‘Coquette’ แฟชั่นมาแรงปี 2567 ผูกโบเพิ่มความสดใส เพิ่มสไตล์การแต่งตัว

‘Coquette’ แฟชั่นมาแรงปี 2567 ผูกโบเพิ่มความสดใส เพิ่มสไตล์การแต่งตัว

ส่องเทรนด์แฟชั่น “Coquette” (โคเคตต์) ที่ใช้โบ ริบบิ้น ผ้าลูกไม้ ไข่มุก เป็นเครื่องประดับเสื้อผ้า ช่วยเพิ่มสีสันในการแต่งกาย ที่ใคร ๆ ก็ใส่ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้หญิงเพียงอย่างเดียว

หนึ่งเทรนด์แฟชั่นที่กำลังมาแรงที่สุดใน TIkTok คงจะหนีไม่พ้นการเอาโบมาประดับตกแต่งเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย โดยแฟชั่นแนวนี้เรียกว่า  “Coquette” (โคเคตต์) ที่มีมานานแล้ว แต่ชาวเจน Z ได้พาปลุกกระแสให้เทรนด์นี้กลายเป็นที่พูดถึงไปทั่ววงการแฟชั่น

ช่วงต้นปีที่เป็นฤดูกาลของงานประกาศรางวัล เป็นโอกาสดีที่จะได้อัปเดตเทรนด์แฟชั่นจากการเดินพรมแดงของเหล่าเซเลบ ศิลปินและนักแสดงระดับโลก ซึ่งเทรนด์ที่มาแรงในปีนี้คงจะหนีไม่พ้น “Coquette” แฟชั่นชุดโบท่ีเหล่าคนดังใส่มาประชันโฉมบนพรมแดง 

ไม่ว่าจะเป็นลาน่า เดล เรย์ ในงานแกรมมี่ อวอร์ดครั้งที่ 66 ด้วยลุคเดรสแขนตุ๊กตาลายดอกไม้สีดำสุดเรียบหรู มาพร้อมด้วยโบสีดำอันใหญ่ที่คาดผมและข้อมือเข้าชุดอย่างดี ให้ความรู้สึกเป็นสาวน่ารักแบบ Coquette แต่ก็ยังมีความลึกลับหน้าค้นหาแบบเวนส์เดย์ จาก Addams Family ส่วนเจนนิเฟอร์ โลเปซสวมเดรสหางยาวสีชมพูสดใส มีช่อโบที่ทำรูปดอกไม้ช่อใหญ่ ไปงานลูกโลกทองคำ ครั้งที่ 81

ด้านซาราห์ เจสสิก้า ปาร์กเกอร์ นักแสดงตัวแม่ของวงการ กลายเป็นไวรัลด้วยลุคเดรสสีดำ พร้อมโบผูกผมยาวเกือบถึงพื้นที่เธอใส่ไปงาน New York City Ballet Fall Gala ด้วยกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด ทำให้เธอเพิ่มไลน์โบผูกรองเท้าให้กับแบรนด์รองเท้า SJP Collection ที่เธอเป็นเจ้าของ

(ซ้าย) ลาน่า เดล เรย์ ในงานแกรมมี่ อวอร์ดครั้งที่ 66 (ขวา) ซาราห์ เจสสิก้า ปาร์กเกอร์ จากงาน New York City Ballet Fall Gala

เดิมที่การแต่งตัวสไตล์ Coquette เป็นลุคที่เหมาะกับหญิงวัยรุ่นและมีความอ่อนหวาน มีความเป็นหญิงสูง เพราะมักเป็นชุดเดรสแขนพอง ๆ คอร์เซ็ต หรือชุดเข้ารูป เข้าชุดกับรองเท้าส้นเตี้ยสไตล์บัลเล่ต์ หรือ รองเท้า Mary Jane ที่สายรัดแบบรองเท้านักเรียนหญิง ใส่คู่กับผ้าลูกไม้ ไข่มุก โบสีพาสเทล หรือเครื่องประดับทอง แต่ชาวเจน Z ได้ปรับเปลี่ยนลุคของ Coquette ให้ร่วมสมัยมากขึ้น ใส่ได้กับทุกเพศทุกวัย

มาริสา เลดฟอร์ด สไตลิสต์จากลอสแอนเจลิสบอกกับนิตยสาร PEOPLE ว่า “เทรนด์แฟชั่น Coquette เป็นสไตล์ของคนเจน Z ที่เน้นสไตล์หวาน ๆ นุ่มนวล และเป็นมีความเป็นหญิง ตามฉบับยุควิกตอเรียนรีเจนซี่” 

 

  • Coquette มาจาก Lolita ของญี่ปุ่น

ต้นกำเนิดของสไตล์ Coquette ได้รับอิทธิพลโดยตรงจากการแต่งตัวสไตล์แนวสตรีทที่เรียกว่า "Lolita" (โลลิต้า) ซึ่งเป็นได้กลุ่มวัฒนธรรมย่อยของญี่ปุ่น ได้แรงบันดาลใจมาจากนิยายชื่อเดียวกันของ วลาดีมีร์ นาโบคอฟ นักเขียนชาวรัสเซีย-อเมริกัน โดยเสื้อผ้าแนว Lolita จะเป็นการผสมผสานเสื้อผ้าสไตล์วิคตอเรียน โรโกโค และบาโรกที่ประดับประดาด้วยเสื้อผ้าที่สลับซับซ้อนเข้าด้วยกัน มีบุคลิกไร้เดียงสาและความเขินอายแบบเด็กสาว แต่ขณะเดียวกันชุด Lolita จะดูเซ็กซี่กว่าเล็กน้อย 

แฟชั่น Coquette ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงต้นปี 2010 ในฐานะแฟชั่นทางเลือก เลดฟอร์ดกล่าวว่า เราสามารถเห็นภาพห้องนอนสีชมพู ผ้าปูที่นอนลายดอกไม้ เฟอร์นิเจอร์เก่า ๆ เครื่องเล่นแผ่นเสียง GIF ของ ลาน่า เดล เรย์ รวมถึงบทกวีโรแมนติกบน Tumblr บล็อกที่ได้รับความนิยมอยากมากในยุค 2010 ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญลักษณ์ของ แฟชั่นแนว Coquette

ปกอัลบั้ม Did You Know That Theres a Tunnel Under Ocean Blvd ของ ลาน่า เดล เรย์ ที่ยังคงเป็นสไตล์ Coquette

ลาน่า เดล เรย์ ได้รับการยกย่องจากชาวติ๊กต็อกเกอร์ว่าเป็นแฟชั่นไอคอนแห่งวงการ Coquette โดยเฉพาะในช่วงอัลบั้มแรก ๆ ของเธอ ที่มักจะสวมเสื้อผ้าได้รับอิทธิพลจากทศวรรษ 1960 ไว้ทรงผมยาวประบ่า และสวมมงกุฎดอกไม้ ซึ่งปัจจุบันลาน่าก็ยังคงใส่เสื้อผ้าแนวนี้อยู่ อย่างเช่นงานแกรมมี่ครั้งผ่านมา

ขณะที่ “Bridgerton” ซีรีส์สุดฮิตจาก Netflix ยังช่วยส่งเสริมให้คนหันมาใส่เสื้อผ้าแนว Coquette ทั้งชุดเดรสเข้ารูปใต้อก ชุดเดรสทิ้งตัวพลิ้วไหวบางเบา สวมถุงมือผ้าซาติน นิยมเกล้าผมและสวมเครื่องประดับแวววาวบนหัว ซึ่งเป็นเสื้อผ้าที่นิยมใส่ในยุครีเจนซี ช่วงเวลาตามท้องเรื่อง

 

  • Coquette ปลุกตัวตนที่หายไปในวัยเด็ก

TikTok และ Pinterest ทำให้ Coquette กลับมาฮิตอีกครั้ง แถมคราวนี้ไปได้ไกลกว่าเดิม เพราะเริ่มซึมซับเข้าสู่กระแสหลัก เสื้อผ้าและเครื่องประดับแนวนี้ค่อย ๆ ได้รับความนิยมมากขึ้น จนได้ไปวางขายในร้านค้าปลีก เช่น ร้านเสื้อผ้า Anthropologie และห้าง Walmart

ปัจจุบันแบรนด์เสื้อผ้าจำนวนมากเริ่มผสมผสานรายละเอียดต่าง ๆ ของแนว Coquette ให้เข้ากับเสื้อผ้าของตน เช่น แขนเสื้อโอเวอร์ไซซ์ ชุดเดรสทรงคัพเค้ก ติดโบและลายดอกไม้ที่สวยงาม เพื่อให้สามารถคนทั่วไปที่อยากจะเปลี่ยนแนวแต่งตัว ใส่ได้ง่ายขึ้น

เอ็มมา เกจ ดีไซเนอร์ของแบรนด์เสื้อผ้า Melke กล่าวว่าเธอเคยได้ยินเกี่ยวกับ Coquette ครั้งแรกจาก TikTok เป็นครั้งแรก และเริ่มนำโบเล็ก ๆ มาใช้ในการออกแบบเสื้อผ้า เพราะเกจรู้สึกว่า Coquette สามารถโอบรับความเป็นผู้หญิงและความนุ่มนวลโดยไม่ถือว่าอ่อนแอ งานออกแบบของเกจมักจะนำสัญลักษณ์ของ Coquette เช่น โบ มาเข้าคู่กับสีเข้มและสีดำ เพื่อสะท้อนถึงความนุ่มนวล ความเป็นผู้หญิง และความแข็งแกร่ง

“ซีรีส์อย่าง Succession, Bridgerton และเพลงของลาน่า เป็นแหล่งที่มาของแรงบันดาลใจสำหรับคนส่วนใหญ่ให้คนหันมาสนใจเสื้อผ้าแนว Coquette ควบคู่ไปกับความนิยมที่เพิ่มขึ้นของการซื้อเสื้อผ้ามือสองและวินเทจ นอกจากนี้ชาวเจน Z หาเสื้อผ้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ก็สร้างความยั่งยืนด้วยเช่นกัน” เลดฟอร์ดอธิบาย

อิซาเบลลา บิลูส บล็อกเกอร์ด้านแฟชั่นในนิวยอร์ก กล่าวว่าเสน่ห์ของ Coquette ช่วยให้ผู้คนสามารถปลุกตัวตน ความต้องการและความคิดสร้างสรรค์ในวัยเด็กออกมาได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องแคร์ว่าจะเป็นจะดูเป็นผู้หญิงเกินไปหรือไม่ พร้อมเพิ่มความขี้เล่นและโรแมนติกอีกด้วย 

(ซ้าย) จางวอนยอง และ (ขวา) มาร์โก ร็อบบี้ ใช้โบผูกผมช่วยยกระดับให้ลุคดูสนุกสนานและเก๋ขึ้น

  • โบและริบบิ้น เทรนด์แฟชั่นปี 2024

เทรนด์ Coquette เป็นโอกาสอันดีที่จะเปิดรับด้านที่นุ่มนวลและโรแมนติกของคุณ เลดฟอร์ด แนะนำให้ลองติดโบ ผ้าลูกไม้ ไข่มุก ลงบนเสื้อผ้าหรือประดับทรงผม เพราะเป็นวิธีที่งานที่สุดที่จะเข้าสู่เทรนด์นี้ โดยคนดังอย่าง มาร์โก ร็อบบี้ และ เฮลีย์ บีเบอร์ พิสูจน์แล้วว่าการใช้โบผูกผมสามารถยกระดับลุค เพิ่มความสนุกสนานในการแต่งตัวได้อย่างดี

การใช้โบและริบบิ้นผูกผมกลายเป็นเทรนด์ที่มาแรงที่สุดในวงการแฟชั่นรันเวย์ โดยในงานนิวยอร์กแฟชั่นวีคฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อนปี 2024 Mirror Palais ใช้ริบบิ้นและโบเป็นส่วนหลักในโชว์ ทั้งเอาไปติดผมและใช้ริบบิ้นผูกคอ ส่วนแบรนด์ Collina Strada เลือกใช้ริบบิ้นออร์แกนซาที่ถักติดกับผมของนางแบบ ช่วยเพิ่มความสนุกสนาน ความโดดเด่น และเพิ่มความทันสมัยให้แก่การจัดแต่งทรงผม

ขณะที่ Sandy Liang ล้ำไปไกลกว่านั้นด้วยการนำเอาโบขนาดใหญ่มาติดใส่เสื้อผ้า เพื่อทำหน้าที่แทนเข็มขัด และใช้โบผูกติดแทนกระดุมเพิ่มความแปลกใหม่ เก๋ไก๋ไปอีกแบบ

ริบบิ้นและโบกลายเป็นไอเท็มฮิตของชาวเจน Z เพิ่มความสนุกสนานในการแต่งตัว ส่วนคนรุ่นก่อนที่คุ้นเคยกับ Coquette อยู่แล้ว ก็ช่วยปลุกความเป็นเด็กและความอ่อนโยนกลับขึ้นมา และเป็นสัญลักษณ์ของความคิดถึง ทุกคนสามารถค้นหาตัวตนและโอบรับความเป็นเด็กที่ซ่อนอยู่ภายใน โดยไม่ต้องกลัวสายตาของใครอีกต่อไป

(ซ้าย) โบประดับชุดและริบบิ้นผูกคอจาก Mirror Palais (กลาง) ชุดโบใหญ่ลายดอกไม้จาก Sandy Liang (ขวา) งานถักริบบิ้นออร์แกนซากับผมจาก Collina Strada


ที่มา: BBCGlamour, Good Morning AmericaL'officiel USAPeopleRefinery 29Time Out