เปิด “เพลย์ลิสต์” ฉลองคิงชาลส์ครองราชย์ ไร้เงาศิลปินหญิงตัวท็อป
ส่องเพลย์ลิสต์เฉลิมฉลองพิธีบรมราชาภิเษก “สมเด็จพระราชาธิบดีชาลส์ที่ 3” ทำเพื่อยกย่องศิลปินอังกฤษและเครือจักรภพ กลับมีเพียงเพลงของชายแท้อังกฤษ ความหลากหลายกลับหายไป
ใกล้เข้ามาทุกขณะแล้วสำหรับงานใหญ่หนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ที่คนทั้งโลกต่างรอคอย กับงาน พระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระราชาธิบดีชาลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร ที่มีขึ้นในวันที่ 6 พ.ค. 2566 ที่จะถึงนี้ ณ มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ แอบบีย์ ในกรุงลอนดอน
แต่ก่อนที่จะได้รับชมพระราชพิธีครั้งสำคัญนี้ กระทรวงวัฒนธรรม สื่อ และ กีฬา หรือ DCMS (The Department for Culture, Media and Sport) ในนามตัวแทนของราชวงศ์ได้คัดเลือก 26 บทเพลง จัดทำเป็นเพลย์ลิสต์บน Spotify
สำหรับการทำเพลย์ลิสต์เพลงนี้จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็น “แรงบันดาลใจ” ในการงานปาร์ตี้และงานเฉลิมฉลองตามท้องถนน โดยทั้ง 26 เพลงล้วนเป็นเพลงของศิลปินชาวอังกฤษและประเทศในเครือจักรภพ เริ่มต้นด้วยเพลง "Come Together" ของวง “The Beatles” ศิลปินระดับตำนานของอังกฤษ และจบด้วยเพลง "King" ของ “Years & Years” ศิลปินแนวอิเล็กโทรป๊อปขวัญใจวัยรุ่น ซึ่งเพลย์ลิสต์นี้ประกอบด้วยเพลงดังนี้
- "Come Together" by The Beatles
- "Daddy Cool" by Boney M.
- "A Sky Full of Stars" by Coldplay
- "Let's Dance" by David Bowie
- "Celestial" by Ed Sheeran
- "One Day Like This" by Elbow
- "Mr. Blue Sky" by Electric Light Orchestra
- "Starry Eyed" by Ellie Goulding
- "Starlight" by Emeli Sandé
- "Dance All Over Me" by George Ezra
- "Slave To The Rhythm" by Grace Jones
- "Treat People With Kindness" by Harry Styles
- "Running Up That Hill (A Deal with God)" by Kate Bush
- "Our House" by Madness
- "It’s A Beautiful Day" by Micheal Bublé
- "All over the World" by Pet Shop Boys
- "We are the Champions" by Queen
- "People Get Ready" by Jeff Beck, Rod Stewart
- "SPACE MAN" by Sam Ryder
- "Gold" by Spandau Ballet
- "Say You’ll Be There" by Spice Girl
- "Shine" by Take That
- "Waterloo Sunset" by The Kinks
- "Love Reign O’er Me" by The Who
- "Green Green Grass Of Home" by Tom Jones
- "King" by Years & Years
- เพลงโดนถอดออกจากเพลย์ลิสต์
อย่างไรก็ตาม เดิมทีเพลย์ลิสต์นี้มีเพลงของ ดิซซี ราสคาล (Dizzee Rascal) แร็ปเปอร์ชาวอังกฤษรวมอยู่ด้วยแต่ไม่นานเพลงนี้ก็ถูกตัดออกอย่างรวดเร็ว เนื่องจากในปีที่แล้วราสคาลมีข่าวทำร้ายร่างกายคู่รักของเขา ซึ่งการกระทำนี้เป็นความผิดที่ร้ายแรง และขัดต่อพระราชกรณียกิจของของสมเด็จพระราชาธิบดีชาลส์ที่ 3 ที่ทรงเป็นผู้รณรงค์ต่อต้านความรุนแรงในครอบครัวมาอย่างยาวนาน
เช่นเดียวกับเพลง "I’m Gonna Be (500 Miles)" ของ “The Proclaimers” วงร็อคจากสกอตแลนด์ ก็โดนถอดออกจากเพลย์ลิสต์ด้วยเช่นกัน เนื่องจากมีประชาชนร้องเรียนว่าพวกเขาเป็นกลุ่มต่อต้านราชวงศ์ โดยชาร์ลี รีด หนึ่งในสมาชิกวง มักให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าสนับสนุนผู้ที่ต่อต้านระบบกษัตริย์ และต้องการให้สกอตแลนด์แยกตัวเป็นอิสระจากสหราชอาณาจักร
- ความหลากหลายที่ถูกมองข้าม
โฆษกของ DCMS ระบุว่า เพลย์ลิสต์นี้เป็น "การเฉลิมฉลองศิลปินอังกฤษและเครือจักรภพก่อนที่พิธีบรมราชาภิเษกจะเกิดขึ้น" ดังนั้นเพลงทั้งหมดที่อยู่ในเพลย์ลิสต์นี้จึงมี “ชื่อเพลง” ไปในทางบวกและสื่อให้เห็นถึงวันที่สวยงามจากการมีกษัตริย์องค์ใหม่ รวมถึงการได้รับชัยชนะจากสงครามในอดีต ทำให้เกิดการตั้งคำถามเกี่ยวกับวิธีการเลือกเพลงในเพลย์ลิสต์นี้
เดวิด มูริควอนด์ จากสำนักข่าว Euro News ชี้ให้เห็นว่า DCMS ลืมไปว่าเครือจักรภพไม่ได้มีแค่สหราชอาณาจักร จากทั้งหมด 26 ศิลปิน มีเพียง 3 ศิลปินเท่านั้นที่ไม่ได้เป็นคนอังกฤษ คือ วง Boney M. เป็นชาวเยอรมัน-แคริบเบียน ขณะที่ไมเคิล บูเบล เป็นคนแคนาดา และ เกรซ โจนส์ มาจากจาเมกา แถมมีเพียง 4 ศิลปินที่เป็นคนผิวสี และมีผู้หญิงเพียงแค่ 6 ศิลปินเท่านั้น
ทั้งที่เพลย์ลิสต์นี้ควรจะเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายทางเชื้อชาติและเพศ จากศิลปินที่เกิดใน 54 ประเทศเครือจักรภพ แต่กลับกระจุกตัวอยู่แค่ศิลปินชายผิวขาวเท่านั้น ศิลปินหญิงหลายคนที่มีชื่อเสียงกลับไม่ได้อยู่ในลิสต์นี้ทั้ง ไคลีย์ มิโนค (ออสเตรเลีย), ริฮานนา (บาร์โบโดส), เออร์มา (แคเมอรูน) หรือแม้กระทั่งศิลปินหญิงแห่งยุคที่เป็นคนอังกฤษแท้ ๆ อย่าง อเดล และ ดูอา ลิปา กลับไม่ได้อยู่ในเพลย์ลิสต์นี้
อีกทั้งเกินกว่าครึ่งของเพลงในเพลย์ลิสต์เป็นเพลงเก่า มีผลงานของศิลปินยุคใหม่อยู่ไม่กี่เพลง
เพลย์ลิสต์นี้ จึงนำมาสู่การตั้งคำถามว่า หรือสหราชอาณาจักรจะไม่ได้ใส่ใจประเทศในเครือจักรภพมากนัก แถมยังแสดงให้เห็นว่า ผู้มีอำนาจยังคงยึดติดกับวัฒนธรรมที่ถูกคัดกรองมาแล้ว แม้ในปัจจุบันความหลากหลายจะเข้ามามีบทบาทและแทบจะกลายเป็นเสียงข้างมากแล้วก็ตาม
นอกจากเพลย์ลิสต์นี้จะปรากฏใน Spotify แล้ว ยังถูกใส่ไว้ในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกด้วย ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่แนะนำว่าควรทำกิจกรรมอะไรบ้างสำหรับการเฉลิมฉลอง รวมถึงมีสูตรอาหารสำหรับงานปาร์ตี้ที่ได้เหล่าเชฟคนดังของอังกฤษคิดค้นสูตรเด็ดเคล็ดลับ ตลอดจนเมนู “Poulet Reine Elizabeth” ที่เป็นเนื้อไก่ปรุงรสด้วยเครื่องแกงของอินเดีย สามารถทานกับสลัด หรือ เป็นไส้แซนด์วิชก็ได้ โดยเมนูนี้ถูคิดค้นเพื่อเป็นเมนูฉลองพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร เมื่อปี 1953
ขณะที่ พระราชวังบัคกิงแฮม กล่าวว่า "พิธีบรมราชาภิเษกจะสะท้อนถึงบทบาทของกษัตริย์ในปัจจุบันและมองไปยังอนาคต ในขณะที่มีรากฐานมาจากประเพณีและขบวนแห่ที่มีมาอย่างยาวนาน" ดังนั้นจึงคาดว่าจะงานในครั้งนี้ มีความหลากหลายและสั้นกว่างานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของควีนเอลิซาเบธในครั้งก่อนหน้า
ส่วนคอนเสิร์ตในการเฉลิมฉลองพิธีจะนำทัพศิลปินโดยเคที เพอร์รี,วง Take That, ไลโอเนล ริชชี พร้อมด้วยศิลปินอีกมากมาย จัดขึ้นที่ ปราสาทวินด์เซอร์ ในช่วงเย็นวันที่ 7 พ.ค. ซึ่งก่อนหน้านี้สื่ออังกฤษหลายสำนักได้รายงานว่า เอลตัน จอห์น, อเดล, และแฮร์รี่ สไตลส์ ปฏิเสธที่จะขึ้นแสดงคอนเสิร์ตดังกล่าว
ที่มา: BBC, Euro News, The Guardian, Town And Country Magazine, Variety