'อุ้ม ลักขณา' เปิดใจ! เซ็นใบหย่า 'บอล กฤษณะ' แล้ว พร้อมเคลียร์ทุกข้อสงสัย
'อุ้ม ลักขณา' เปิดใจ! เซ็นใบหย่า 'บอล กฤษณะ' แล้ว พร้อมเคลียร์ทุกข้อสงสัยชาวเน็ต เตรียมหวนรับงานวงการบันเทิงในรอบ 6 ปี
ก่อนหน้านี้นักแสดงสาว 'อุ้ม ลักขณา' ได้ประกาศว่าแยกทางกับสามี 'บอล กฤษณะ' แล้ว เปลี่ยนสถานะจากสามีภรรยามาเป็นแค่พ่อกับแม่ของลูกเท่านั้น ล่าสุดคุณแม่สุดแซ่บได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการ 'แฉ' ว่าตอนนี้ได้เซ็นใบหย่ากันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะมีวันนี้?
อุ้ม : ไม่เคยคิดอยู่ในหัวเลยค่ะ ไม่เคยมีแต่วินาทีเดียวที่อุ้มคิดว่าอุ้มจะไม่มีผู้ชายคนนี้อยู่ในชีวิต อุ้มคิดว่าเค้าคือความสุข คือครอบครัว คือพ่อของลูก คือสามีที่ดี ก็เลยไม่เคยระแวงหรือว่าคิดว่าตัวเองจะมาถึงจุดนี้
7 ปีที่ผ่านมาเขาเป็นพ่อที่ดี เป็นสามีที่ดีมากๆ ชีวิตครอบครัวแฮปปี้?
อุ้ม : มันก็มีบ้างค่ะ จะไม่มีเลยมันก็คงเป็นไปไม่ได้ คือสองคนมาจากคนละครอบครัว คนละพื้นฐานการเลี้ยงดูกัน มันก็ต้องมีเรื่องที่ปรับกันเยอะมากๆ ก่อนจะถึงจุดที่ลงตัว มันใช้เวลาหลายๆช่วง แต่ว่าเราทั้งสองคนก็พยายามจะทำให้ดีที่สุดเพื่อลูก ซึ่งมันก็ผ่านมาได้ แต่มันก็มาเกิดเรื่องนี้ที่ทำให้ไม่สามารถไปต่อได้
ถ้าไม่ดูหมอดูก็จะไม่เกิดเรื่องนี้จริงไหม?
อุ้ม : ไม่ได้สาระแนไปดูอะไรเลยค่ะ ไม่ได้ดูดวงเพื่อเช็ก ไม่ได้ดูเรื่องนี้เลย ไปเพราะเห็นเขาดูกันก็ตามเขาไป ปกติชอบดูดวงแต่วันนั้นไม่ได้ตั้งใจไปดูดวงอะไรทั้งสิ้นเลย เพราะทุกอย่างแฮปปี้ดีหมด ต่อให้เขาพูดอะไรมามันก็ไม่ได้รู้สึกว่าเราต้องหวั่นไหว หรือต้องไปจับผิดอะไร ไม่มีอยู่ในสมองของอุ้มเลยค่ะ วันนั้นไปกับเพื่อน เขาแค่บอกว่าเดี๋ยวเราจะได้มีโอกาสกลับมาบูชาองค์แม่อีกทีนึง แค่นั้น เราก็อ๋อโอเคค่ะ ถามว่าแม่นไหมก็สิบคะแนนให้สิบเต็ม
ตอนนั้นไม่คิดว่าเหตุการณ์นี้มีจริง?
อุ้ม : ตอนดูเราก็ยังไม่เชื่อ คิดว่าหมอดูคนนี้เราไม่รู้จักเขา และเขาก็คงมั่วๆพูดไปเรื่อย แต่พอเกิดเรื่องแล้วเราถึงได้อ้าว แม่น ถามว่าดูกี่วันถึงเกิดเรื่อง ก็ไม่เกินอาทิตย์ค่ะ ตอนนี้เลยสนิทกับหมอมากค่ะ (หัวเราะ)
แรกๆสภาพจิตใจไปต่อไม่เป็นเลย?
อุ้ม : เราก็กลับบ้านค่ะ เราต้องกลับมาหาเซฟโซนของเรา อยู่ที่โน่น 7 ปีอุ้มไม่มีเพื่อน อุ้มไปอยู่คนเดียว ตัวคนเดียว ไม่มีใครเลยค่ะ ไม่มีเพื่อน ไม่มีสังคม มีแค่เขาคนเดียวที่เป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ แล้วก็มีลูก ชีวิตก็จะอยู่แต่อย่างนั้นค่ะ แล้วตอนหลังก็เอาน้องชายมาอยู่ด้วย เพราะน้องชายอยากมาดูแลพี่สาว ให้เขาเริ่มมาทำงานกับเรา น้องชายเพิ่งเข้ามาอยู่ได้ปีนึงค่ะ
ข่าวมันเริ่มมีตั้งแต่เดือนกรกฎาคม อักษรย่อผัวเมียสายแซ่บอันฟอลโลว์ไอจีกัน?
อุ้ม : ตอนนั้นเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วค่ะ ไม่ใช่ตัดสินใจว่าจะจบกัน แต่เป็นวันที่เรากลับบ้าน กลับมากรุงเทพฯ มาพักใจ ใน 7 ปีนั้นมีความสุข เพราะสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตอุ้มก็คือน้องดีสนีย์กับน้องการ์ตูน ถึงน้องการ์ตูนจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ เป็นลูกพี่บอล แต่อุ้มก็รักเขาเหมือนลูกแท้ๆจริงๆ และเราก็แคร์เขามากๆ ส่วนน้องดีสนีย์เขาคือของขวัญที่ดีที่สุด ถ้าถามว่าย้อนเวลากลับไปได้อุ้มจะยังเลือกผู้ชายคนนี้ไหม อุ้มก็จะยังเลือกเขานะคะ เพราะเขาได้ให้ของขวัญที่ดีที่สุดก็คือน้องดีสนีย์
ทำไมตอนนั้นเลือกไม่รับงานในวงการ 5-6 ปี?
อุ้ม : ที่ไม่ได้รับเพราะมีเรื่องคดีของพี่บอล (อดีตสามี) เขาเกิดขึ้น ตอนนั้นก็เป็นช่วงที่เรากำลังพีคเลย ในบทลำเจียก เรื่องนาคี คือดังมากๆ อุ้มก็ได้รับโอกาสที่ดีมากๆ แต่พอมีข่าวของเค้าเกิดขึ้นเราก็เลือกที่จะไม่ปล่อยมือเค้า แล้วก็จับมือเค้าว่าเราอยากจะพิสูจน์ว่าคนเรารักกัน ทั้งสุขและทุกข์มันก็ต้องไปด้วยกันดิ แต่พอเค้าทุกข์ทำไมเราถึงต้องทิ้งเค้า งานทุกอย่างก็เลยปฏิเสธเราออกไปหมด เพราะเขาก็มองภาพลักษณ์เราไม่ดี ที่เราไปเข้าข้างคนนี้
ทุกคนคนเตือนให้เลิก?
อุ้ม : เตือนค่ะ คือคนรอบข้างอุ้ม คนในครอบครัวอุ้มก็บอกให้เลิกหมด แต่ว่าอุ้มเป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเอง และก็เชื่อมั่นว่าเราต้องข้ามมันไปให้ได้ดิ ไม่มีใครบังคับให้เรารักหรือเลิกกับใครได้ อย่างเช่นเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นตอนนี้ ก็จะมีสังคมพูดว่าพ่อแม่อุ้มสั่งให้เลิกกัน มันมีกระแสแบบนี้
พ่อแม่ให้กลับกรุงเทพฯ ให้เลิกกันไปเลย เอาหลานกลับมา?
อุ้ม : พ่ออุ้มสุดยอดแล้ว เป็นคนไม่ต้องการให้ครอบครัวแตกที่สุด ต้องการจะประสานรอยร้าวทั้งหมด เพราะครอบครัวเราอบอุ่นมากๆ เราคุยกันทุกเรื่อง เราปรึกษากันทุกเรื่อง แล้วพ่อแม่อุ้มไม่เคยอยากให้ครอบครัวเราแตก ไม่ว่าจะอุ้มหรือน้องนิวเคลียร์ แม่กับพ่ออยู่ในสถานการณ์น้องนิวเคลียร์เลิกพี่เพชร (เพชรจ้า) ไปแล้ว พออุ้มต้องมาเจอแบบนี้ หัวอกคนเป็นพ่อแม่เขาทุกข์มาก เขารักหลานมากๆ เขาไม่ได้อยากให้ดีสนีย์มีแผลในใจ มีปมในใจ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะมากระทบไทก้ากับน้องดีสนีย์ค่ะ
ตอนนี้ลูกอยู่ที่ไหน?
อุ้ม : ตอนนี้ลูกอยู่กรุงเทพฯค่ะ เดี๋ยวจะพากลับมาเรียนสิ้นเดือนกันยายนนี้ เพราะเขาเปิดที่ใหม่ที่เดียวกับน้องไทก้าตอนตุลาคม ตอนนี้ก็ไปสมัครโรงเรียนที่ใหม่ไว้แล้ว ใกล้ๆบ้าน หน้าบ้านเลย
พยายามเคลียร์ พยายามปรับกันแล้ว?
อุ้ม : เราทำทุกอย่างให้ดีที่สุดด้วยสติ และตกลงกันทั้งสองฝ่ายว่าเราไม่อยากให้ลูกได้รับผลกระทบที่พ่อแม่มาทะเลาะกันให้ลูกเห็น หรือว่ามาท็อกซิกใส่กัน เพราะฉะนั้นในเมื่อมาถึงทางตันแล้ว ต่างคนต่างมีเวย์ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่เวย์ที่เหมือนกันคือเราจะเป็นพ่อแม่ที่ดีที่สุดให้กับลูกทั้งสองคน
ข่าวเม้าธ์ว่าเลิกกับอุ้มเพราะผู้จัดการอุ้ม ไม่ยอมให้สามีทำการบ้าน?
อุ้ม : ขอแก้ข่าวนิดนึง ไม่มี 2 ปีแรก ปีหนึ่งท้อง 9 เดือน อีกปีอุ้มเลี้ยงลูกคนเดียว 24 ชั่วโมง ต้องเข้าใจความแม่ เรามีลูกคนแรก และไม่ได้อยู่ข้างๆแม่ตัวเอง ไม่ได้อยู่ข้างๆน้องสาวที่เคยมีประสบการณ์การเลี้ยงลูกมาก่อน อุ้มไม่มีคนเป็นที่ปรึกษาเลย ก็งูๆปลาๆกับการเลี้ยงลูกคนนึงให้ดีที่สุด เราต้องปั๊มนม ให้ลูกเข้าเต้า เลี้ยงลูก พอลูกขวบนึงก็กลับมามีอะไรกันเหมือนเดิม ก็มีการนัดกัน แต่ต้องนัดตามเวลา เพราะอุ้มเลี้ยงลูกเองเป็นหลัก อุ้มไม่มีพี่เลี้ยง
บอกว่าพยายามง้อ พยายามยื้อ?
อุ้ม : เรียกว่าคุยกันมากกว่า กว่าจะเลิกกันก็มีการเคลียร์กัน หาบทสรุปให้ได้ค่ะ
เอานมออกแล้วเขาเปลี่ยนใจ?
อุ้ม : อุ้มไม่รู้ว่าคนอื่นหรือใครคิดยังไง แต่ก่อนที่เราจะเอาหน้าอกออก เรามีการพูดคุยกัน มีการปรึกษากัน ซึ่งเขาก็บอกว่าอะไรที่อุ้มมีความสุข อุ้มทำเลย เพราะอุ้มมีปัญหาปวดหลังหนักมาก เราใส่เต้ามานาน พอเราให้นมลูกแล้วมันหมด มันยาน มันใหญ่ มันหนัก แล้วอุ้มคิดว่าชีวิตนี้เรามีผู้ชายคนนี้เป็นผัว เราไม่คิดจะมีผัวคนไหนอีกแล้ว ต่อให้กูน่าเกลียด ผัวก็ต้องรักกูสิ ต่อให้นมแบน แต่กูไม่ได้ไปรักคนอื่น ไม่ได้คิดจะไปเปิดนมให้คนอื่นดูอีกแล้ว ถ้าเราอยากมีนมใหญ่ให้คนอื่นดู แต่เราคิดว่าเราไม่ได้อยากให้คนอื่นดูแล้วไง เราคิดว่าชีวิตนี้เรามีเขาแค่คนเดียวแล้ว เราก็เอาออกให้มันเป็นธรรมชาติ อุ้มมาออกกำลังกาย สายสปอร์ตแล้วไง
ย้อนกลับไปตอนนาคีกำลังดัง ทุกคนดังหมด ตอนนั้นที่หยุดรับงานเสียดายไหม?
อุ้ม : ตอนนั้นไม่เสียดายนะคะ ตอนนั้นไม่ได้มองเรื่องเงินหรือชื่อเสียงเป็นสิ่งสำคัญ ตอนนั้นมันเครียดอยากช่วยเขาให้ผ่านวิกฤติตรงนี้ไปให้ได้ มันเลยไม่ได้คิดเรื่องตัวเองเลย คิดแค่ว่าทำยังไงให้เขากลับมายืนในสังคมได้ โดยที่ไม่โดนสังคมประณามว่าเป็นคนไม่ดี
ประเด็นที่แม่โพสต์เดือด?
อุ้ม : อันนี้ไม่รู้เลยค่ะ แม่เขาโพสต์อาจไม่ได้เกี่ยวกับคนๆนี้ เขาอาจโพสต์ของเขา แล้วบังเอิญจังหวะเวลาไปตรงกัน ไม่ได้เกี่ยวกับพี่บอลค่ะ อุ้มกับเขาไม่ได้มีปัญหากันเรื่องเงินค่ะ
ความรักครั้งนี้มันถึงตอนจบแล้วใช่ไหม?
อุ้ม : อุ้มกับเขาก็เซ็นใบหย่ากันเรียบร้อยแล้วค่ะ ทางกฎหมาย และตัวอุ้มเองกับเขาก็อย่างที่ตกลงกันเราจะยุติความสัมพันธ์การเป็นสามีภรรยากัน เป็นเพียงแค่พ่อกับแม่ที่ดีที่สุดให้ลูกทั้งสองคน โดยพี่บอลก็รับผิดชอบเรื่องของลูกไป ตัวอุ้มก็ต้องคัมแบ็กกลับมาทำงาน
หลังจากนี้จะรับงานในวงการแล้ว?
อุ้ม : ค่ะ ห่างหายไปนานแล้ว ขอโอกาสนะคะ ต้องไปทำนมใหม่ไหมคะ (หัวเราะ)
ชีวิตความสุข?
อุ้ม : ลูกค่ะ ลูกคือความสุขที่สุดของอุ้ม ทุกครั้งที่เรามีปัญหา มีครอบครัวเราจริงๆ มีน้องนิว มีพ่อแม่ มีน้องชาย ทุกคนซัปพอร์ตเราจริงๆ แล้วคนที่รับรู้ความทุกข์เราที่สุดคือน้องดีสนีย์ เขารู้ เขาเห็น และเขาพูดกับอุ้มทุกวัน ดีสนีย์รักหม่าม๊านะ หม่าม๊าเป็นดวงใจของดีสนีย์นะ เวลาเขาเห็นอุ้มหน้าเครียด เขาจะบอกว่าหม่าม๊าร้องไห้ทำไม หม่าม๊าเครียดทำไม เขาก็คงงงๆ ตอนนี้ถึงบอกว่ายังไม่ได้ย้ายออกมาจากเชียงใหม่ เพราะเราอยากให้เขามีโมเมนต์ค่อยๆปรับกับพี่สาวเขา พ่อเขา ก่อนที่เขาจะต้องแยกออกมาจริงๆ ตอนนี้เขาพูดเสมอว่าเขาเกิดเชียงใหม่ เขาเป็นเด็กเชียงใหม่ แต่ตอนนี้เราก็พูดว่าตอนนี้บ้านเรากำลังจะพังนะ เราต้องซ่อมบ้านนะลูก เราต้องย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ มาเรียนกรุงเทพฯนะ เขาก็เริ่มเก็ต เริ่มเข้าใจ แต่เขาไม่จำเป็นต้องมารับรู้ว่าปัญหาของพ่อแม่คืออะไร ท้ายที่สุดแล้วอุ้มไม่ได้อยากให้ลูกรู้สึกไม่ดี หรือรู้สึกว่าพ่อกับแม่มีปัญหากัน หรือไม่ภูมิใจในตัวพ่อเขาหรือตัวอุ้ม ฉะนั้นเลือกได้อุ้มไม่อยากพูดถึงปัญหาว่าคืออะไรอีกแล้ว เพราะมันจบแล้วค่ะ
วันนี้คือจบ?
อุ้ม : ใช่ค่ะ ทำหน้าที่พ่อแม่