‘Seventeen’ โชว์จัดเต็มคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในไทย ที่ราชมังฯ
“Seventeen” บอยแบนด์แถวหน้าของ “K-POP” กลับมาเล่นคอนเสิร์ตใน “ประเทศไทย” อีกครั้ง ในชื่อว่า “SEVENTEEN TOUR 'FOLLOW' TO BANGKOK” เมื่อวันที่ 23-24 ธ.ค. ที่ผ่านมา จัดเต็มทั้งโชว์ แสง สี เสียงสุดตระการตา พร้อมลูกอ้อนเอาใจ “กะรัต” ชาวไทย ดัน #SVTinBKK ติดเทรนด์
เสียงกรี๊ดดังกระหึ่มทั่วราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อสมาชิกทั้ง 11 คนของ “Seventeen” บอยแบนด์ระดับตัวท็อปของวงการ “K-POP” ปรากฏตัวบนเวทีคอนเสิร์ต โดย “อูจี” โปรดิวเซอร์ของวงโหนสลิงออกมา ยิ่งทำให้เสียงกรี๊ดดังขึ้นไปใหญ่ ซึ่งเพลงแรกที่หนุ่ม ๆ ร้องเปิดตัว คือ “Super” หนึ่งในเพลงที่ฮิตที่สุดของปีนี้ มาพร้อมกองทัพแดนเซอร์อีกนับสิบชีวิต
นอกจากท่าเต้นที่เท่และพร้อมเพรียงเรียกเสียงกรี๊ดได้ตลอดแล้ว เพลงนี้มีเอฟเฟกต์เปลวไฟที่ผุดมาจากเวทีเกือบทั้งเพลง พร้อมจุดพลุเป็นสัญญาณว่าความสนุกที่แท้จริงกำลังจะมาแล้ว
Seventeen ทำการแสดงอย่างต่อเนื่องกับเพลง “DON QUIXOTE” และ “Clap” เพลงเท่ปลุกอารมณ์ให้ “กะรัต” เหล่าแฟนคลับร่วมปรบมือในท่อนฮุคของเพลง ก่อนที่ทั้ง 11 คนจะกล่าวแนะนำตัว ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายในครั้งนี้พี่ใหญ่ของวงทั้ง 2 คนอย่าง “เอสคูปส์” (S.Coups) และ “จองฮัน” (Jeonghan) ไม่ได้ร่วมคอนเสิร์ตในครั้งนี้ เนื่องจากต้องพักฟื้นหลังจากอาการผ่าตัด
แต่ทั้ง 11 คนที่เหลือ “โจชัว” (Joshua) “จุน” (Jun) “โฮชิ” (Hoshi) “วอนอู” (Wonwoo) “อูจี” (Woozi) “ดิเอท” (The8) “ดีเค” (DK) “มินกยู” (Mingyu) “ซึงกวาน” (Seungkwan) “เวอร์นอน” (Vernon) และ “ดีโน่” (Dino) ก็เอนเตอร์เทนคนดูเต็มที่ ในช่วงแนะนำตัวแต่ละคนได้ทักทายผู้ชมเป็นภาษาไทย ทำเอากะรัตส่งเสียงเชียร์ด้วยความเอ็นดูตลอด ไม่ว่าจะเป็น สวัสดีครับ คิดถึงนะครับ รักนะจุ๊บ ๆ ขอบคุณครับ สบายดีไหมครับ
ทั้งนี้ Seventeen เคยมาร่วมงานประกาศรางวัล “37th Golden Disc Awards” ที่ราชมังคลากีฬาสถานเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และพวกเขาต่างฝันว่าอยากจะมาเล่นคอนเสิร์ตที่สเตเดี้ยมใหญ่ ๆ แบบนี้ ซึ่งความฝันนั้นได้กลายเป็นจริงแล้ว พร้อมขอบคุณที่กะรัตเดินมาร่วมสร้างความสุขด้วยกันในวันนี้ และมีมุกหวานมาหยอดแฟนคลับด้วย “คืนนี้พระจันทร์สวยมาก แต่กะรัตสวยกว่า” ยิ่งเรียกเสียงกรี๊ดจากผู้ชมทั้งสนาม
หลังจากนั้นเข้าสู่ช่วงเพลงช้าที่ทุกคนร้องตามได้อย่าง “Don’t Wanna Cry” หนึ่งในเพลงฮิตที่สุดของวงที่มีท่าเต้นสุดโหด แต่ทุกคนก็ยังเต้นราวกับเป็นคนเดียวกัน ต่อด้วยเพลงให้กำลังใจอย่าง “F*ck My Life” และ “Thanks” เพลงขอบคุณแฟนคลับที่ย้ายมาทำการแสดงตรงเวทีกลาง
โชว์ชุดถัดมาเป็นการแบ่งตามยูนิตความถนัดของสมาชิกแต่ละคน เริ่มต้นด้วย Vocal Unit ซึ่งประกอบด้วย โจชัว อูจี ดีเค และซึงกวาน ได้เลือกเพลงความหมายดี ๆ อย่าง “Dust” และ “Pinwheel” มาร้อง ซึ่งแสดงให้เห็นศักยภาพทางการร้องได้อย่างดี
ก่อนจะส่งไม้ต่อให้ Performance Unit ของ จุน โฮชิ ดิเอท และดีโน่ กับเพลง “Highlight” ที่ออกสเต็ปสุดเท่ในชุดสูท ตามมาด้วยเพลงชื่อยาว “I Don’t Understand But I Luv U” มีท่อนโซโล่ให้แต่ละคนได้โชว์เต้นอย่างเซ็กซี่เรียกเสียงกรี๊ดจากกะรัตได้ดังกระหึ่ม
ปิดท้ายที่ Hip-Hop Unit วอนอู มินกยู และเวอร์นอน ออกมาพร้อมกับรถถังคันใหญ่ พร้อมรัวแร็ปโหด ๆ ในเพลง “Back It Up” ส่วนการแสดงใน “Fire” ก็ร้อนแรงสมชื่อเพลง แม้จะมีเปลวไฟพวยพุ่งตลอดเพลง แต่ก็สู้ท่อนแรปและท่าเต้นของทั้ง 3 คนไม่ได้เลย
จากนั้นทั้ง 11 คนกลับมารวมตัวกันอีกครั้งในธีมเฟสติวัลสาดเพลงสนุกใส่ผู้ชมไม่ยั้งทั้ง “HOME;RUN” “Left&Right” ซึ่งทั้ง 2 เพลงมีช่วงเต้นฟรีสไตล์ทำให้ได้เห็นความทะเล้นและเสน่ห์ของหนุ่ม ๆ แต่ละคนได้อย่างดี อีกทั้งกะรัตต่างเฝ้ารอว่าท่อนร้องของมินกยูและวอนอูจะใน Left&Right จะเปลี่ยนเป็นอะไร เพราะแต่ละที่ร้องไม่เหมือนกัน โดยในเวอร์ชันกรุงเทพเปลี่ยนเป็น มินกยูร้องว่า “What's Up Bangkok” ส่วนวอนอูทำท่าหัวใจไว้ที่แก้ม ยิ่งเรียกเสียงกรี๊ดจากผู้ชมได้เป็นอย่างดี
ระหว่างโชว์เพลงน่ารัก ๆ ความหมายดีอย่าง “Beautiful” ทั้ง 11 คนได้แยกกันขึ้นรถรางทักทายกับผู้ชมในสนาม โดยมีเปเปอร์ชู้ตรูปดอกไม้สีชมพูและฟ้า ซึ่งเป็นสีของวง ปลิวว่อนไปทั่วสนาม เป็นภาพที่สวยงามมาก ก่อนจะตามมาด้วยเซอร์ไพรซ์สุดพิเศษ แสดงซิงเกิลใหม่ล่าสุด “God of Music” ครั้งแรกในโลกบนเวทีคอนเสิร์ตในประเทศไทย ซึ่งกะรัตชาวไทยก็สามารถร้องตามได้อย่างพร้อมเพรียง
หลังจากเต้นกันยับหลายเพลงแล้ว Seventeen ขอพักเหนื่อยพูดคุยกับกะรัตอีกรอบ ซึ่งทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอาหารไทยอร่อย ดีโน่กินข้าวเหนียวมะม่วงคนเดียว 2 จาน และจะกินส้มตำให้ได้ ส่วนเวอร์นอนไม่น้อยหน้าบอกว่าวันนี้กินข้าวผัดปู ขณะที่โฮชิกินปูผัดผงกะหรี่ ก่อนจะปรับอารมณ์ผู้ชมด้วยเพลงช้าให้กำลังใจกันกับ “April Shower” และ “Kidult” ปิดโชว์องก์นี้อย่างสมบูรณ์
ทั้ง 11 คนออกมาบนเวทีอีกครั้งในลุคนักแข่งรถสุดเท่ เพื่อแสดงเพลง “Anyone” และ “Good To Me” ซึ่งเมมเบอร์บอกว่า 2 เพลงนี้เป็นเพลงที่เซ็กซี่ที่สุดของพวกเขา จากนั้นชวนผู้ชม “เล่นเวฟ” โดยทุกคนให้ความร่วมมืออย่างดี จนออกมาเป็นภาพที่สุดงาม ก่อนจะจุนจะกล่าวว่าเพลงต่อไปเป็นเพลงสุดท้ายในคอนเสิร์ตนี้แล้ว นั่นคือเพลง “Hot” ทั้งกะรัตและศิลปินต่างร้องและเต้นกันชนิดไม่มีใครยอมใคร ร่วมร้องเพลงนี้กันดังกระหึ่ม โดยในตอนจบของเพลงมีการจุดพลุอย่างยิ่งใหญ่ตระการตานับร้อยดอก
แม้ Seventeen จะบอกว่า Hot เป็นเพลงสุดท้ายของคอนเสิร์ต แต่กะรัตทุกคนต่างรู้ดีว่าคอนเสิร์ตยังไม่จบมี Encore รออยู่ ซึ่งระหว่างนี้เหล่าแฟนคลับก็ชูป้ายที่เขียนบรรยายความรู้สึกของพวกเขาที่มีต่อ Seventeen หลังจากนั้นไม่นาน ทั้ง 11 หนุ่มก็ออกมาพร้อมกับรถรางที่วิ่งไปรอบสนาม เพื่อทักทายแฟนเพลงบนอัฒจันทร์ทั้งชั้น 1-3 พร้อมทำการแสดงเพลง “Run to You” และ “Together” เนื่องด้วยคอนเสิร์ตนี้จัดในช่วงใกล้เทศกาลคริสต์มาส ทำให้หนุ่มแต่งตัวออกมาในธีมคริสต์มาส มีหมวกซานตาคลอส ที่คาดผมเขากวาง และถุงสีแดงใบใหญ่ เข้ากับอากาศสบาย ๆ 25 องศาที่สุด
หลังจากนั้นทุกคนกลับขึ้นเวทีแล้วร้องเพลง “To You” เพลงที่บรรยายความสัมพันธ์ของ Seventeen และ กะรัตได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าเซบทีนจะเจออุปสรรคหรือเรื่องยาก ๆ ในชีวิต ก็ยังมีกะรัตอยู่เคียงข้างเสมอ เมื่อจบเพลงแต่ละคนก็พูดถึงความรู้สึกที่มีในคอนเสิร์ตครับนี้ โดยทุกคนดีใจที่ได้มาเล่นคอนเสิร์ตในสนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในไทย ขอบคุณกะรัตที่มาร่วมสร้างความทรงจำดี ๆ ด้วยกัน พร้อมสัญญาว่าจะกลับมาหาแฟน ๆ ชาวไทยให้เร็วที่สุด และคราวหน้าจะมาครบ 13 คน เอสคูปส์และจองฮันจะต้องมาสัมผัสบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความรักแบบนี้ให้ได้ ส่วนกะรัตไทยก็ทำโปรเจคน่ารัก ๆ ถือป้ายกระดาษที่เขียนว่า “음악의신이있다면 세븐틴이지” ที่แปลว่า ถ้ามีเทพแห่งดนตรี ก็คือเซเวนทีนยังไงละ ส่วนรอบวันอาทิตย์ คือ “혹여무슨일있어도 태국에서꼭만나” (ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กลับมาเจอกันที่ไทยอีกนะ)
พอหมดช่วงซึ้งเซบทีนก็ชวนกะรัตลุกขึ้นเต้นในเพลง “HIT” ซึ่งดูเหมือนศิลปินจะติดลม ร้องเพลงนี้ซ้ำถึง 3 รอบและปล่อยให้สมาชิกได้เต้นกันแบบฟรีสไตล์ ซึ่งคนดูเองก็สนุกไปด้วยเช่นกัน ก่อนจะปิดท้ายด้วยเพลงชาติของวงอย่าง “Very Nice” ที่ชวนคนดูลุกขึ้นเต้น (อย่างปลอดภัย) ทั่วทั้งสนาม แม้ว่าเพลงจะจบลงแล้ว แต่ด้วยความสนุกที่ติดลม ทำให้เล่นเพลง Very Nice ไปร่วมสิบรอบ
เมื่อศิลปินไม่เหนื่อย ไม่หยุด กะรัตก็สู้ต่อ กระโดดสุดแรง ใส่สุดแบบไม่มีใครยอมเหมือนกัน แต่กลายเป็นว่ากะรัตหลายคนโดนศิลปินหลอก เพราะแม้ศิลปินจะกล่าวอำลาจนเข้าเวทีไปแล้ว หลังจากนั้นเพียงไม่กี่นาที พวกเขาก็กลับมาบนเวทีและร้อง Very Nice แถมอีก พร้อมทิ้งท้ายว่า “แล้วพบกันอีกนะครับ คราวหน้าจะมาพร้อมกับพี่เอสคูปส์และพี่จองฮัน”
ตลอดระยะเวลาคอนเสิร์ตสามชั่วโมง ผ่านไปไวเหมือนโกหก เพราะ Seventeen เตรียมการแสดงมาเป็นอย่างดี ไม่มีช่วงเบื่อเลย ทั้งแสง สี เสียง เอฟเฟกต์ พลุ รถราง ฯลฯ สมกับสเกลทัวร์คอนเสิร์ตระดับสเตเดียม เห็นถึงความทุ่มเทในการฝึกซ้อม จนแสดงออกมาได้อย่างไร้ที่ติ ทั้งความพร้อมเพรียง พลังเสียง การเอ็นเตอร์เทนผู้ชม ความเอาใจใส่และต้องการสร้างประสบการณ์ที่ดีร่วมกับกะรัต ไม่ใช่แค่เซบทีนได้รับกำลังใจที่ดีจากกะรัต แต่กะรัตก็ได้รับพลังงานดี ๆ เติมเต็มไว้ใช้เป็นพลังงานสำหรับการรอคอยจนกว่าวันที่จะได้พบกันอีกครั้ง
เหมือนกับเนื้อเพลง “To You” ที่บอกว่า
소용돌이치는 하루 속에
ในวันที่พายุโหมกระหน่ำ
사소한 행복을 나에게 줘서
คุณมอบความสุขเล็ก ๆ มาให้ผม
비어 있는 내 두 손에
ในสองมือที่ว่างเปล่าของผม
세상의 모든 미소를 쥐여줘서
คุณก็ได้มอบทุกรอยยิ้มบนโลกมาให้
가파른 길에 숨이 찰 때도
แม้ว่าจะเหนื่อยบนที่สูงชัน
추운 날 길 잃은 때도
แม้จะหลงทางในวันที่หนาวเหน็บ
따듯한 온기와 함께 손을 내밀어주는
คุณก็จะยื่นมือออกมาช่วยผมไว้ด้วยความอบอุ่นเสมอ
그대에게 그대에게
จะส่งไปให้ถึงคุณ
전해주고 싶은 이야기
เรื่องที่ผมอยากเล่าให้คุณฟัง
그대에게 그대에게
จะส่งไปให้ถึงคุณ
말하고 싶어 이렇게 더
ผมอยากพูดคุยกับคุณให้มากกว่านี้
Oh, 소용돌이치는 바람 속에
ในสายลมที่พัดปลิวอยู่รอบตัว
영원한 사랑이 있다면
หากรักนิรันดร์มีอยู่จริง
그건 당신이겠죠
รักนั้นคงจะต้องเป็นคุณ