มาริโอ้ เปิดใจคบ จันจิ เกือบ 9 ปี ตอบชัดแต่งเมื่อไหร่ ลั่นถ้าพร้อมมีลูกทันที

มาริโอ้ เปิดใจคบ จันจิ เกือบ 9 ปี ตอบชัดแต่งเมื่อไหร่ ลั่นถ้าพร้อมมีลูกทันที

พระเอกหนุ่ม 'มาริโอ้' เปิดใจเล่าเรื่องราวชีวิต กับเหตุการณ์ที่ทำให้ไขว้เขว เผยคบ 'จันจิ' เกือบ 9 ปี ตอบชัดแต่งเมื่อไหร่ ลั่นอยากมีลูกถ้าพร้อมมีเลยทันที

รายการ WOODY FM ล่าสุด ของ 'วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา' ได้พระเอกแถวหน้าของวงการ 'มาริโอ้ เมาเร่อ' มาเปิดใจเล่าเรื่องราวชีวิตทั้งในอดีตและปัจจุบัน เหตุการณ์ที่ทำให้ชีวิตไขว้เขว และอัปเดตความรักกับสาว 'จันจิ' ที่คบหาดูใจกันมานานเกือบ 9 ปี

 

 

ผ่านมากี่ปีแล้วรักแห่งสยาม?

มาริโอ้ : ประมาณ 16 ปีแห่งความหลังครับ (หัวเราะ) เป็นเรื่องแรกในชีวิต ตอนแรกมีไปแคสต์ก่อนกับพี่นก สินจัย แล้วพี่มะเดี่ยว ผู้กำกับฯ เขาก็บอกกับแม่ผมว่ามันต้องมีจูบกับผู้ชายนะ แม่ก็บอกว่า เฮ้ย! มันต้องมีอย่างงี้ด้วยหรอ แล้วก็ถามว่าเขาให้ค่าตัวเท่าไหร่ ได้แสนเจ็ด ซึ่งเยอะมากในตอนนั้น แม่ก็บอกเป็นฉัน ฉันจูบตั้งแต่ห้าหมื่นแล้ว (หัวเราะ)

 

ถ้าย้อนกลับไปดูแฟชั่นของตัวเองในช่วงยุคต่างๆ ที่ผ่านมา มีลุคไหนที่จำไม่ลืม?

มาริโอ้ : มันก็มีหลายแบบครับ ถ้าเป็นตอนเด็ก ๆ แฟชั่นมันก็จะไม่เหมือนยุคนี้ ที่จำแม่นเลยก็จะเป็นแฟชั่นฮิปฮอป ยุค 90s โจอี้บอย, ไทยเทเนี่ยม, ดาจิม อะไรแบบนี้ ก็จะแต่งฮิปฮอปไปสยาม เหมือนอยู่นิวยอร์ก อยู่ LA เลยครับ ร้อนแต่ใจเรามันรักครับ (หัวเราะ)

 

ปี 51 คุณพ่อจากไปกะทันหัน ทำให้คุณเขวไปเยอะมาก?

มาริโอ้ : ตอนนั้นก็ประมาณอายุ 20 เพิ่งเข้าวงการได้ไม่นาน เข้าวงการมาตอนอายุ 18 ครับ เริ่มเล่นหนังได้ 2 ปีคุณพ่อก็เสีย ผมสนิทกับพ่อมาก พ่อก็เหมือนเป็นพี่ชายเป็นเพื่อนผมด้วย ก็เลยเศร้ามาก ตอนนั้นมันกำลังรุ่งมาก แบบว่างานแสดงกำลังเพิ่งมาในวงการเลย แล้วพ่อก็จากไปก็ทำให้เราเขว คิดในใจว่าไม่อยากให้มันเกิดขึ้น รู้ว่าพ่อป่วย แต่ไม่คิดว่าจะไปเร็วขนาดนี้ เพราะช่วงนั้นเราก็ยุ่งอยู่ด้วย ถ่ายงานอย่างเดียวเลย เขาก็ดูแลธุรกิจที่บ้านอยู่

 

การใช้ชีวิตเปลี่ยนไปเลยไหมหลังจากที่คุณพ่อเสีย?

มาริโอ้ : เป้าหมายไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ แต่ว่าเหมือนมันเขว เหมือนเสาหลักเราหายไป อินสไปเรชันของผมก็มาจากแกหลาย ๆ อย่าง พอแกไปผมก็รู้สึกว่าผมจะไม่ให้มันหายไป จะทำเหมือนแกยังอยู่ เช่น ทำงานและทำความฝันของพ่อกับผมให้สำเร็จ

 

มาริโอ้ เปิดใจคบ จันจิ เกือบ 9 ปี ตอบชัดแต่งเมื่อไหร่ ลั่นถ้าพร้อมมีลูกทันที

 

 

ความฝันของพ่อคืออะไร?

มาริโอ้ : เล่นรถเก่าครับ ผมก็ยังทำสิ่งนั้นอยู่ ขับรถเก่าอะไรแบบนี้ คนเขาก็บอกว่าเปลืองตังค์อะไรแบบนี้ แต่ขับแล้วผมคิดถึงพ่อแล้วมีความสุข พาแม่ผมขับแทนพ่อ เพราะรถแต่ละคันที่ผมเก็บคือรถที่เราคุยกันตั้งแต่เด็กครับ คือเขาโตในยุคนั้น เวลาเขาขับก็คือเป็นยุคเขา อย่างเขาขับ Volkswagen Karmann Ghia เขาก็จะเล่าให้ฟังตลอดว่าขับพาสาวไปเที่ยวอิตาลี ไปโน้นนี่สนุกมาก ขับ Alfa Romeo 101 อะไรอย่างนี้ เปิดประทุนเป็นรถที่ดีมากเลย แกก็ชอบเล่าให้ฟัง ผมก็ไปหาจนได้แต่ละคันที่แกเล่า

 

ตอนนี้โรงเก็บรถก็ใหญ่พอสมควรเลย?

มาริโอ้ : พอสมควรครับ เพื่อดูแล

 

คอลเลกชันที่พ่อชอบมีกี่คันแล้ว?

มาริโอ้ : เป็น 10 ครับ ต้องดูแลหมดเลย เปลี่ยนน้ำมัน ดูยาง ดูอะไหล่ ต้องคอยวอร์ม ต้องขับเขา เหมือนมีลูก 10 คนครับ ต้องคุยกับเขาทุกวัน เป็นไงลูกวันนี้ดื้ออีกแล้วเหรอ ลูกเอ๊ยตื่นเถอะ หลับทำไมเนี่ย (หัวเราะ)

 

คันไหนรักที่สุด?

มาริโอ้ : คันแรกแล้วกันครับ เคยนั่งดูฝรั่งเขาบอกว่าคุณขายรถคันไหนก็ได้ แต่อย่าขายคันแรกที่ได้มาแล้วกัน คันนั้นคือ Beetle ปี 1962 ครับ ชื่อน้องย้วย ซื้อวันแรกน้องย้วยนี่ก็พวงมาลัยหลุด อะไหล่ก็จะตายอยู่แล้วครับวันแรก ล่าสุดก็พาน้องย้วยไปเบตงมาครับ ขับไปทะเล ขับไปอะไรแบบนี้ จะขับจนกว่าจะขับมันไม่ไหวแล้วถึงจะขาย

 

ตอนนี้คุณแม่เป็นยังไงบ้าง?

มาริโอ้ : สบายดีครับ ก็รันโรงงานเองทั้งหมด แม่ผมเป็นคนลุย เป็นคนเฮฮา เอนเนอร์จี้เขาเยอะกว่าผมอีก แม่ผมปีนี้ 72 แล้วครับ แต่เขาสุดมาก ๆ เต็มที่ เขาเป็นคนสู้ ทุกวันนี้เขาปวดหลังเขาก็นั่งรถไฟฟ้าไปทำกายภาพด้วยตัวเอง กลับบ้านเอง

 

เวลาอยู่บ้านเราทำอะไร?

มาริโอ้ : จัดบ้าน ถูบ้านไปเรื่อยครับ เก็บของเล่น ไม่มีแม่บ้านต้องทำเองครับ แต่ก็มีบ้างบางอาทิตย์ก็ให้คนมาช่วย ส้วมก็ขัดเอง เสื้อผ้าตอนนี้ก็กำลังเรียนรู้ที่จะซักเองครับ

 

มาริโอ้ เปิดใจคบ จันจิ เกือบ 9 ปี ตอบชัดแต่งเมื่อไหร่ ลั่นถ้าพร้อมมีลูกทันที

 

กับ 'จันจิ' คบกันมานานมากเลย ผ่านอะไรกันมาบ้าง?

มาริโอ้ : ครับ จะ 9 ปีแล้วครับ ก็ผ่านอะไรกันมาเยอะ งอนกันไม่เข้าใจกันหลายอย่าง

 

แล้วจูนกันยังไง?

มาริโอ้ : คือเขาเป็นคนง่าย ๆ แล้วก็ลุย ๆ เหมือนเรา แล้วก็ทำงานเยอะเหมือนเราด้วย ก็เลยเข้าใจกันง่าย บางทีไม่ต้องพูดอะไรกันเยอะ เขาก็รู้ว่าเราแค่นี้นะ ไม่ได้อยากออกไปไหนอะไรอย่างงี้ครับ

 

ก่อนหน้านี้ที่ไม่เข้าใจกันเป็นเรื่องประเภทไหน?

มาริโอ้ : ต่างคนต่างเหนื่อยครับ เขาก็ทำงานเยอะ ผมก็ทำงานเยอะ บางทีเขาก็มีความต้องการ ผมก็มีความต้องการของผมที่แบบว่าอยากจะไปเที่ยวตรงนี้ที่อยากไป แต่เขาก็อยากไปดูอย่างอื่นไง จะไปทานข้าว แต่เรายังจะไปช็อปปิ้งอยู่ เดี๋ยวนี้ก็ไปคนละครึ่งครับ ไปกินก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยช็อปต่อ (หัวเราะ)

 

อะไรใน 'จันจิ' ที่ทำให้คุณมีความสุขที่ได้อยู่กับเขา?

มาริโอ้ : คงเป็นความง่าย ๆ สบาย ๆ ของเขา และเขาก็เป็นคนที่คอยเป็นห่วงเราตลอด ถ้าเราไม่ค่อยสบายเขาก็จะมาดูแล เวลาผมป่วยเขาก็จะไปเป็นเพื่อนตลอด ก็ลุยกันมาหมดอะครับ ผมก็รถเก่าเยอะ เขาก็เจอมาหมดทุกสิ่ง (หัวเราะ) คนเข็นรถ เพราะถ้าผมให้เขาไปบังคับบางทีเดี๋ยวกลัวชน เขาบอกไม่เป็นไรขอเข็น ผมก็สงสารเพราะกลัวคนอื่นมองมาไม่ดีครับ โอ้ให้แฟนเข็นรถ เข็นบ่อยด้วย (หัวเราะ) บางทีก็เคยไปพังอยู่บนสะพาน

 

มาริโอ้ เปิดใจคบ จันจิ เกือบ 9 ปี ตอบชัดแต่งเมื่อไหร่ ลั่นถ้าพร้อมมีลูกทันที

 

เป็นคนคลั่งรักไหม?

มาริโอ้ : ก็ไม่ขนาดนั้นนะครับ ไม่ได้ถึงกับคลั่งรัก ก็คิดว่าทุกคนต้องมีความรัก แต่ไม่ถึงกับไม่มีไม่ได้

 

เวลาอยู่ด้วยกันมีเสียงสองไหม?

มาริโอ้ : มีหลายเสียงครับ ผมก็มีวาไรตี้ของเสียงเหมือนกัน บางทีก็จะมีเสียงแบบว่า อาแอ๊ด สมบัติ อะครับ หล่อ ๆ หน่อย จันจิไปไหนเหรอฮะวันนี้ เล่นมุกอะไรแบบนี้ครับ (ยิ้ม) แล้วก็มีเสียงเล็ก ๆ แกล้ง ๆ กัน

 

แล้วเขามีเสียงสองไหม?

มาริโอ้ : โอ้โห... เยอะ หลายเสียงเลย

 

สื่อถามคุณบ่อยมากเลยว่าเมื่อไหร่จะแต่งงาน?

มาริโอ้ : ครับ ถามบ่อยมากครับ ผมก็บอกว่ายังไม่ได้รีบเลย ไม่ได้รีบร้อนต้องแต่งตอนนี้ ตัวน้องเขาเองก็ไม่ได้รีบร้อน ก็ค่อย ๆ ไป สร้างเนื้อสร้างตัวไปครับ มันก็ควรมีสำหรับผู้หญิง แค่เรายังไม่ได้รีบครับ

 

มาริโอ้ เปิดใจคบ จันจิ เกือบ 9 ปี ตอบชัดแต่งเมื่อไหร่ ลั่นถ้าพร้อมมีลูกทันที

 

โมเมนต์แบบไหนที่คิดว่าเราพร้อมแล้ว?

มาริโอ้ : จริง ๆ ผมรู้สึกว่ามันก็เป็นอะไรที่มันก็ต้องคิดแล้วครับ เพราะว่าเราก็อายุเยอะขึ้นทุกวัน ผมแค่คิดว่าถ้าสำหรับผมในการที่มันจะต้องแต่งก็คือเรื่องของอายุครับ เพราะว่าพ่อมีผมช้าถึงจากไปเร็ว เลยรู้สึกว่าถ้าผมได้เป็นพ่อคนอยากอยู่กับเขานาน ๆ ก็เลยถ้าเป็นไปได้พร้อมก็จะต้องลุย

 

อยากมีลูกไหม?

มาริโอ้ : ผมอยากมีนะครับ มนุษย์เราก็มีหลายปัจจัย บางคนก็บอกว่าเลี้ยงเด็กยุคนี้เหนื่อยนะ แต่ผมรู้สึกว่าคือผมเห็นพ่อเลี้ยงผมมา แม่ผมเลี้ยงผมมา พ่อผมไปรับผมที่โรงเรียนทุกวันเลย ยันผม ม.5 ม.6 เลย มันเป็นอะไรที่อบอุ่น แล้วก็ยังจำได้ทุกวันเลยว่ามันเป็นโมเมนต์ที่นั่งรถมากับพ่อตอนเช้า พ่อมารับตอนเย็นอะไรอย่างงี้ ผมว่ามันเป็นโมเมนต์พ่อลูกน่ารัก