ทำไม ‘สิงคโปร์’ ขึ้นแท่นลูกรัก ‘นักร้องดัง’ แห่จัด ‘คอนเสิร์ต’
“เทย์เลอร์ สวิฟต์” (Taylor Swift) ประกาศทัวร์คอนเสิร์ตในเอเชีย จัดที่ “สิงคโปร์” 3 รอบ ไม่มีไทย ตามรอยศิลปินหลายคนที่เลือกจัดแค่ในสิงคโปร์ทั้งที่ประเทศในอาเซียนมีศักยภาพเช่นกัน เป็นเพราะอะไร?
“เทย์เลอร์ สวิฟต์” นักร้องขวัญใจคนทั้งโลก พึ่งประกาศตารางเวิลด์ทัวร์ “The Eras Tour” คอนเสิร์ตครั้งล่าสุดของเธอ ซึ่งพบว่าสวิฟต์จะมาแสดงคอนเสิร์ตในเอเชียเพียงแค่ 2 ประเทศเท่านั้น คือ “สิงคโปร์” จำนวน 3 รอบ และ “ญี่ปุ่น” จำนวน 4 รอบ ซึ่งสร้างความผิดหวังให้แก่เหล่า “สวิฟตี้” แฟนคลับของนักร้องสาวทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงใน “ไทย” ที่สวิฟต์ไม่มาเล่นคอนเสิร์ตในประเทศของพวกเขา แต่กลับเลือกแสดงคอนเสิร์ตที่สิงคโปร์ถึง 3 รอบ ทั้งที่ในประเทศอื่น ๆ เช่น ไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ก็มีสนามกีฬาขนาดใหญ่ที่รองรับสเกลโปรดักชันคอนเสิร์ตระดับโลกได้ จนเกิดคำถามว่า “เทย์เลอร์ลืมพวกเราหรอ?”
ถ้าพูดถึงการทัวร์คอนเสิร์ตในเอเชียแล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าศิลปินระดับโลกหลายคนจะเลือกไปทัวร์คอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่นหลายรอบ เนื่องจากญี่ปุ่น เป็นประเทศที่มีอุตสาหกรรมเพลงใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก แต่กับสิงคโปร์ หลายคนมองว่าเป็นประเทศเล็ก นักท่องเที่ยวถ้าจะไป ก็ต้องแย่งกันกิน แย่งกันใช้ จึงเกิดข้อสงสัยว่า ในเมื่อไทยกับฟิลิปปินส์ก็มีโครงสร้างพื้นฐานและสถานที่จัดงานพร้อมสำหรับสเกลงานใหญ่ขนาดนี้ แถมแฟนเพลงก็มีกำลังซื้อและจำนวนแฟนคลับไม่ต่างจากสิงคโปร์ เผลอ ๆ มากกว่าด้วยซ้ำ แต่ทำไมศิลปินหลายคนถึงไม่เหลียวแลประเทศอื่นเลย นอกจากสิงคโปร์
กรุงเทพธุรกิจ ชวนหาคำตอบ สิงคโปร์มีดีอะไร? ทำไมถึงเป็น “ลูกรัก” ของศิลปินระดับโลก โดยเลือกที่จะปักหมุดเป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องมาเล่นคอนเสิร์ตในทุกเวิลด์ทัวร์
- ศูนย์รวมนักท่องเที่ยว
ระบบการจำหน่ายตั๋วของสิงคโปร์จะคล้ายในประเทศไทย คือใครมาก่อนได้ซื้อก่อน ไม่เหมือนกับในญี่ปุ่นหรือเกาหลีที่ใช้การจับฉลาก ที่สำคัญคือไม่ว่าจะเปิดกี่รอบ บัตรคอนเสิร์ตก็ขายได้หมด ต่างจากประเทศอื่น ๆ ที่บัตรขายได้ยากกว่า บางทีจัดคอนเสิร์ตรอบเดียว บัตรยังเหลือ
เห็นได้จากคอนเสิร์ต “Music of the Spheres” ทัวร์ล่าสุดของ “Coldplay” วงร็อกระดับโลก ที่สามารถขายบัตรคอนเสิร์ตจำนวน 4 รอบ กว่า 200,000 ใบหมดภายในวันเดียวที่เปิดจำหน่าย ทำให้ Coldplay ตัดสินใจเพิ่มรอบคอนเสิร์ตอีก 2 รอบ และบัตรทั้ง 6 รอบก็หมดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วในเวลาอันรวดเร็ว
สเตลลา ซุง ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของ Lushington Entertainments บริษัทผู้จัดคอนเสิร์ต ระบุว่า ผู้ชมคอนเสิร์ตเกือบครึ่งในสิงคโปร์นั้น เป็นชาวต่างชาติ เนื่องจากในปัจจุบันชนชั้นกลางมักจะนิยมออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในต่างประเทศมากยิ่งขึ้น ทำให้พวกเขาตัดสินใจไปดูคอนเสิร์ตที่ต่างประเทศง่ายขึ้น เพื่อไม่ให้เสียโอกาสพวกเขาจึงมักวางแผนท่องเที่ยวในเมืองด้วย
นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังมีข้อได้เปรียบกว่าประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากเป็นศูนย์กลางทางการบินของภูมิภาค มีสายการบินต้นทุนต่ำจำนวนมาก และมีระบบขนส่งมวลชนที่ครอบคลุม
- ศูนย์กลางความบันเทิง
สิงคโปร์ถูกมองว่าเป็นประเทศที่ “ไม่มีอะไร” เนื่องจากเป็นเกาะเล็ก ๆ ไม่ได้มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอะไรมากมาย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่รัฐบาลต้อง “สร้าง” สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นมาเอง เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยือน
เริ่มต้นด้วยการจัดแข่งขันรถฟอร์มูลาวันในชื่อว่า “Singapore Grand Prix” นับเป็นหนึ่งในสนามแข่งขันรถฟอร์มูลาวันชิงแชมป์โลก (Formula One World Championship) ตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งในตอนกลางวันก็จะจัดการแข่งรถ ตกกลางคืนมีการแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินระดับโลก แถมยังเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการแข่งขันทางกีฬาระดับโลกอีกหลายรายการ
ในปี 2010 คาสิโนสำหรับเล่นการพนันถูกกฎหมายเปิดให้บริการในรีสอร์ต รวมถึงมีให้บริการด้านความบันเทิง และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เต็มรูปแบบ นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังสร้างสนามกีฬาแห่งชาติ ปรับปรุงโรงละครวิคตอเรียและคอนเสิร์ตฮอลล์ (Victoria Theatre and Concert Hall) รวมถึงหอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์ แถมยังเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยในการจัดงาน
ถัดมาในปี 2012 กิลแมน บาร์แร็กส์ (Gillman Barracks) แหล่งรวมศิลปะร่วมสมัยได้ถือกำเนิดขึ้น ที่นี่เป็นที่ตั้งของแกลเลอรีต่างประเทศหลายแห่ง ร้านอาหาร และศูนย์แสดงศิลปะร่วมสมัย (CCA Centre for Contemporary Art) ซึ่งมักจะมีการจัดงานเกี่ยวกับศิลปะอยู่เสมอ
ลอเรนซ์ ชอง ซีอีโอของ Consulus บริษัทที่ปรึกษาของสิงคโปร์ กล่าวทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลกว่า 274 ล้านดอลลาร์ เพื่อทำให้สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางศิลปะและความบันเทิงของภูมิภาค
และก็ได้ผลจริง ๆ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ส่งผลให้จำนวนห้องพักของโรงแรมเพิ่มขึ้นถึง 40% ในช่วงปี 2010-2015
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่างเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งประชาชนในประเทศเหล่านั้นมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ทำให้ศิลปิน KPOP และ ศิลปินระดับโลกแวะเวียนมาจัดคอนเสิร์ตในประเทศเหล่านั้นเพิ่มมากขึ้น เพื่อรักษาโมเมนตัม สิงคโปร์จะต้องใช้วิธีใหม่ ๆ เพื่อการดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้มาเที่ยว และยังเป็นที่รักของเหล่าศิลปินระดับโลก
ที่มา: Bloomberg, Nikkei, The Peak Magazine, The South China Morning Post, Web In Travel