่าเยอรมนี ตัวเลขบนไม้บรรทัดยังอยู่ ไม่หายไปเหมือนไม้บรรทัดรุ่นใหม่ น้ำหมึกรุ่นเก่าพีลีแกนของเยอรมนี ยังเก็บไว้พร้อมกล่อง พวกฝรั่งเวลาเก็บขวดน้ำหมึกต้องเก็บทั้งกล่อง
ขวดหมึกพีลีแกนดั้งเดิม สมัยก่อนใช้เป็นที่วางปากกาคอแร้งหลังจากเขียนเสร็จได้ด้วย ดีไซน์พอดีกับปากกาเลย เรามีขวดน้ำหมึกสมัยรัชกาลที่ 4 ที่คุณปู่เก็บไว้ ไม่มีน้ำหมึกแล้ว เป็นขวดสี่เหลี่ยมสองร่องสำหรับวางปากกาคอแร้งสองข้าง ตรงกลางเป็นจุกก็อก แต่จุกหายไปละ"
สมุดบัญชีรุ่นเก่าที่ร้านโมฮำมัด (เครดิตภาพ : becommon.co)
นอกจากปากกาและน้ำหมึกรุ่นคุณปู่ โมฮำมัด ร้านเครื่องเขียนยังมีคลิปหนีบกระดาษรุ่นเก่า ทำจากเหล็กดิบๆ ในอังกฤษ และเหล็กเคลือบจากสก๊อตแลนด์ และดินสอเกรยอนของพีลีแกน ปัจจุบันไม่มีให้เห็นแล้ว เธอ บอกว่า เป็นแท่งเนื้อสีไม่มีไม้หุ้ม
ส่วนดินสอยี่ห้อ othello แบรนด์เยอรมัน บริษัทไม่รู้หายไปไหนแล้ว และพู่กันที่ใช้วาดสีน้ำและสีน้ำมันทำจากขนสัตว์ ไม่ใช่ใยสังเคราะห์ ในร้านเครื่องเขียน ยังมีอีกหลายสิ่งที่เก่าเก็บ ไม่เว้นแม้กระทั่งครั่งที่ต้องนำมาลนไฟหยดตรงเชือกมัดพัสดุ
“แม้ยุคเราไม่ได้ขายดีเหมือนยุคคุณปู่ และคุณพ่อ แต่ด้วยความรักความผูกพัน ไม่อยากทิ้งเครื่องเขียนเหล่านี้ อยู่แล้วมีความสุขก็ทำต่อไป” ปรียา ย้อนความทรงจำยุคสมัยปากกาคอแร้ง เพื่อใช้เขียนภาษาอังกฤษราคาแพงมาก
....
ร้านโมฮำมัด ติดต่อที่ปรียา เบอร์ 089 689 6445
ดินสอ Othello เก่าเก็บจากเยอรมนี